“นิพนธ์” ลั่น! ความมั่นคง ต้องไม่มีช่องว่าง ชี้ ปัญหา จชต. รอบ10ปี มีทิศทางดีขึ้น

55

“นิพนธ์” ลั่น ความมั่นคงของประเทศ ต้องไม่มีช่องว่าง ชี้ ปัญหา “ชายแดนใต้” 10 ปีที่ผ่านมา มีทิศทางดีขึ้นตามลำดับ ห่วง “การเคลื่อนไหว” ที่เกินขอบเขต อาจถูกต่างชาติแทรกแซง เตือน “นักการเมือง” อย่านำเรื่องความมั่นคงมาต่อรองคะแนนเสียง

วันที่ 12 มิ.ย.66 ในรายการ TOP NEWS Talk นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ร่วมพูดคุยประเด็นเกี่ยวกับ สถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนใต้ โดย แสดงความคิดเห็นช่วงหนึ่งว่า การแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา 10 ปี มีทิศทางดีขึ้นตามลำดับ มีการเปิดการเจรจาพูดคุยกับกลุ่มต่างๆ ซึ่งการมีส่วนร่วมในทางการเมืองด้วยการกระจายอำนาจมากขึ้นเป็นสิ่งที่ทุกคนเห็นร่วมกันมากที่สุด ดังนั้น ตนจึงคิดว่าหากสามารถประกาศจุดยืนว่าจะกระจายอำนาจให้แก่ สามจังหวัดชายแดนใต้เป็นกรณีพิเศษ หรือมีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง เช่น จะมีระบบการคลัง งบประมาณ หรือการจัดเก็บภาษีอย่างไรจึงจะเหมาะสม เนื่องจากสามจังหวัดชายแดนใต้นั้นสามารถจัดเก็บภาษีได้น้อยส่งผลให้มีรายรับต่อหัวน้อยมาก ซึ่งหากจัดเก็บภาษีได้น้อยก็จะมีงบในการดูแลจังหวัดน้อยเช่นเดียวกัน

นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า ในอดีตพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้กฎหมายและความยุติธรรม ปัญหาเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ปัญหาเรื่องการศึกษา ปัญหาเรื่องความยากจนในพื้นที่ ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง โดยที่ผ่านมาได้มีการแก้ไขปัญหาในบางส่วนแล้ว อาทิ เรื่องการใช้กฎหมายก็ได้แก้กฎหมายไม่ให้มีการซ้อมทรมานโดยการแก้ไขมาเป็นระยะ นอกจากนี้เรื่องของการศึกษา ปัจจุบันก็มีมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นแล้วทั้งสามจังหวัดโดยการเรียนการสอนในสาขาวิชาต่าง ๆ ครอบคลุมทั้งการแพทย์ วิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งจะต้องมีการยกระดับคุณภาพทางการศึกษาในระยะต่อไป ที่ยังคงเหลืออยู่คือปัญหาความยากจนของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ภาครัฐจะต้องหาแนวทางในการแก้ไขรวมถึงการสร้างงานให้กับคนในพื้นที่ให้สามารถทำงานในจังหวัดตนเองได้ โดยไม่ต้องเดินทางมาทำงานที่ต่างจังหวัด ซึ่งจะทำให้สามจังหวัดมีรายได้จากการจัดเก็บภาษี

ส่วนในเรื่องของประเด็นที่กำลังมีการสำรวจความเห็นนั้น ตนก็ได้ทำการรวบรวมข้อมูลต่างๆ เท่าที่ตนทราบนั้นประเด็นนี้มีการตอบรับจากกลุ่มคนที่เห็นต่างหลายกลุ่ม ซึ่งตนได้พบกับกลุ่มต่างประเทศและได้สอบถามถึงเรื่องราวโดยได้ข้อสรุปว่ากลุ่มคนที่เห็นต่างเหล่านั้นไม่ได้มีความต้องการถึงขั้นที่จะแบ่งแยกดินแดน เพียงแต่ให้มีส่วนร่วมทางการเมืองที่มากขึ้นเท่านั้น เช่น เรื่องการกระจายอำนาจที่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของคนในพื้นที่ และเมื่อคราวที่ผู้นำของประเทศเพื่อนบ้านมาเยือนไทยก็ได้มีการหยิบยกเรื่องนี้มาหารือบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้สร้างผลกระทบใด ๆ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงก็จะต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ สิ่งที่น่ากลัวคือ หากมีการเคลื่อนไหวที่เกินขอบเขต อาจเกิดการแทรกแซงจากต่างประเทศที่จะใช้เป็นข้ออ้าง เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นเรื่องภายในประเทศและตนพยายามทุกครั้งที่จะระมัดระวังในการใช้คำพูด ดังนั้นจึงไม่อยากให้เปิดช่องให้ต่างประเทศเข้ามาแทรกแซงได้ เพราะปัญหานี้เป็นปัญหาภายในประเทศที่สามารถพูดคุย เจรจากันได้ รวมถึงใช้เวลามาเป็นเวลานานแล้วซึ่งมองเห็นทางออกร่วมกัน เห็นพ้องไปในทางเดียวกันได้ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เห็นพ้องถึงการให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันหาข้อตกลงร่วมกันเพื่อยุติปัญหาของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วร่วม6,000ราย อีกทั้งงบประมาณที่ได้ใช้ไปรวมกว่า 500,000 ล้านนั้นก็เป็นงบประมาณที่มากพอสมควรเมื่อเทียบกับความคุ้มค่านั้นก็ยังไม่เหมาะสมเท่าใด

ส่วนเรื่องของการทำงานของรัฐบาลรักษาการนั้น ตนเชื่อว่ายังสามารถทำหน้าที่และปฏิบัติภารกิจต่อไปได้ ซึ่งปัญหานี้เป็นเรื่องของความมั่นคงที่รัฐบาลไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดใหม่หรือรัฐบาลรักษาการพึงกระทำ เพราะความมั่นคงของชาติต้องไม่มีช่องว่าง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ลดการตื่นตระหนกของประชาชนในพื้นที่ สิ่งที่ดีที่สุดในขณะนี้คือการเดินหน้าพูดคุยกับกลุ่มต่าง ๆ เพื่อไม่ให้สิ่งที่ได้ทำลงไปกว่า 10 ปีต้องสูญเปล่า ในตอนท้าย นายนิพนธ์ได้กล่าวถึงนักการเมืองที่มีความพยายามนำเรื่องความมั่นคงมาหาคะแนนเสียง มาเป็นเงื่อนไขหรือเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน เรื่องนี้ต้องระมัดระวังให้มาก