มติก้าวไกล ขับ “สส.หื่นปราจีนฯ” พ้นพรรค อีกราย “ปูอัด” โดนแค่คาดโทษ

16

คุกคามทางเพศจริง! ‘ก้าวไกล’ ขับ ‘สส.ปราจีนฯ’ พ้นพรรค เหตุใช้อำนาจปกปิดตั้งแต่เป็น ‘ว่าที่ผู้สมัครฯ’ ขณะที่ ‘สส.ฝั่งธน’ รอคาดโทษ พร้อมตั้งเงื่อนไขให้ ‘ยอมรับผิด-ขอโทษสังคม-เยียวยาผู้เสียหาย’ ด้าน ‘ชัยธวัช’ เชื่อ หากคนผิดแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ทุกคนพร้อมให้โอกาส

วันที่ 2 พ.ย.2566 เวลา 23.30 น. สืบเนื่องจากการประชุมร่วมกันของกรรมการบริหารพรรค และสส.ของพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.เพื่อหาข้อยุติกรณีมีเรื่องร้องเรียนกล่าวหา สส.มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ ได้แก่ นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี และ “ปูอัด” นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. เขตจอมทอง-บางขุนเทียน-ท่าข้าม

ภายหลังการประชุมกว่า 6 ชั่วโมง นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงมติการประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารพรรค และ สส.ของพรรคก้าวไกลเห็นว่าทั้งสองกรณีมีความผิดจริง และมีมติให้ขับออกจากพรรคก้าวไกล ตามรัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ในการที่จะขับสมาชิกพรรคให้พ้นจากพรรคจะต้องอาศัยเสียง 3 ใน 4 ของ สส. และกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ซึ่งจากผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 128 คน ผลจากการพิจารณาในที่ประชุมร่วมเห็นตรงกันว่า ทั้งสองกรณีมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง และขัดต่อวินัยของพรรคอย่างร้ายแรง

โดยที่ประชุมร่วมมีมติให้นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา ออกจากพรรคก้าวไกล ด้วยมติ 120 เสียง และ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ เสียงส่วนใหญ่ เห็นควรให้ขับออกจากสมาชิกพรรค 106 เสียง แต่เนื่องจากว่าเสียงไม่ถึง 3 ใน 4 ซึ่งคือ 116 เสียงของจำนวนคณะกรรมการบริหารพรรค และ สส.ที่มีอยู่ ก็เท่ากับว่าไม่สามารถมีมติที่จะขับนายไชยามพวานออกจากพรรคได้ แต่ให้ตัดสิทธิ์พึงมีทั้งหมด และให้คาดโทษไปตลอดสมัยประชุม หากมีพฤติกรรมใดๆ ที่เข้าข่ายคุกคามทางเพศอีก จะต้องให้พ้นจากสมาชิกพรรค

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นว่า นายไชยามพวาน จะต้องออกมายอมรับผิด ขอโทษต่อสังคม และ ขอโทษต่อผู้เสียหายทั้งหมด รวมถึงจะต้องชดเชยเยียวยาตามที่ผู้เสียหายต้องการ หากนายไชยามพวาน ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้กระทำผิด ไม่ยินดีที่จะขอโทษต่อผู้เสียหาย และไม่ยินดีที่จะชดใช้ความผิดของตนเอง ก็จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และสส.พรรคก้าวไกลร่วมกันอีกครั้งเพื่อมีมติต่อไป

ส่วนที่อาจจะมีข้อสงสัยว่าอีกคนนึงขับออกจากพรรคแต่อีกคนนึงไม่ขับออกจากพรรคนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า เราประชุมกันนานมาก คณะกรรมการวินัยคณะกรรมการบริหารพรรค และ สส.ของพรรค เห็นตรงกันว่า สส.ทั้งสองคน มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง และผิดวินัยร้ายแรง แต่เมื่อกระทำความผิด ก็มีบทลงโทษหลายระดับ ซึ่งในกรณีนี้จะเห็นว่า นายไชยามพวาน แม้จะเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แต่เจ้าตัว จำเป็นจะต้องออกมายอมรับผิด และขอโทษรวมถึงเยียวยาผู้เสียหาย และมีข้อถกเถียงกันมากในที่ประชุม ซึ่งต่างจากกรณีนายวุฒิพงษ์ ที่เห็นตรงกันเกือบทั้งหมดว่ามีการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่บทบาท ตั้งแต่เป็นว่าที่ผู้สมัครสส. มาจนถึงการเป็นสส. และเป็นการใช้อำนาจโดยไม่ชอบในการคุกคามทางเพศ และพยายามที่จะใช้อำนาจของตนเองในการปกปิดความผิด จึงทำให้สส. จำนวนหนึ่งเห็นว่า มาตรการในการลงโทษรุนแรงแตกต่างกัน ซึ่งในกรณีการขับออกจากพรรคของนายวุฒิพงษ์นั้น ไม่ใช่เป็นการตัดหางปล่อยวัด แต่ทำตามบทลงโทษของพรรคเท่าที่ทำได้

หลังจากนี้ พรรคจะมีการตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษขึ้นมา โดยมี น.ส.เบญจาแสงจันทร์ รองหัวหน้าพรรคเป็นหัวหน้าคณะทำงาน ที่จะปรับปรุงกระบวนการทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องนี้ขึ้นอีก รวมถึงมีมาตรการ และกระบวนการที่มีประสิทธิภาพกว่านี้ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นในพรรค รวมไปถึงการอบรมด้วย

ต่อข้อถามว่า กรณีของนายไชยามพวาน ยังอยู่ในพรรคก้าวไกลอยู่ หากมีการตั้งคณะกรรมการจริยธรรมของสภาฯ แล้ว ถ้ามีคนเรียกร้องให้ตรวจสอบทางพรรคก้าวไกลยินดีหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ถ้ามีกระบวนการตรวจสอบใดๆ ทางพรรคให้ความร่วมมืออยู่แล้ว โดยพื้นฐานที่พรรคมีมติชัดเจนว่ามีการคุกคามทางเพศจริง และขัดวินัยร้ายแรง

เมื่อถามว่า กรณีของนายไชยามพวาน ทางกรรมการวินัยของพรรคได้ยอมรับหรือไม่ว่าเป็นตัวเองที่ถูกกล่าวหา นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับนายไชยามพวาน หลังจากที่มีมติที่ประชุมวันนี้ ซึ่งตนก็ออกมาสื่อสารกับสื่อมวลชนเลย ขอย้ำว่า ในที่ประชุมเสียงคือ 160 จากเสียงข้างมาก เพียงแต่ยังไม่ถึง 3 ใน 4 ทำให้ยังไม่สามารถขับออกสมาชิกพรรคได้

เมื่อถามว่า มติของที่ประชุมเห็นตรงกันว่าละเมิดจริยธรรมร้ายแรงทั้งคู่ ทางพรรคจะมีการขอให้ 2 คน ออกจากสส. เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งใหม่แทนสำหรับโควตาสส.ใหม่ หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณ ของทั้ง 2 ท่าน บางครั้งการแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองเป็นเรื่องที่พึงทำ

“ผมเชื่อมั่นว่าแม้คนที่จะทำผิด หากแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง สังคมพร้อมให้โอกาส และการรับผิดชอบทางการเมืองไม่จำเป็นต้องรอให้ข้อเท็จจริงยุติ อย่าคิดว่าการรับผิดชอบทางการเมืองเป็นการยอมรับผิด ผมสนับสนุนหากคนที่ถูกกล่าวหาพร้อมที่จะรับผิดชอบทางการเมือง ซึ่งถือเป็นนิมิตรหมายทางการเมืองที่ดี” นายชัยธวัช กล่าว