“อนุทิน”น้อมรับคำวินิจฉัยศาลรธน.เชื่อ​ไม่กระทบถึงขั้นยุบพรรค ชี้ เป็นเรื่องส่วนตัว

61

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย น้อมรับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ฟัน “ศักดิ์สยาม”​ สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี เชื่อ​ไม่กระทบหากพรรคถูกร้องยุบ เหตุเป็นเรื่องส่วนบุคคลต้องเคลียร์เรื่องทรัพย์สินให้รัฐ ขณะเจ้าตัว ยันไม่กังวล ขอศึกษาคำวินิจฉัยของศาลฯให้ละเอียดก่อน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงมติศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก มีคำวินิจฉัยให้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กรณีเป็นผู้ถือหุ้นบุรีเจริญคอนสตรัคชั่น สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีตั้งแต่ 3 มีนาคม 66 ว่า ตนเพิ่งทราบผล ซึ่งต้องน้อมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากนี้ ก็จะมีขั้นตอนกระบวนการต่อไป ทั้งเรื่องของการดำรงตำแหน่ง แต่ตนยังไม่ได้อ่านคำพิพากษาอย่างละเอียด ทราบแต่เพียงผลพร้อมผู้สื่อข่าวเท่านั้น จึงขอสอบถามรายละเอียดก่อนว่าจะทำอย่างไรต่อไป หากมีผลกระทบ นายศักดิ์สยาม​ คงดำรงตำแหน่งใดๆทางการเมืองไม่ได้ ทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เลขาธิการพรรค ซึ่งก็ต้องดำเนินการคัดสรรเลขาธิการพรรคคนใหม่มาทำหน้าที่ และขณะนี้ตนยังไม่ได้พูดคุยกับนายศักดิ์สยามแต่อย่างใด

ส่วนกังวลหรือไม่ว่าจะส่งผลไปจนถึงขั้นยุบพรรค นายอนุทิน​ กล่าวว่าเป็นเรื่องการจัดการทรัพย์สินส่วนบุคคล แต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบการแจกแจงแจ้งทรัพย์สินให้กับทางรัฐให้รับทราบ นี่จึงเป็นเจตนารมย์ในการแจ้งทรัพย์สินไป หากแจ้งไม่ถูกมีคนมาตรวจสอบก็ต้องแก้ไขให้ได้ หากแก้ไขไม่ได้ก็นำไปสู่การดำเนินคดี การร้องเรียนต่างๆ พร้อมย้ำว่า เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่พรรคก็ยังเป็นพรรคดำเนินกิจกรรมทางการเมืองต่อไปด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ได้เดินออกจากศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย พร้อมระบุว่า รอคัดคำวินิจฉัยของศาลฉบับเต็มก่อน ภายใน 15 วัน เพื่อดูว่าศาลจะให้ปฏิบัติอย่างไร

ต่อข้อถามว่า รู้สึกอย่างไร นายศักดิ์สยาม ส่ายหน้า พร้อมกล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกอะไรเราเคารพคำวินิจฉัย เมื่อถามว่ามีผลต่ออนาคตทางการเมืองหรือไม่ เพราะเป็นการถูกตัดสินว่าตั้งนอมินีมาถือหุ้นแทน นายศักดิ์สยาม ย้ำว่าขอคัดคำวินิจฉัยของศาลก่อน แล้วเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที ส่วนเรื่องนี้ ส่วนตัวรู้สึกกังวลหรือไม่ นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ไม่มี พร้อมระบุว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้กำชับอะไรมาหรือไม่ นายศักดิ์สยาม ตอบว่า ไม่มี