ชำแหละ 5 เขตเลือกตั้ง “เมืองคอน” มวยยก3 แลกหมัดกันเดือด จับตาใครจะมาวิน

53

หลังมีความสุขกับช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์ เรามาทบทวนกันอีกครั้ง สำหรับ 10 เขตเลือกตั้งของ นครศรีธรรมราช เหลือเวลาอีกเพียง 20 กว่าวัน ก็จะได้เวลาประชาชนพิพากษาแล้ว ซึ่งถ้าเป็นมวยถือว่าเข้าสู่ยกที่ 3 แล้ว

14 พฤษภาฯวันพิพากษา

เขต 1 เมืองในเขตเทศบาลนคร ที่มี “ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ” เป็นแชปม์อยู่ในนามพรรคพลังประชารัฐ ถ้ามองผิวเผินเหมือนจะเป็นการแข่งขันกันของ 4 พรรคใหม่ คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ส่ง “พูน แก้วภราดัย” ลูกชายของ “น้อย-วิทยา แก้วภารดัย” ประชาธิปัตย์ ส่งอดีตผู้ว่าฯ “ราชิต สุดพุ่ม” พรรคพลังประชารัฐ ส่ง “ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ” พรรคภูมิใจไทย ส่งอดีตนักการธนาคาร “จรัญ ขุนอินทร์”แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปในรายละเอียด น่าจะเป็นการต่อสู้กันระหว่าง “ดร.รงค์” กับ “ราชิต” เป็นหลัก ซึ่ง ราชิต อาศัยฐานเดิมของประชาธิปัตย์ ทีีมีทุนเดิมอยู่บ้างแล้วอย่างน้อยเขตละ 10,000 คะแนน เพียงทำอย่างไรให้คะแนนต่อยอดไปถึง 30,000 นั้นหมายถึงหาเพิ่มอีก 20,000 คะแนน ดังนั้น ความเป็นอดีตนายอำเภอเมือง ของ “ราชิต” และ สายสัมพันธ์กับชุมชนในฐานะอดีตนักปกครอง ก็น่าจะพอฟัดพอเหวี่ยงกับ “ดร.รงค์” ที่มีฐานเสียงเดิมในฐานะแชมป์ซึ่งในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา มีทั้ง จุดด้อย และ จุดเด่น เมื่อได้ “โกเก้า” เกรียงศักดิ์ ภู่พันธุ์ตระกูล ผู้กว้างขวางในวงการเมืองเข้ามาจับมือกับ “โกจู๋” วิฑูรย์ อิสระพิทักษ์กุล ช่วยกันประสานมือทำคะแนนให้กับ “ดร.รงค์” จึงทำ “ดร.รงค์” เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวขึ้นมาทันที แต่ “ราชิต” ก็ได้ “ลุงนึก” สมนึก เกตุชาติ อดีตนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชเข้ามาช่วย ทำให้แข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา “ลุงนึก” ไม่เอาประชาธิปัตย์เลย แต่คราวนี้หนีไม่ พ้นเมื่อญาติสนิทลงชิง“ราชิต” ต้องหาตัวช่วยที่เข้มแข็งเข้ามาช่วยทำงาน ทั้งคนในและคนนอกพื้นที่ ซึ่งมีบารมีพอฟัดพอเหวี่ยงกับ “สองโก” เพื่อเดินไปสู่เป้าหมาย “ล้มรงค์” ซึ่ง “ดร.รงค์” ก็เป็นนักวิชาการสายรัฐศาสตร์ชั้นเชิงทางการเมืองก็ไม่ธรรมดา เอาเป็นว่า “รู้เขารู้เรา”

เขต2 ถือเป็นเขตปลอด ส.ส.เก่า คือไม่มีเจ้า แต่ “สายัณห์ ยุติธรรม” ย้ายจากท่าศาลา มาลงเขตนี้ และ ย้ายพรรคจากพลังประชารัฐมาอยู่กับ “ลุงตู่” ที่รวมไทยสร้างชาติ เพื่อเปิดทางให้ น้องชาย “อำนวย ยุติธรรม” ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในบ้านเกิดท่าศาลา ซึ่ง “สายัณห์” แม้จะเป็นอดีต ส.ส.แต่คนละเขต แม้เขตใหม่จะเป็นฐานเดิมอยู่บ้าง แต่ไม่ทั้งหมด “สายัณห์” ต้องสร้างฐานใหม่ย่านพระพรหม ซึ่งก็มีอัตราเสี่ยงอยู่ไม่น้อย แม้เจ้าตัวจะยืนยัน 4 ปีมีผลงาน คนรู้จัก

ทีนี้เมื่อมาดูคู่แข่งประชาธิปัตย์ ลงตัวที่ “นายกหนึ่ง” นายทรงศักดิ์ มุสิกอง อดีตนายกฯปากนคร ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ ที่จะได้สร้างขึ้นมาสืบทอดเจตนารมณ์-อุดมการณ์ของประชาธิปัตย์ต่อไป

พรรคพลังประชารัฐ โดย “สจ.สุภาพ ขุนศรี” ยอมหลีกให้ “ดร.รงค์” มาลงเขตนี้ สจ.สุภาพ นอกจากอาศัยเครือข่ายผู้นำท้องถิ่น-ท้องที่แล้ว จะต้องอาศัยเครือข่ายของสามี สายนักเลง นักการพนัน แต่เป็นคนต่างถิ่น เอาเป็นว่าเขตนี้ “สายัณห์-สจ.สุภาพ” หายใจรดต้นคอกันเป็นแน่แท้ ส่วน “ทรงศักดิ์” อยู่ที่องคาพยพของประชาธิปัตย์ จะช่วยกันหอบหิ้วได้แค่ไหน ถ้าประชาธิปัตย์ตั้งเป้าว่านครศรีฯจะต้องได้ 7+ “แทน-ชัยชนะ เดชเดโช” จะต้องออกแรงมากกว่านี้ “นายกฯหนึ่ง”ถึงจะเข้าวิน

กล่าวสำหรับพระพรหมแล้ว ถือว่าทุกคนใหม่หมด “สจ.สุภาพ” มาจากเขตเมือง “นายกฯหนึ่ง” มาจากปากนคร “สายัณห์” มาจากท่าศาลา โอกาสจึงเป็นของทุกคน “สายัณห์” อยู่ในฐานะได้เปรียบ เพราะมีฐานเดิมอยู่บ้างในบางตำบล

เขต 3 (หัวไทร-ปากพนัง) แม้ “เท่ห์-พิทักษ์เดช เดชเดโช” ลูกชายของ “เจ้ต้อย-กนกพร เดชเดโช” นายกฯอบจ.นครศรีฯ น้องชายของ “แทน-ชัยชนะ เดชเดโช” จะเปิดตัวทีหลัง แต่ก็มาแรงแซงขึ้นที่ 1 อย่างรวดเร็ว วิ่งฉิวนำหน้า
“มานะ ยวงทอง” จากภูมิใจไทย ที่เปิดตัวมาร่วมปี และเป็นที่รู้จักมักคุ้นกันแล้ว แต่ม้าตีนต้นเริ่มแผ่วปลาย กับ การบริหารจัดการ ในบางเขต-บางโซน แม้บางเขตจะยังเหนียวแน่นกับเครือญาติก็ตาม

แต่บางองคาพยพเริ่มเปลี่ยนค่ายบ่ายหน้าไปค่ายสีฟ้า ส่วนพลังประชารัฐ ส่ง “สัณหพจน์ สุขศรีเมือง” ซึ่งเป็นแชมป์เก่า ดูภาพรวมแล้ว ไม่หวือหวา กระสุนยังไม่ออก ก็เหนื่อยหน่อย ฐานคะแนนเดิมเริ่มถูกแย่ง ถูกแบ่งแยก สถานการณ์ปัจจุบันเงียบไปนิดหนึ่ง ส่วนรวมไทยสร้างชาติส่ง “นนทิวรรธน์ นนทภักดิ์” คนสนิทของ “วิทยา” ลงประชัน ซึ่ง “นนท์” มีฐานเสียงที่หน้าแน่นอยู่ในตลาดปากพนัง เป็นด้านหลัก แต่โซน หัวไทรยังเป็นจุดบอด ถ้ามีเวลาให้เตรียมตัวมากกว่านี้ และใช้เครือข่าย “วิทยา” เดินเครื่อง ก็น่าสนใจเพราะเป็นผู้สมัครเพียงคนเดียวที่เป็นคนพื้นที่ เกิดที่ปากพนัง

ขณะที่ “พิทักษ์เดช” เกิดที่ร่อนพิบูลย์ แต่มีภรรยาคนปากพนัง “สัณหพจน์” เกิดที่เชียรใหญ่ แต่เคยคลุกคลีกับธุรกิจกุ้งในวัยหนุ่ม “มานะ” เกิดที่เชียรใหญ่ ไม่ค่อยได้อยู่ในพื้นที่ ทำธุรกิจกล่องกระดาษอยู่ สมุทรสาคร และ ชลบุรี ในช่วงโควิดระบาดหนักเขาจึงบริจาคกล่องกระดาษทำเตียงสนามจำนวนมาก และ ผันตัวเองมาลง ส.ส.

เขต 3 ไม่ควรมองข้าม “มนตรี เฉียบแหลม” จากเพื่อไทย ที่คนเริ่มเบื่อพรรคโน้นพรรคนี้ และมองหาพรรคใหม่ เพื่อไทยจึงเป็นตัวเลือกอยู่ไม่น้อย น่าเสียดายว่า เพื่อไทยเปิดตัวเขาให้ลงเขตนี้ช้าไป แต่กระแสเพื่อไทยพอมี คะแนนพรรคมีแน่นอน และตัวเลขไม่น่าเกลียดด้วย

สรุป เขต 3 ด้วยเครือข่ายที่มาก กว่า เหนียวแน่นกว่า ถึงกว่า ท้ายที่สุดแล้ว “โกเท่ห์” จะเข้าป้าย แต่ตัองระวัง-หลีกเลี่ยงข้อสุ่มเสี่ยง

เขต4 (ชะอวด-เชียรใหญ่-เฉลิมพระเกียรติ)น่าจะเป็นเขตที่สู้กันดุเดือด มีคู่แข่งหลักอยู่ 5 พรรค แชมป์เก่าคือ “อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” ยังสังกัดพรรคพลังประชารัฐเหมือนเดิม และ มั่นใจในผลงาน บทบาทหน้าที่ที่ผ่านมา สองปี
ประชาธิปัตย์ ส่ง “ยุทธการ รัตนมาศ” อดีตรองนายกฯอบจ.นครศรีธรรมราช เคยมีข่าวโด่งดังในตำแหน่งนายกสมาคมกีฬานครศรีธรรมราช พรรคชาติพัฒนากล้า ส่ง “นายหัวสิทธิ์” สิทธิรัก ทิพย์อักษร ที่เคยปรากฏชื่อว่าจะลงรวมไทยสร้างชาติ แต่ท้ายที่สุดด้วยพลังที่เหนือกว่า “พงศ์สินธุ์ เสนพงศ์” คว้าใบอนุญาตไปลงแทน

ภูมิใจไทย ส่ง “ณัฐกิตติ์ หนูรอด” อดีตปลัด อบจ.พัทลุง ลูกเคร็ง โดยตรงลงชิง เปิดตัวมาครึ่งปี และลาออกจากราชการ มาหาเสียงนานพอควร กระแสพอได้ แต่ไม่หวือหวานัก พรรคพลังประชารัฐ ให้ติดตามการขยับของ “โกอ่าง-สมศักดิ์ เมธา” พรรคเพื่อไทย ที่คนชะอวด จุฬาภรณ์ ทราบ กิตติศัพท์ดี ในฐานะ “เจ้าบุญทุ่ม”

เขตนี้โค้งสุดท้ายน่าจะเป็นการแข่งขันระหว่าง “พงศ์สินธุ์” กับ “อาญาสิทธิ์” แต่ขึ้นอยู่กับว่าใครจะจัดการคะแนนได้ดีกว่า แต่กระแส “พงศ์สิน” น่าจะดีกว่าเมื่อบวกรวมกับกระแสคนคอนยังเอา “ลุงตู่” แต่ไม่ควรลืมว่าเขตนี้เป็นเขตอิทธิพลของ “ชัยชนะ เดชเดโช” คงไม่ปล่อยให้ “ยุทธการ” พ่ายง่ายๆเป็นแน่แท้ เพราะมีตำแหน่งทางการเมืองในวันหน้ารออยู่

เขต 5 (จุฬาภรณ์-ร่อนพิบูลย์-ลานสภา) ถือได้ว่าเป็นเขตเดิมของ “แทน-ชัยชนะ” ประชาธิปัตย์ เพียงแต่เพิ่มจุฬาภรณ์ เข้ามาและตัดบางอำเภอออกไป ยิ่งเป็นผลดีสำหรับ “แทน” เพราะจุฬาภรณ์คือถิ่นของ “ชำนิ ศักดิเศรษฐ์” นักการเมืองอาวุโสและเป็นญาติกับแทนด้วย

น่าสนใจที่รวมไทยสร้างชาติ ดึง “สนั่น พิบูลย์” สจ.จุฬาภรณ์มาร่วมทีมได้ เมื่อบวกรวมกับพลังประชารัฐลาก “สุชาติ จิตติศักดิ์” กำนันแหนบทองคำ อดีตกำนันตำบลนาหมอบุญ อำเภอจุฬาภรณ์ มาลงเขตนี้ และยังมี “สจ.ยา” พิทยา ชมพูทอง แห่งลานสกา มาช่วยทีม “สจ.หนั่น” ก็เท่ากับเป็นการปิดล้อม “แทน” ให้ขยับตัวออกนอกเขตไปช่วยลูกทีมลำบากขึ้น แต่ก็ไม่น่าจะไหวหวั่นอะไร ให้ระวังพวกกันเองมากกว่าว่าจะยังซื่อสัตย์อยู่ไหม

เขตนี้ “แทน-ชัยชนะ” ได้เปรียบ และคงไม่ทำให้เสียหายกับพรรค และวงศ์ตระกูลแน่นอน ในเมื่อทุกอย่างในมือพร้อม รถถังพร้อมเคลื่อนออกจากกองทัพในยามมีศึก

รอบนี้เอา 5 เขตเลือกตั้งก่อน อีก 5 เขต ข้อศึกษาข้อมูลก่อน แล้วจะรายงานให้ทราบ

แต่สรุปภาพรวมว่า 5 เขต เป็นดังนี้

เขต 1 “ดร.รงค์” ชิงดำกับ “ราชิต” แบบรดต้นคอ
เขต 2 “สายัณห์” ห้ำหั่นกับ “สจ.สุภาพ”
เขต 3 “โกเท่ห์” น่าจะนำห่าง ให้ “มานะ-มนตรี” ตามไล่หลังมา
เขต 4 ชิงดำกันระหว่าง “พงศ์สิน-อาญาสิทธิ์
เขต 5 “แทน” ลอยลำแบบไม่เห็นฝุ่น

แต่ที่ไม่ควรลืม “การเมืองเป็นเรื่องไม่แน่นอน-ตายตัว มีโอกาสเปลี่ยนได้ตลอดเวลา อยู่ที่ว่ายกสุดท้ายใครจะชกได้เข้าเป้ามากกว่ากัน คะแนนสะสมในแต่ละยกอาจจะไม่มีความหมายเลยก็ได้ ถ้าเจอหมัดน็อค เข้าปลายคาง…555

นายหัวไทร