จนท.จับรถหลบหนีด่านตรวจ พบคนร้ายเอี่ยว “บึ้มป่วนใต้” อื้อ ติดหมายจับ 13 คดี

73

เจ้าหน้าที่สกัดจับรถหลบหนีด่านตรวจ พบชาย5คนอยู่ในรถ และ 1ในนั้น คือ “อัชมัน” คนร้ายเอี่ยว‘บึ้มป่วนใต้’หลายเหตุ ทั้ง ลอบบึ้ม สะบ้าย้อย วางระเบิดรถไฟขนส่งสินค้า หาดใหญ่ ติดหมายจับคดีความมั่นคง 13 หมาย รวมทั้งพบธงสัญญลักษณ์กลุ่มก่อเหตุรุนแรง

วันที่ 18 กันยายน 2566 ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิริธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พันเอก เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2566 เวลา 13.20 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรปะลุกาสาเมาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส จัดตั้งจุดตรวจบนทางหลวงหมายเลข 42 บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรปะลุกาสาเมาะ ได้ปรากฏรถยนต์เก๋ง จำนวน 1 คันแสดงอาการพิรุธไม่ยอมขับเข้าจุดตรวจ แต่ได้กลับรถบริเวณกลางถนนและขับหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามสกัดจับ ตรวจพบบุคคลภายในรถยนต์คันดังกล่าวเป็นชายจำนวน 5 คน หนึ่งในนั้น คือ นายอัซมัน อายุ 28 ปี ภูมิลำเนา ตำบลลำไพล อำเภอเทพา จังหวัดสงขลาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบว่า นายอัซมัน เป็นบุคคลผู้มีหมายจับในคดีความมั่นคงจำนวน 13 หมาย ที่สำคัญได้แก่ ก่อเหตุลอบวางระเบิดและซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ อส.ชุดคุ้มครองครูตำบลห้วยเต่า อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2562 เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 6 นาย , ก่อเหตุลอบวางระเบิดชาวบ้านหาปลาและเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสรวม 3 ราย และก่อเหตุลอบวางระเบิดขบวนรถไฟขนสินค้าสาย หาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2565 เป็นเหตุให้ขบวนรถไฟตกราง ตู้สินค้าได้รับความเสียหายจำนวนมาก รวมทั้งทำให้เจ้าหน้าที่การรถไฟที่เข้าไปกู้ซ่อมรางรถไฟถูกระเบิดซ้ำลูกที่สอง เสียชีวิตจำนวน 3 ราย ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นภายในรถยนต์ของคนร้ายพบหลักฐานการจดบันทึกเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งธงสัญลักษณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจำนวนหนึ่ง จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยและคนร้ายไปยังศูนย์ซักถามในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อขยายผลต่อไปภายหลังทราบเหตุ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานในศูนย์ซักถามปฏิบัติต่อบุคคลที่ถูกควบคุมตัวตามหลักกฎหมายและตามหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยทุกขั้นตอนต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้และต้องไม่กระทำการอันใดอันเป็นการละเมิดต่อหลักสิทธิมนุษยชนเป็นอันขาด รวมทั้งหากพี่น้องประชาชนพบเห็นเบาะแสผู้กระทำผิด บุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย สามารถโทรแจ้งได้ที่หน่วยงานความมั่นคง หรือหมายเลขสายตรง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 หรือหมายเลขโทรศัพท์สายตรงผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 0611732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามกฎหมาย ป.วิอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ