วิสุทธิ์ บินลาเต๊ะ : มาตรฐานตามซาอุฯ ต้องแก้กุรอ่าน

670
Wisoot Binlateh เฟสบุคของ ดร.วิสุทธิ์ บินลาเต๊ะ ผู้อำนวยการสำนักจุฬาราชมนตรีภาคใต้ เขียนบทความล่าสุดวิพากษ์ซาอุดิอารเบียใช้หัวข้อว่า มาตรฐานใหม่จากซาอุดิอารเบีย 

ระบุว่า มีแต่นบีเท่านั้น ที่ควรค่าแก่การบอกว่าถ้าเป็นอริกับท่าน ก็หมายถึงเป็นอริกับอิสลาม ส่วนคนอื่น ๆ นอกเหนือจากนบีแล้ว ผู้ใดอ้างว่าตนคืออัลฮักแต่ผู้เดียว เป็นอริกับตนก็หมายถึงเป็นอริกับอิสลาม ผู้นั้นนับเป็นผู้บังอาจโดยแท้

ท่านนบีทำทุกอย่างตามคำสั่งหรือโดยนัยแห่งคำสั่งจากอัลลอฮพระผู้เป็นเจ้า กรณีที่ท่านใช้ดุลพินิจของตนเอง หากมีความผิดพลาด อัลลอฮก็ทรงปรับแต่งให้ ทั้งหมดที่ปรากฎจากนบีจึงเป็นสิ่งที่ถูกรับรองแล้วจากพระผู้เป็นเจ้า

ส่วนคนอื่น ๆ หลังจากท่านนบี อาจมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ แม้จะบอกว่าตนยึดอัลกุรอานและซุนนะฮ แต่บางทีการตีความก็คลาดเคลื่อนได้ ยิ่งการตีความแบบแยกส่วนและยึดตามตัวอักษร โดยไม่คำนึงถึงบริบทแห่งข้อความ บริบททางสังคม และลีลาแห่งวาทศิลป์ของภาษาในแบบที่วะฮาบียะฮชอบทำด้วยแล้ว ยิ่งมีโอกาสพลาดได้ตลอดเวลา

แม้กระทั่งท่านอบูบักรที่ถือว่าเป็นผู้ประเสริฐสุดแล้วในบรรดาอุมมะฮทั้งมวลของบรมศาสดาก็ยังไม่เคยเลยที่จะบอกว่าข้าดีที่สุด ใครเป็นอริกับข้า ผู้นั้นเป็นอริกับอิสลาม ตรงกันข้ามท่านพูดด้วยความถ่อมตนว่า “ข้ามิใช่คนดีที่สุด หากข้าผิดพลาดก็จงช่วยทำให้ถูกด้วย”

ดังนั้น ในหมู่อุละมาอฺของอะฮลิสซุนนะฮวัลญะมาอะฮ จึงไม่มีใครสักคนที่คิดผูกขาดความถูกต้อง ท่านอิหม่ามชาฟิอีย์เองก็บอกว่า “ฉันเห็นว่าความคิดฉันถูกต้องแล้ว แต่ก็อาจพลาดได้ ฉันเห็นว่าความคิดคนอื่นผิดก็จริง แต่มันอาจถูกต้องก็ได้”

การคิดว่าสิ่งที่ตนทำทั้งหมดคือความถูกต้อง ใครเห็นต่างถือว่าเป็นอริกับอิสลาม จึงย้อนแย้งอย่างยิ่งกับคำอ้างที่ว่าตนถือปฏิบัติตามอัลกุรอานและซุนนะฮ ในความเป็นจริงนั่นเป็นการบังอาจทำตนเสมอด้วยอัลกุรอานและซุนนะฮมากกว่า และผู้ใดเชื่อตามนั้นก็อาจเป็นการเชิดชูบุคคลขึ้นเที่ยบเท่าศาสดาอีกด้วย

หากใช้ซาอุฯ เป็นมาตรฐานวัดความถูกต้อง เราคงต้องแก้ไขอัลกุรอานและซุนนะฮเสียใหม่ เพราะอัลกุรอานไม่เคยใช้ให้คว่ำบาตรมุสลิมกันเองเพื่อเปิดทางให้ศัตรูกำเริบเสิบสานกับมุสลิมมากขึ้น แต่ซาอุฯ กลับทำ อัลกุรอานใช้ให้มุสลิมสามัคคีกันเพื่อต่อสู้กับยิว แต่วันนี้ ซาอุฯ ตัดความสัมพันธ์กับประเทศมุสลิม และกำลังเดินไปสู่การสถาปนาความสัมพันธ์กับยิว ถึงขั้นอนุญาตให้ร่วมมือกับยิวเพื่อถล่มพี่น้องฮามาสได้