“ไตรรงค์” เปิดใจหมดเปลือก เหตุผล4ข้อ ไม่ลงสมัคร “ปาร์ตี้ลิสต์” รทสช.

72

กระจ่างชัด!!! ‘ไตรรงค์ สุวรรณคีรี’เปิดใจ 4 ข้อ ทำไมไม่ลงสมัครเป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์’รทสช.’ระบุ เพื่อรักษาสัจจะ ที่จะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆทางการเมือง เผยที่ผ่านมาได้รับมาจนพอแล้ว

วันที่ 28 มี.ค.66 นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ (รสทช.) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อเรื่อง”ผมทำเพื่อประเทศไทย ผมไม่สมัครเป็น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อครับ” มีเนื้อหาดังนี้

1. เมื่อตอนผมได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ผมได้มีการระบายเจตนารมณ์ของผมไว้อย่างชัดเจนใน Facebook ของผม เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2565 ซึ่งในตอนจบผมได้เขียนหมายเหตุและขีดเส้นใต้ไว้อย่างชัดเจนว่า “ขอให้ทุกคนโปรดทราบเจตนาบริสุทธิ์ของผมว่า การลาออกในครั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการประสานกับพรรคการเมืองอื่นๆจะได้มีพลังและประสิทธิภาพมากขึ้นในการเคลื่อนไหวแบบเงียบๆเพื่อจะได้ตะล่อมให้บ้านเมืองเดินหน้าไปในทิศทางที่ผมเห็นว่าน่าจะปลอดภัยที่สุด โดยที่ผมไม่หวังอะไรเป็นการตอบแทนโดยส่วนตัวเลย ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งใดๆ ซึ่งผมเคยแจ้งความในใจส่วนนี้ให้ คุณจุรินทร์ หัวหน้าพรรคปชป. และ คุณนิพนธ์ รองหัวหน้าพรรคปชป. ทราบแล้วเมื่อตอนที่ท่านทั้งสองมาเยี่ยมผมที่บ้านพัก หลังการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดสงขลาและ ชุมพร”

2. หลังจากลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้เชิญผมไปพบและขอเชิญให้ผมเป็นที่ปรึกษาของท่าน หลังจากฟังความทุกข์ ความห่วงใย ที่ท่านมีต่ออนาคตของประเทศชาติแล้ว ผมก็รับปากตกคำที่จะรับตำแหน่งดังกล่าวเพราะเห็นว่าสุขภาพของตนเองยังพอจะไหวอยู่แต่มีข้อแม้กับท่านว่า ต้องเป็นตำแหน่งที่ปรึกษาที่ไม่มีเงินเดือน และแม้ว่าในคำสั่งแต่งตั้งจะระบุว่า ผมสามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้โดยการตั้งเบิกใช้งบประมาณโดยตรงจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผมก็ได้ประกาศต่อหน้าสื่อมวลชนทุกแขนงในวันที่ผมไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่าผมตั้งใจจะไม่เบิกงบประมาณแผ่นดินใดๆทั้งสิ้น ถ้าต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติหน้าที่การเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ก็จะจ่ายเงินส่วนตัว ผมขอรับใช้ชาติโดยไม่คิดผลตอบแทนทางการเงินใดๆจากพี่น้องประชาชนเลย ซึ่งผมก็ได้ปฏิบัติตนตามวาจาของผมตลอดมาจนถึงปัจจุบัน

3. ขณะนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้จัดทำบัญชีรายชื่อสำหรับผู้สมัครในนามของ Party List ซึ่งต้องมีจำนวนไม่มากกว่า 100 คน ตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ซึ่งท่านหัวหน้าพรรค (คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค) ก็ได้กรุณาให้เลขาฯส่วนตัว โทรศัพท์มาเตือนผมว่า ท่านยังไม่เห็นใบสมัครการขอเป็นผู้สมัครในบัญชีรายชื่อของพรรคฯเลย อยากขอความกรุณาให้ผมช่วยส่งใบสมัครให้ท่านหน่อย ผมก็เรียนผ่านท่านเลขาฯให้ไปเรียนท่านหัวหน้าพรรคว่า “ผมขอขอบพระคุณที่กรุณาให้ความสำคัญแก่ผม แต่ผมไม่ต้องการตำแหน่งใดๆอีกแล้วในชีวิตที่เหลือ ผมเคยมีมาพอแล้ว แต่ที่ยังหยุดไม่ได้ ก็เพราะผมอยากเห็นประเทศไทยมีรัฐบาลที่ประกอบด้วยคนดีๆ ไม่ขี้โกง ไม่ปากอย่างใจอย่าง เพื่อจะได้ทำให้ชาติของผมได้เดินหน้าไปด้วยความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ผมต้องการเพียงเท่านั้น จริงๆครับ” ผมเป็นคน “รักษาสัจจะ” ไม่พูดอย่างทำอีกอย่างเหมือนหลายคนที่ผมรังเกียจยิ่งนัก

4. จึงกราบเรียนย้ำมาอีกครั้ง เพราะยังมีแฟนคลับ ที่ยังไม่เข้าใจ อาจจะไม่ค่อยได้ติดตามข่าวที่ผมให้สัมภาษณ์จึงมีหลายคนยังโทรศัพท์มาถามว่า ผมจะได้ลงบัญชีรายชื่อในลำดับที่เท่าใด ขอย้ำว่าไม่ต้องมีชื่อผมในบัญชีรายชื่อหรอกครับ กรุณากาบัตรให้ ผู้สมัคร ส.ส. ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ และกรุณากาบัตรให้แก่ พรรครวมไทยสร้างชาติ เถิดครับ เพื่อว่าประเทศจะได้มีนายกรัฐมนตรีที่มีมือสะอาด คิดดี ทำดี พูดดี คบคนดี ไม่โกง ไม่กิน (ไม่โกงทั้งครอบครัว ทั้งเมียและลูก) ได้นายกฯเป็นคนดีอย่างนี้ก็พอจะสบายใจได้ครึ่งหนึ่งว่า ท่านจะสามารถป้องกันและปราบปรามทุจริตได้พอสมควรเพราะยังมีการกระทำทุจริตกันดาษดื่นในหมู่นักการเมืองเลว และข้าราชการชั่ว ในทุกระดับของการใช้อำนาจ

ผมฝากความหวังของประเทศไว้กับแฟนคลับทุกท่านครับ (สำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นใน วันที่ 14 พฤษภาคม 2566)