ผกก.สภ.ร่อนพิบูลย์ ทำหนังสือรายงานคดีดัง ส.ส.เมืองคอน รุมทืบผู้รับเหมากลางงานบวช แต่ไม่ชี้ชัด ชัยชนะ เดชเดโช หรือไม่ ด้านเชาว์ มีขาด เปิดชื่อทันที
ผกก.สภ.ร่อนพิบูลย์ ทำหนังสือรายงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เหตุคดีดัง “สส.เมืองคอน” พร้อม สจ.รุมสกรัมทำร้ายร่างกายผู้รับเหมากลางงานบวช โซเชียลแชร์กระหึ่ม ด้านเจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมหลักฐานพิสูจน์ความจริง
ผกก.สภ.ร่อนพิบูลย์ ทำหนังสือรายงานคดีดัง ส.ส.เมืองคอน รุมทืบผู้รับเหมากลางงานบวช
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีเอกสาร เลขที่ ตช.0023(นศ).(26)/2046 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ลงนามโดย พ.ต.อ.ชัยรัตน์ บัวชม ผู้กำกับ สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช รายงานถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
โดยมีรายละเอียดว่า เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.08 น. นายนเรศ อายุ 40 ปี ผู้เสียหายมาพบพนักงานสอบสวน แจ้งว่าได้ถูกสจ.เขตร่อนพิบูลย์ และสส.นครศรีธรรมราช พรรคการเมืองชื่อดัง พร้อมพวกประมาณ 10 คนร่วมกันทำร้ายร่างกายด้วยการชกต่อยและใช้ของแข็งตีถูกที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บ โดยได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนครินทร์ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
เหตุเกิดในงานบวช บ้านควนพัง หมู่ 3 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 23.30 น. โดยพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้วและรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ต่อมาผู้กำกับ สภ.ร่อนพิบูลย์มีคำสั่งแต่งตั้งชุดสืบสวนสอบสวน สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ต.ควนพัง ซึ่งเป็นตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลผู้ต้องหาร่วมในคดีดังกล่าว ตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง
หลังจากนั้น ในวันเดียวกันเวลา 17.11 น. ผู้เสียหายมีความประสงค์ขอถอนคำร้องทุกข์อ้างว่าเป็นการเข้าใจผิด ไม่ประสงค์ดำเนินคดีกับผู้ใดต่อไป อีกทั้งไม่สะดวกให้ปากคำเนื่องจากยังมีอาการเจ็บปวดบาดแผล พนักงานสอบสวนได้สอบสวนปากคำนายไชยเชษฐ์ พลสวัสดิ์ นายก อบต.ควนพัง ซึ่งเป็นผู้จัดการงานบวชในวันเกิดเหตุไว้ และพยานอื่นรวม 4 ปากข
กระทั่งต่อมาวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 มีภาพและข้อความปรากฏบนสื่อโซเชียลในเพจเฟซบุ๊กต่างๆ ในทำนองว่า ส.ส.เมืองคอน กร่าง ยกพวกทำร้ายผู้รับเหมาที่ ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ และต่อมามีการขยายความ กระทั่งทางสื่อโซเชียลเชื่อว่าเป็นการกระทำของนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช ซึ่งทางสภ.ร่อนพิบูลย์อยู่ระหว่างสอบสวนปากคำ และรวบรวมหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความจริงประกอบข้อมูลการดำเนินการต่อไป
ด้านนายเชาว์ มีขวด ทนายความ โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า ขอให้โอนคดี “ส.ส.กร่าง” ให้กองปราบ เพื่อยุติวงจรอิทธิพลที่บิดเบือนกระบวนการยุติธรรม
วันนี้คงไม่จำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไปว่า ส.ส.ชื่อดังจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ที่ยกพวกรุมทำร้ายร่างกายนักธุรกิจกลางงานบวชต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน คือ นายช….ระบุ ตำแหน่งในประชาธิปัตย์ และสภาผู้แทนราษฎร
จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจว่า เหตุการณ์ที่ถือเป็น คดีอุกฉกรรจ์กลางงานบุญต่อหน้าสาธารณชน กลับไม่มีใครกล้าออกมาเป็นพยาน เพราะต่างหวาดกลัวต่ออิทธิพลที่ฝังลึกของ ส.ส.รายนี้ ที่มีเจ้าหน้าที่รัฐคอยอำนวยความสะดวก และสามารถขยายเครือข่ายอำนาจครอบคลุมไปทั่วทั้งจังหวัด
แม้ผู้เสียหายซึ่งเป็นนักธุรกิจท้องถิ่น ได้เข้าแจ้งความไว้ตามขั้นตอนแล้ว แต่กลับมีความพยายาม กดดันให้ถอนแจ้งความ โดยมีนายตำรวจระดับสูงในพื้นที่เป็นผู้ประสาน “ปิดคดี” ให้ทุกวิถีทาง และมีรายงานว่า มารดาของ ส.ส.กร่างรายนี้ เป็นผู้เข้ามาเจรจาด้วยตนเอง
ผู้เสียหายซึ่งตกเป็นเป้า ทั้งทางร่างกายและธุรกิจ จึงตัดสินใจถอนคำร้องด้วยความหวาดกลัวทั้งที่ความจริงแล้ว นี่คือคดีอาญาแผ่นดิน ไม่สามารถยอมความได้ตามกฎหมาย
โดยเฉพาะเมื่อมีพยานหลักฐานแน่นหนา ทั้งใบรับรองแพทย์ พยานบุคคล และคำให้การของผู้เสียหายที่ระบุชัดว่า นายชัยชนะได้พูดจากดดันไม่ให้ตนลงสมัครนายก อบต. ในพื้นที่ และเมื่อการพูดคุยไม่เป็นไปตามที่อีกฝ่ายต้องการ จึงเกิดเหตุทำร้ายร่างกายขึ้น
เริ่มจากการถูกตบหน้าโดยตรง และตามมาด้วยการรุมทำร้ายโดยน้องชายและพวกพ้อง ทำให้ผู้เสียหายถูกทำร้ายจนศีรษะแตก และในขณะเกิดเหตุยังมีการ ชักอาวุธปืนขึ้นมาข่มขู่ด้วย
ผมจึงขอเรียกร้องไปยัง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ เร่งโอนคดีนี้จากพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชไปให้ “กองบังคับการปราบปราม” เป็นผู้ดำเนินการสอบสวนแทนโดยด่วนที่สุด เพื่อให้กระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานเป็นไปโดยอิสระ ป้องกันการแทรกแซงหรือบิดเบือนคดีโดยผู้มีอำนาจและคุ้มครองความปลอดภัยของผู้เสียหายและพยานที่เกี่ยวข้อง
คดีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัวระหว่างคนสองฝ่ายแต่เป็นบททดสอบว่า กระบวนการยุติธรรมไทยจะยอมจำนนต่ออิทธิพลทางการเมือง…หรือไม่