สัมพันธ์ไทย-ซาอุฯและโลกอาหรับสดใส หลังงานTHA2018

297

งานTHA2018 ไม่เพียงได้สร้างประโยชน์ต่อสินค้าฮาลาลของไทย ยังนำไปสู่การเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุฯ ที่เป็นปัญหามายาวนานเกือบ 30 ปี สินค้าไทยจะได้รับอนุญาตให้ไปขายในซาอุฯอย่างเปิดกว้าง

รศ.ดร.ปกรณ์ ปรียากร ผู้อำนวยการสถาบันมาตรฐานอาลาลแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการจัดงาน Thailand Halal Assembly 2018 หรือ THA2018 ว่า การจัดงานครั้งนี้ มีความโดดเด่น ที่องค์กรของโลกมุสลิมที่เคยขัดแย้งกัน ได้เดินทางมาร่วมงานทั้งหมด ทั้งองค์กรที่ขัดแย้งกับระเทศไทย ขัดแย้งกับมาเลเซีย อินโดนีเชีย และที่ขัดแย้งกันเองในอ่าวอาหรับได้เดินทางมาร่วมงานอย่างครบถ้วน และมีการการแสดงออกในลักษณะทางบวก และพยายามอธิบายเรื่องที่เขาทำ ให้เกิดความเข้าใจระหว่างกันมากขึ้น มีการมารายงานว่า ประเทศต่างๆได้สร้างผลงานอะไรบ้าง

ในส่วนของเรา ซึ่งเป็นผู้เล่นหลักในอาเซียน รวมทั้ง มาเลเซีย และอินโดนีเชีย ซึ่งใน 3 ประเทศนี้ อินโดฯอาจขัดแย้งกับมาเลเซีย อาจจะขัดแย้งกับไทย ก็มีการยืนยันว่า จากนี้ไปความขัดแย้งจะไม่มีอีกแล้ว และทุกเรื่องคุยกันได้เกือบจะทั้งหมด และใน 3 ประเทศก็มีปัญหา อย่าง กลุ่มประเทศอาหรับก็มีปัยหาว่า จะไม่ให้การรับรองประเทศไทย แต่การที่เขามาร่วมงานแสดงว่า ประเทศเหล่านั้นให้เกียรติประเทศไทย และเราต้องขอขอบคุณที่เขาส่งคนรุ่นใหม่เข้ามา เป็นคนหนุ่มที่เข้าใจปัญหา เข้าใจวิธีการเจรจา มีวิธีการในการตอบคำถามที่ดี และให้การตอบรับที่ดีต่อประเทศไทย ที่เป็นมิตรกับทุกประเทศ

‘ตอนที่เราพาคณะจากต่างประเทศ ล่องเรือในแม่น้ำบรรยากาศ พวกเขาได้เห็นเมืองเก่า เห็นวิถีชีวิต เห็นมัสยิด เขาบอกว่า มุสลิมในปะเทศไทยได้เปรียบที่ได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมชาติ ไม่มีคำว่า ชนกลุ่มน้อย แม้จะมีความพยายามจะเรียกอยู่ก็ตาม เขาก็พูดกันว่า หากเป็นประเทศของเขา อย่างกรณีของสเปน หรือประเทศอื่นที่เกิดปัญหา มีการกีดกันมุสลิม มีความเกลียดกลัวอิสลาม (อิสลาโมโฟเบีย) แต่เขาไม่เห็นความรู้สึกเช่นนั้นในประเทศไทย จากที่เขาได้ไปช้อปปิ้ง ได้สัมผัสกับคนไทย ไม่เห็นท่าทีที่ไม่ดี และรัฐบาลเองก็ให้การสนับสนุนการจัดงานฮาลาล ซึ่งหากเราไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเราก็ไม่สามารถที่จะจัดได้ยิ่งใหญ่แบบนี้ จากการผมได้บอกว่า เราได้ทำอะไร และจะทำอะไรต่อไป เขาก็บอกว่า ยินดีให้การสนับสนุน’ ดร.ปกรณ์ กล่าว

ผู้อำนวยการสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่พิเศษที่สุดในการจัดวานครั้งนี้ คือการมาของสันนิบาตมุสลิมโลก ซึ่งปกติจะไม่ร่วมงานที่เป็นกิจกรรมที่อยู่นอกเหนืองานด้านศาสนา และเรื่องฮาลาลเขาก็ไม่ให้คสามสนใจมาก แต่เมื่อคณะของเราได้ไปเยี่ยมเมื่อเดือนพฤศจิกายน เพื่อไปเชิญมาเข้าร่วม เขาก็ได้ตอบรับมา และให้การตอบรับสิ่งดีๆ อาทิ การจะให้สินค้าฮาลาลไทยเข้าไปในซาอุดิอารเบีย และจะส่งเสริมความร่วมมือด้านต่างๆในการทำงาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมมุสลิม และได้พูดในลักษณะถ่อมตนว่า ได้เรียนรู้หลายอย่างจากการจัดงานของประเทศไทย และไม่มีข้อสงสัยว่า ประเทศไทยจะมีปัญหาเรื่องของการพัฒนา

‘การส่งสินค้าฮาลาลไทย และการเดินทางของโลกมุสลิม ได้เปิดกว้างมากขึ้น เขาเห็นว่า ควรจะส่งเสริมให้มากขึ้น จากเดิมที่เขาได้รับข้อมูลด้านลบ ได้ถูกลบล้างจนหมดสิ้นไป ต่อไป การนำสินค้าไทยเข้าซาอุฯ จะไม่มีปัญหาอีกต่อไป

นอกจากนี้ สถาบันมาตรฐานฮาลาลของกลุ่มอ่าวอาหรับ 6 ประเทศ ก็มาปาฐกถา ได้ยกทีมกันมาหลายคน จึงเห็นว่า อนาคตความร่วมมือระหว่างไทยกับซาอุฯ และกลุ่มประเทศอาหรับ จะสดใสมาก และตอนที่ตนเดินไปส่งผู้ช่วยเลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลก ซึ่งเป็นชาวซาอุฯ ได้บอกว่า จะเชิญเราไปร่วมในหลายๆเรื่อง หลายๆกลุ่ม และเขาก็จะมาเมืองไทยอีก ไม่ขำเป็นต้องเชิญมาก นับเป็นสัญญาณที่ดีมากในเรื่องทั้งหมด

ทั้งนี้ มีรายงานว่า จะมีการสถาปนาความสัมพันธ์ระดับเอกอัคราชทูตระหว่างไทยและซาอุดิอารเบียในอีกไม่นาน โดยจะมีการเดินทางไปเยือนระหว่างกันของผู้นำระดับสูงในอนาคตด้วย

dav
dav
sdr
dav
dav
dav
dav
dav