ผอ.รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ ปรับแผนตรวจบัตร ปชช.ก่อนเยี่ยมผู้ป่วยในห้องฉุกเฉิน

900

ผอ.โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เตรียมปรับแผนตรวจบัตรประชาชนก่อนเข้าเยี่ยมผู้ป่วยในห้องฉุกเฉิน หลังเกิดเหตุวัยรุ่นเข้ามาแทงคู่อริเสียชีวิต ขณะเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล

วันที่ 2 พ.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ มีวัยรุ่น 2 คน ใช้อาวุดมีดเข้าไปทำร้ายร่างกาย นายอัซฮา เจ๊ะเล๊าะ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/1 ม.6 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวภายในห้องฉุกเฉิน เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ โดยได้เข้ารักษาตัวในช่วงเช้าของวันที่ 28 เม.ย. แต่เกิดเหตุแทงกันในเวลาประมาณ 15.00 น.ของวันเดียวกัน หลังจากที่แพทย์ให้พักฟื้นภายในห้องฉุกเฉินหลังจากปฐมพยาบาลในขั้นต้นแล้ว

จากการเข้าสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นทราบว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุแทงกันนั้น นายอัซฮา เจ๊ะเล๊าะ ผู้เสียชีวิตได้เข้ามารักษาตัวที่ห้องฉุกเฉินเมื่อคืนวันที่ 27 เม.ย.แล้ว เนื่องจากบาดเจ็บจากการทะเลาะวิวาทกับคู่อริ ภายในงานกาชาด และงานประจำปีจังหวัดนราธิวาส ซึ่งจัดขึ้นที่สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ศูนย์ราชการ และแพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้ ต่อมา เวลา 08.00 น. ผู้ตายได้กลับเข้ามาห้องฉุกเฉินอีกครั้งเนื่องจากเสียหลักรถจักรยานยนต์ล้ม ขณะนั่งซ้อนท้ายกับ นายโซเฟียน อูมา ตามเส้นทางถนนศูนย์ราชการ ซึ่งแพทย์ได้ปฐมพยาบาล และให้พักฟื้นจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ และเจ้าหน้าที่พยาบาลภายในห้องฉุกเฉินในวันเกิดเหตุ ทราบว่า มีชายวัยรุ่น 2 คน ทำทีเป็นญาติเข้ามาขอเยี่ยม นายอัซฮา เจ๊ะเล๊าะ และเมื่อเดินมาบริเวณเตียงของคนไข้ 1 ในคนร้ายได้ใช้อาวุธมีดที่เตรียมมาแทงเข้าบริเวณลำคอ และศีรษะ จากนั้นได้วิ่งหนีออกจากห้องฉุกเฉินไป ขณะที่เจ้าหน้าที่พยาบาลส่วนที่เหลือได้นำผู้บาดเจ็บเข้าห้องผ่าตัด และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมาเนื่องจากเสียเลือดมาก

ด้าน นายแพทย์วิชัย วิเชียรวัฒนชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ว่า ทางโรงพยาบาลจะต้องมีการปรับมาตรการในการเข้าเยี่ยมผู้ป่วยภายในห้องฉุกเฉินให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการขอตรวจสอบบัตรประชาชน และกระเป๋าก่อนที่จะเข้าเยี่ยมคนไข้ เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง และป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นในขั้นต้น ขณะเดียวกันได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ รปภ.คอยสังเกตพฤติกรรมของบุคคลที่จะเข้ามาบริเวณโรงพยาบาลด้วย โดยให้ขอตรวจสอบหากพบเห็นพฤติกรรมต้องสงสัย

ส่วนขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่พยาบาลนั้น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า พยาบาลก็รู้สึกตื่นตัว และตระหนกต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบ้าง แต่ในขั้นต้นทุกคนเข้าใจดีว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งต่างกับเหตุการณ์ที่มาจากสถานการณ์ความไม่สงบ โดยหลังจากนี้ พยาบาลเองก็จะต้องเรียนรู้ และหัดสังเกตให้มาก เพื่อป้องกันในส่วนของผู้ป่วย และตนเองเพื่อไม่ให้ถูกลูกหลงด้วย
ด้านความคืบหน้าทางคดี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส ได้นำกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบ พร้อมเตรียมสอบสวน นายอัสรี เซะ ซึ่งเป็นผู้ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายกับ นายอัซฮา เจ๊ะเลาะ ผู้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องต่อเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ พร้อมติดตามคนร้ายทั้ง 2 ราย จากภาพกล้องวงจรปิดภายในโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ด้วย

 

Cr.mgr