ปิดฉากความขัดแย้ง อนุทินคืน’หาดเลพัง สู่สาธารณะ’ขาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกัน

68

คืน “หาดเลพัง” ถึงมือประชาชน ! “อนุทิน” ปิดฉากปัญหามหากาพย์ พื้นที่ถูกบุกรุก

9 พฤษภาคม 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดกิจกรรม “มหาดไทย มอบความสุข คืนชายหาดเลพัง ให้ชาวภูเก็ต” ประกาศสงวนหวงห้ามที่ดินเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยมี นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผู้บริหารกรมที่ดิน หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีฯ ณ บริเวณชายหาดเลพัง ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องประชาชนชาวภูเก็ต ที่จะได้ใช้ประโยชน์ในชายหาดเลพังร่วมกัน แม้จะเป็นงานที่ยากและต้องแก้ไขปัญหาต่าง ๆ มากมาย เพื่อขับเคลื่อนผลักดันกระบวนการที่จะรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ และยังเป็นภารกิจสำคัญที่กระทรวงมหาดไทยเราดำเนินการเพื่อ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ซึ่งการจัดการเอกสารสิทธิในที่ดินเป็นความสำคัญลำดับต้น ๆ ของกรมที่ดินที่ต้องเร่งพิจารณา ทำสิ่งถูกต้อง กำจัดสิ่งที่ผิด ออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินให้รวดเร็วและถูกต้อง ยึดหลักสุจริต ตลอดจนฐานข้อมูลด้านที่ดินจะต้องได้รับการปรับปรุงอยู่เสมอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อปี พ.ศ. 2544 องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลแจ้งความประสงค์ต่อนายอำเภอถลาง ขอสงวนที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่รกร้างว่างเปล่าบริเวณหาดเลพัง หมู่ที่ 4และหมู่ที่ 6 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้เป็นที่สาธารณ ประโยชน์สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ซึ่งอำเภอได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้วปรากฏว่า ที่ดินที่ขอสงวนเป็นที่รกร้างว่างเปล่า มีต้นสนทะเลขึ้นตลอดแนว และในระวางรูปถ่ายทางอากาศที่ถ่ายไว้เมื่อปี พ.ศ. 2521 ไม่ปรากฏร่องรอยการทำประโยชน์ในที่ดินแต่อย่างใด

อำเภอถลางเห็นว่าการสงวนที่ดิน บริเวณดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนเพื่อรักษาที่ดินไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ใช้ประโยชน์ หากปล่อยปละละเลยให้มีการบุกรุกเข้ายึดถือครอบครองจะเป็นเหตุให้ ประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าใช้ประโยชน์ที่ชายหาดได้ ต่อมาปี พ.ศ. 2545 จังหวัดภูเก็ตเห็นชอบให้อำเภอถลาง ดำเนินการสงวนหวงห้ามเพื่อให้พลเมืองใช้ร่วมกัน โดยให้ดำเนินการตามระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2529) ต่อมาอำเภอถลางได้มีประกาศลงวันที่ 16 มิถุนายน 2546 เรื่อง ที่ดินที่จะสงวน หรือหวงห้ามเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันให้ประชาชนทั่วไปทราบทั่วกัน โดยแสดงขอบเขตที่ดินที่จะ สงวนเนื้อที่ประมาณ 178 ไร่ ปรากฏว่ามีผู้คัดค้าน จำนวน 9 ราย (ไปใช้สิทธิทางศาล จำนวน 7 ราย)ไม่ไปใช้สิทธิทางศาล จำนวน 2 ราย) ซึ่งทั้งศาลฎีกาและศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษาแล้วว่า ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินของรัฐเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทที่ดินรกร้างว่างเปล่าในปี 2565 องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เห็นสมควรสงวนหวงห้ามที่ดินบริเวณชายหาดเลพัง หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 6 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เนื้อที่ 172-3-18 ไร่

ทั้งนี้กรมที่ดิน พิจารณาแล้วเห็นสมควรสงวนหวงห้ามที่ดินบริเวณชายหาดเลพัง หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 6 ตำบลเชิงทะเลอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เนื้อที่ 172-3-18 ไร่ เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน จึงได้เสนอคณะกรรมการจัดที่ดินพิจารณาโดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบการสงวนหวงห้ามที่ดินเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันบริเวณชายหาดเลพังตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เนื้อที่ 172-3-18 ไร่ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการจัดที่ดิน เรื่อง การสงวนหวงห้ามที่ดินของรัฐเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน วันที่ 17 เมษายน 2567มีผลทำให้ที่ดินดังกล่าวเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินที่พลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน