ทำไมศาสดาอิสลาม นบีมูฮัมหมัด จึงกล่าวว่า “ฉันคือ ชาวเยเมน”

กาลเวลาที่ผ่านมา จะกำหนดความหมายและความลึกซึ้งของคำบางคำ บางครั้งสัจธรรมก็ซ่อนเร้นจากสายตาของผู้คน ที่ซึ่งเมื่อใครสักคนเอ่ยมันออกมา ก็ดูเหมือนว่า มันจะไม่ชัดเจน หรือไม่ถูกต้องในตอนแรก แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไป ท้ายที่สุด แสงสว่างของความจริงที่ซ่อนอยู่ ก็ปรากฏออกมาเบื้องหลังเมฆที่บดบัง และเผยให้ทุกคนได้เห็นมัน

มีวจนะบทหนึ่ง จากท่านศาสดาผู้เป็นที่รักของเรา (ศ็อลฯ) ซึ่งอาจจะเข้าใจได้ยาก หากเราได้ยินมัน เมื่อหลายทศวรรษก่อน เราคงไม่สามารถเข้าใจความหมายและยอมรับมันได้ด้วยใจจริง แต่แล้วกาลเวลาที่ผ่านพ้นไป ก็ได้ทำให้ทุกอย่างง่ายดายขึ้น

ทุกวันนี้ คำกล่าวของท่านศาสดาผู้เป็นที่รักของเรา สามารถเป็นที่เข้าใจและยอมรับได้สำหรับทุกคน ไม่เพียงแค่ชาวมุสลิมเท่านั้น แต่มนุษย์ที่มีความคิดอิสระทุกคน ต่างก็ยอมรับคำกล่าวนี้ และเข้าใจว่าคำกล่าวนี้ สอดคล้องกับสิ่งที่พวกเขาเห็นและเป็นพยานอยู่จริง

รายงานที่พิเศษ และน่าสนใจเกี่ยวกับผู้คนในเยเมนได้รับการบอกกล่าวจากท่านศาสดาผู้เป็นที่รักของเรา(ศ็อลฯ) รายงานเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความผูกพัน และการยืนยันของท่านที่มีเกี่ยวกับผู้คนในเยเมน นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงอัญมณีล้ำค่า อันบริสุทธิ์ ที่ท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ได้มองเห็นในตัวของผู้คนเหล่านี้อีกด้วย

ท่านศาสดาอิสลาม (ศ็อลฯ) กล่าวว่า: “ฉันคือชาวเยเมน!” — ซึ่งหมายความว่า ชาวเยเมนอยู่ในจุดสูงสุดของความดี และท่านศาสดานั้น ชื่นชอบพวกเขามาก จนท่านแนะนำตัวเช่นนี้

หรือในอีกที่หนึ่ง ท่านศาสดา (ศ็อลฯ) กล่าวว่า: “ศรัทธามาจากเยเมน และวิทยปัญญามาจากเยเมน”– นั่นคือ ศรัทธาและปัญญาของชาวเยเมนอยู่ในระดับสูงมาก จนเราสามารถกล่าวได้ว่า เยเมนเป็นแหล่งกำเนิดของศรัทธาและวิทยปัญญา

ปัจจุบันนี้ ในเดือนกันยายน 2024 ความจริงของวจนะสุดพิเศษของบ่าวที่ประเสริฐที่สุดของพระผู้เป็นเจ้าในโลกนี้ เกี่ยวกับเยเมน ปรากฎชัดเจนขึ้น และสามารถมองเห็นได้ด้วยตาของเราเอง

ตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่า ทำไมศาสดาของพระเจ้า จึงกล่าวเช่นนี้ ตอนนี้เราเชื่อแล้วว่า ศรัทธาสามารถมองเห็นได้ในตัวชาวเยเมน เราเชื่อแล้วว่า ผู้ที่มีความศรัทธามากที่สุดในโลก มีอยู่ที่นั่น ในเยเมน ชาวเยเมนได้แสดงความจริงนี้ให้ทุกคนได้รับรู้แล้ว ทุกคนในโลกรู้เรื่องนี้แล้ว!

พวกเขาคือผู้ที่ไม่ได้ปิดหูปิดตา หลับใหล เหมือนผู้คนจากกว่า 200 ประเทศ ที่ไม่แสดงความเคลื่อนไหวในโลก แต่พวกเขาลงสนาม เมื่อเห็นสถานการณ์อันเลวร้ายของชาวกาซ่า

พวกเขาคือผู้ที่สนับสนุนกลุ่มต่อสู้ และชาวปาเลสไตน์ ไม่เพียงแต่ด้วยคำพูดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการกระทำตั้งแต่วันแรกด้วย

พวกเขาคือผู้ที่ทำให้การเป็นมุสลิม มีความหมาย พวกเขานำเอาคำกล่าวของท่านศาสดาแห่งพระเจ้า มาพิจารณาอย่างจริงจัง ท่านศาสดา (ศ็อลฯ) กล่าวว่า หากมุสลิม ได้ยินเสียงของชาวมุสลิมขอความช่วยเหลือ แต่ไม่เข้าไปช่วยเหลือ แสดงว่า เขาผู้นั้นไม่ใช่มุสลิม ดังนั้น ชาวเยเมนจึงรีบเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องมุสลิมของพวกเขา

พวกเขาคือผู้ที่ได้แสดงให้เห็นว่า หัวใจของพวกเขามีอยู่ และเต้นไปพร้อมกับหัวใจของชาวเมืองกาซ่า แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างจากดินแดนปาเลสไตน์หลายพันกิโลเมตรก็ตาม พวกเขาออกมาตามท้องถนนทุกสัปดาห์เป็นจำนวนหลายล้านคน และบอกกับผู้นำของพวกเขาว่า พวกเขาพร้อมที่จะเผชิญกับความยากลำบาก เพื่อลดแรงกดดันต่อชาวเมืองกาซา

พวกเขาคือผู้ที่กดดันเศรษฐกิจของอิสราเอลอย่างแท้จริง และทำให้ทะเลทั้งหมดไม่ปลอดภัย สำหรับพวกอิสราเอลผู้แย่งชิง จนถึงขนาดที่ไม่มีเรือลำใดกล้าเข้าใกล้อิสราเอล

พวกเขาคือผู้ที่ยิงขีปนาวุธไปยังท่าเรือเอลัตของระบอบการแบ่งแยกเชื้อชาติ จนกระทั่งท่าเรือดังกล่าวประกาศล้มละลายอย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่วันก่อน

พวกเขาคือผู้ที่ถูกสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรโจมตี ด้วยระเบิด สำหรับอาชญากรรมที่พวกเขาปกป้องกาซ่า แต่ชาวเยเมนก็ยังไม่ยอมแพ้

สหรัฐฯและสหราชอาณาจักร ซึ่งสมรู้ร่วมคิดและเป็นพันธมิตรกับอิสราเอลในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซ่า ได้ต่อสู้ในสงครามทางการทหารและเศรษฐกิจกับเยเมนอย่างเป็นทางการ มานานหลายเดือน เพื่อหยุดยั้งพวกเขา แต่พวกมันก็ไม่ประสบความสำเร็จ และขณะนี้ เยเมนก็กำลังต่อสู้กับทั้งสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร รวมถึงอิสราเอลด้วย

บัดนี้ ในเดือนกันยายน 2024 เราสามารถเข้าใจความหมายของวจนะจากท่านศาสดาผู้เป็นที่รักของเราได้ดียิ่งขึ้น

ใช่แล้ว! ศรัทธามาจากเยเมน เกียรติยศมาจากเยเมน !!

~ อุสตาดอะลีริฎอ พานาฮียอน นักการศาสนาอันดับต้นของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน

اللهم صل علی محمد وآل محمد وعجل فرجهم

Saiyaid Sulaiman Husaini