หาดใหญ่แตก! คนสงขลากว่า6หมื่น แห่ฟัง ปราศรัยใหญ่ ลั่น ปชป.ไม่มีวันตาย

49

หาดใหญ่แตก! คนสงขลาทะลักกว่า 6หมื่นคน แห่ฟังปราศรัยใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ “นิพนธ์ บุญญามณี” ลั่น ปชป.ไม่มีวันตาย ชูนโยบาย “สร้างคน สร้างเงิน สร้างชาติ”

วันที่ 8 พ.ค.66 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ “มาดามเดียร์” นางวทันยา บุนนาค ประธานคณะกรรมการการเมืองพรรคปชป. “ดร.เอ้” ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานการศึกษาทันสมัยพรรคปชป. ร่วมด้วยผู้นำท้องที่ นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกอบจ.สงขลา และ สมาชิกสภา อบจ.สงขลา ขึ้นเวทีปราศรัยโค้งสุดท้าย ขอคะแนนเสียงช่วย นายสรรเพชญ บุญญามณี ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 4 เขต1 นายนิพัฒน์ อุดม อักษร ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 4 เขต2 นายสมยศ พลายด้วง ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 4 เขต3 และขอเสียงเลือกพรรคประชาธิปัตย์หมายเลข 26 ณ สนามสอนขับรถยนต์ คลอง ร.5 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลานายนิพนธ์ กล่าวว่า ขอถือโอกาสนี้ เรียนกับพี่น้องว่า ทำไมต้องเลือกประชาธิปัตย์ เพราะหลายคนมองว่าประชาธิปัตย์ไม่ทำอะไรเลย จึงขอเรียนว่าสิ่งที่ประชาธิปัตบ์ทำ อยากให้ทุกคนลองไปทบทวน อย่างน้อยบางสิ่งที่บอกได้คือ เรื่องของนมโรงเรียน ประชาธิปัตย์คิดสมัย นายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ ตั้งแต่ปี 2536 มาถึงวันนี้ ปี 2566 ลูกหลานทุกคนยังได้ดื่มนมโรงเรียน นี่คือนโยบายประชาธิปัตย์ นี่คือสิ่งที่เราคิดเมื่อ 30 ปีที่แล้วยังไม่มีใครกล้ายกเลิก ให้ดื่ม 5 วันต่อหนึ่งสัปดาห์ ปีหนึ่งดื่ม 250 วัน รอบนี้ประชาธิปัตย์มาประกาศ ถ้าได้เป็นแกนนำร่วมรัฐบาลจะให้ลูกหลานพี่น้องดื่มนมตลอดทั้งปีคือ 365 วัน นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์ ทำในเรื่องสร้างคน และ ด้วยนโยบายของพรรค ทำให้ลูกหลานได้กินอาหารกลางวันอีก ลูกหลานพี่น้องถ้าจะไปเรียนต่อที่กรุงเทพก็ต้องขายนาขายสวน ส่งให้ลูกเรียน มาวันนี้พี่น้องสามารถส่งลูกเรียนจนจบปริญญาไม่ต้องขายนาขายสวน ซึ่งนายชวนได้ตั้งกองทุน กยศ.ขึ้นมาเพื่อให้ลูกหลานได้ เรียนหนังสือ ซึ่งปัจจุบันมีเด็กที่จบด้วยทุน กยศ.มีเป็นหกล้านคน นี่คือสิ่งที่พรรคทำ ยังไม่พอสมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษามีฟรี 5 อย่างคือ ชุดนักเรียนฟรี กระเป๋าหนังสือฟรี รองเท้าฟรี ทัศนศึกษาฟรี อุปกรณ์การเรียนฟรี ประชาธิปัตย์ คิดเพื่ออลดค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้อง มาถึงวันนี้ก็ยังใช้ฟรี แต่ถ้าไม่มี นโยบายนี้ทุกคนต้องจ่ายเงินเอง

วันนี้ประชาธิปัตย์คิดต่อ และรอบนี้ถ้าพรรคไปเป็นแกนนำรัฐบาล จะให้ลูกหลานเรียนฟรีถึงปริญญาตรี ในสาขาที่ขาดแคลน นี่คือความหมายสร้างคนของประชาธิปัตย์ คิดเรื่องสร้างคน เมื่อเทียบนโยบายต่อนโยบายว่าพรรคการเมืองเหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์เวลาบอกกับพี่น้อง พูดอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้จะไม่พูด นี่คือประชาธิปัตย์
“พี่น้อง อสม. ก็เช่นกัน ได้ค่าตอบแทนในสมัยที่ท่านอภิสิทธิ์เป็นนายก และเป็นคนแรก ที่ให้ค่าตอบแทนแก่ อสม.เพราะนี่เป็นนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ มาถึงวันนี้ยังไม่มีใครกล้ายกเลิกเบี้ยผู้สูงอายุเริ่มตั้งแต่ท่านชวนให้คนละ 200บาทไว้ซื้อหมากซื้อพลู ไข่เป็ด ไข่ไก่แต่ให้เฉพาะคนจน ต่อมาเพิ่มเป็น 300 บาท จนถึงพลเอกสุรยุทธ ให้ 500 แต่ยังให้กับคนจน จึงเป็นที่มาที่ว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นคนคัดเลือกคนจนเอง จนมีข้อครหานินทาเกิดขึ้น นี่คือความไม่เท่าเทียมจนถึงสมัยท่านอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล เราคงบอกว่าใครอายุ 60 ปีขึ้นไปได้ทุกคน นี่ก็เป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์”

นิพนธ์ กล่าวต่อว่า ประชาธิปัตย์อยู่มา 77 ปี ย่างเข้าปีที่ 78 ประชาธิปัตย์ไม่ตายแล้ว เปลี่ยนหัวหน้าพรรคมา 8 คน ตั้งแต่นายควง อภัยวงศ์ หม่อมเสนีย์ พ.อ.ถนัด คอมันต์ นายพิชัย รัตกุล นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ นายอภิสิทธิ์ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และเป็นรัฐมนตรีมาแล้วหลายกระทรวง ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่มีวันตาย ขอให้เชื่อได้ พรรคบางพรรคขอมาเป็นนายกปีกว่าๆเท่านั้น แต่ประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมือง จึงไม่เชื่อว่าพวกเราจะไม่เลือกนายชวน เป็นไปไม่ได้เลย ที่จะไม่เลือกนายชวนนี่คือสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำมาแล้ว ซึ่งถ้าวันที่ 14 พฤษภา ที่จะถึงนี้ ถ้าพี่น้องเลือกประชาธิปัตย์เป็นแกนนำรัฐบาล ประชาธิปัตย์มีนโยบายอีกหลายเรื่อง พี่น้องข้าราชการ เราจะเอาเงินที่เป็นสมาชิก กบข. ที่เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือของกระทรวงแรงงาน เราจะเอาเงินจากกองทุนสมทบที่มีอยู่ในสองกองทุนนี้ประมาณเกือบสามล้านล้านบาท เราจะเอาออกมาเพียง 10% หรือ สามแสนล้านมาให้พี่น้องไปซื้อบ้านได้ หรือนำไปชำระหนี้ค่าผ่อนบ้านได้ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน นี่คือทีมเศรษฐกิจประชาธิปัตย์ พี่น้องไม่ต้องเป็นหนี้ไม่ต้องรับภาระเรื่องดอกเบี้ย เงินของพี่น้องที่ฝากอยู่ในกองทุนทุกๆเดือน เอาเงินนี้มาให้ข้าราชการมาชำระหนี้ได้เลย นี่ประชาธิปัตย์คิดเรื่องแบบนี้ นี่คือสิ่งบอกว่าทำไมต้องเลือกประชาธิปัตย์พูดกันมามากแล้วว่าเลือกประชาธิปัตย์เขต 1 เขต 2 เขต 3 ต้องเลือกเบอร์ 4 ต้องจำให้ได้ว่าบัตรสีม่วงเบอร์ 4 นี่คือสิ่งที่จะเรียนกับพี่น้องว่า ผู้แทนทั้งเขต 1 เขต 2 เขต 3 นี้ ผมมาขอโอกาสให้พี่น้องไปหาคนมาสักสี่ห้าคะแนนก็ได้เป็นแสนแล้ว ดังนั้นจึงขอโอกาสให้กาเบอร์ 4 ให้ทั้ง 3 เขต และในขณะเดียวกันก็ยังมีบัตรอีกใบเป็นบัตรสีเขียว พรรคประชาธิปตย์ เบอร์ 26 พี่น้องเลือกเบอร์ 26 จะได้ท่านชวน ท่านจุรินทร์ ท่านบัญญัติ คุณหญิงกัลยา และนายนิพนธ์ เป็นของแถม ดังนั้นในวันที่ 14 พฤษถาคม เข้าคูหากาบัตรสองใบ ใบแรกกาบัตรสีม่วงเบอร์ 4ทั้ง 3 เขต ส่วนเขต อื่นๆก็ให้เลือกผู้สมัครของพรรค ปชป. บัตรใบที่สองกาพรรคประชาธิปัตย์ บัตรสีเขียวกาเบอร์ 26 นี่คือสิ่งที่จะบอกกับพี่น้อง

สำหรับบรรยากาศการปราศรัยในคืนนี้ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนกว่า 60,000 คนที่มอบดอกไม้เป็นกำลังใจแก่ขุนพลพรรคประชาธิปัตย์ที่มาร่วมปราศรัยก่อนถึงวันเลือกตั้ง พร้อมกับพบปะกับพี่น้องประชาชน เพื่อขอคะแนนเสียงให้ทั้งผู้แทนเขต และพรรคประชาธิปัตย์ ยุคใหม่ พร้อมกับนโยบายที่ทำได้ไว ทำได้จริงของพรรคประชาธิปัตย์ กับยุทธศาสตร์ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ