อิทธิพลทุบ’มัสยิดแพร่’ จุฬาราชมนตรีทำงานช้าไม่ออกหนังสือฟัตวา ส่งผลคนแพร่ไร้ที่ละหมาด

2453

ไม่รอหนังสือฟัตวาจากจุฬาราชมนตรี กลุ่มอิทธิพลสั่งทุบมัสยิดจังหวัดแพร่ ไม่ให้คนเข้าละหมาด ต้องการให้ไปละหมาดที่มัสยิดเด่นชัย มุสลิมแพร่เคว้ง ไร้ที่ละหมาด

วันที่ 2 มิถุนายน Mtoday ได้รับการร้องเรียนจากมุสลิมจังหวัดแพร่ว่า ได้มีการทุบมัสยิดจังหวัดแพร่ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กุโบรฺ์ ใจกลางเมืองแพร่ มีการขนสิ่งของเครื่องใช้ อาทิ พัด ลม ตู้เย็น แอร์ ไปไว้ที่มัสยิดเด่นชัย ที่อยู่ห่างออกไป 25 กิโลเมตร สร้างปัญหาให้กับมุสลิมในตัวจังหวัดไม่มีสถานที่ละหมาด

ปัญหาที่ดินตรงกุโบรฺ์ หรือสุสานมุสลิมจังหวัดแพร่ เนื้อที่ 4 ไร่ มุสลิมชาวจังหวัดแพร่ได้รวบรวมบริจาคสำหรับเป็นกุโบร์และมัสยิด ตั้งแต่เมื่อ 70-80 ก่อน ซึ่งมีการใช้เป็นสถานที่ละหมาดมายาวนยาวนาน มีการก่อสร้างมัสยิดในที่ดินดังกล่าวโดยอิหม่ามคนก่อน รวมทั้งสร้างอาคารสอนจริยธรรมอิสลาม อย่างไรก็ตาม หลังอิหม่ามมัสยิดเด่นชัยคนปัจจุบัน เข้ารับตำแหน่ง และเมื่อประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา มีการปิดสถานที่ไม่ให้มีการละหมาด โดยให้เหตุผลว่า ที่ดินดังกล่าว มีการบริจาคเป็นกุโบร์ ไม่สามารถทำเป็นมัสยิดได้ ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ มุสลิมในพื้นที่จังหวัดแพร่ เห็นว่า สามารถใช้เป็นมัสยิดได้ เพราะการบริจาคเป็นการบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์ของมุสลิม ซึ่งแต่เดิมก็ใช้เป็นสถานที่ละหมาด มีการละหมาดมาต่อเนื่อง จึงมีการร้องเรียนมายังจุฬาราชมนตรี เพื่อขอให้ฟัตวยาเพื่อยุติปัญหา

ต่อมาจุฬาราชมนตรี ได้มอบหมายให้นายสมัย เจริญช่าง ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร (กอ.กทม.) รับผิดชอบไกล่เกลี่ย ซึ่งนายสมัย ได้เชิญทั้ง 2 ฝ่ายมาร่วมพุดคุยเพื่อหาทางออก ที่ประชุมโดยมีผู้ที่มีส่วนร่วมบริจาค ยืนยันว่า หการบริจาคไม่ได้บริจาคเพื่อเป็นกุโบร์อย่างเดียว บริจาคเป็นมัสยิดด้วย ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า สามารถละหมาดได้ แต่อิหม่ามเด่นชัย ขอให้จุฬาราชมนตรีออกหนังสือฟัตวาอย่างเป็นทางการ จึงจะอนุญาตให้มีการละหมาด เนื่องจากที่เดินเป็นกรรมสิทธิ์ของมัสยิดเด่นชัย

‘หลังการประชุมอิหม่ามเด่นชัย ก็ยังไม่เปิดให้มีการละหมาด ต่อมาได้มีชายฉกรรจ์นั่งรถกระบะมา 2 คน เข้ามาทุบมัสยิด รื้อสิ่งของเครื่องใช้ออกไป สร้างความลำบากให้กับมุสลิมจังหวัดแพร่ที่มีเกือบ 100 ครัวเรือน ส่วนใหญ่เป็นมุสลิมจากภาคใต้ มาตัดยาง มาทำงานอย่างอื่น มาแต่งงานกับคนแพร่ ส่วนใหญ่เป็นมุอัลลัพ ไม่มีสถานที่ละหมาด จึงอยสกเรียกร้องให้จุฬาราชมนตรึ รีบออกหนังสือฟัตวา ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่า มีการประชุมได้ข้อสรุปแล้ว ทำไมจุฬาราชมนตรีจึงไม่ออกหนังสือเพื่อแก้ปัญหา ทราบว่า กลุ่มนี้เป็นกลุ่มมีอิทธิพล แต่คงไม่มีอิทธิพลอยู่เหนือจุฬามานตรี อยู่เหหนือศาสนา’ ผู้ร้องเรียนชาวจังหวัดแพร่ กล่าวกับ Mtoday