คณะครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านเหนือน้ำ รู้สึกขอบคุณในน้ำใจ อดีตผอ.เทคโนโลยีการศึกษา ในฐานะกรรมการตรวจสอบ-ประเมิน ก.ศึกษาธิการ ที่บริจาคคอมฯ-แท็บเล็ตส่วนให้ร.ร.บ้านเหนือน้ำ
ตามที่คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลประจำกระทรวงศึกษาธิการ ที่มี ดร.สุภัทร จำปาทอง อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานกรรมการฯนำทีม คณะกรรมการฯ ประกอบด้วย นายกิตติรัตน์ มังคละคีรี อดีตเลขาธิการสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คุณอุไร ร่มโพธิหยก อดีตรองอธิบดีกรมบัญชีกลาง นายชาญศักดิ์ เหลืองไตรรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีการศึกษา ตรวจเยี่ยมและประเมินผลโรงเรียนบ้านเหนือน้ำ ที่อยู่ชายขอบของตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา จ.สุราษฎร์ธานี โดยฮัจยี ดร.ธงชัย ปิติเศรษฐ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี คณะครู นักเรียน และชาวพุมเรียงร่วมให้การต้อนรับ และให้ข้อมูลเกี่ยวโรงเรียนนั้น ในวันดังกล่าวได้มีตัสแทนนักเรียน ได้ให้ข้อมูลว่า โรงเรียนมีคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องให้นักเรียนไเเรียนรู้ซึ่งไม่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียน

ล่าสุด นายชาญศักดิ์ เหลืองไตรรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีการศึกษา ได้บริจาคคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ตส่วนตัวให้กับทางโรงเรียนได้ใช้ก่อนที่จะมีคอมพิวเตอร์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทางโรงเรียนได้แจ้งมาว่า รู้สึกขอบคุณ อดีตผอ.สำนักเทคโนโลยีการศึกษา ที่เห็นความสำคัญของนักเรียนโรงเรียนบ้านเหนือน้ำ
ทางด้านสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. เปิดวิสัยทัศน์และแนวทางการขับเคลื่อนองค์กร ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – Al) ภายใต้ วิสัยทัศน์ ONESQA 5.0 โดยมุ่งเน้นการน่า AI เข้ามาใช้ เพื่อเสริมประสิทธิภาพ โปร่งใส และ แม่นย่ำ ในกระบวนการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษา พร้อมยกระดับสู่ความเป็นดิจิทัล อย่างเต็มรูปแบบ
ศาสตราจารย์ ดร.องอาจ นัยพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. เปิดเผยปัจจุบันกระแสของโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในยุคของข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และเทคโนโลยี่ดิจิทัล ว่า…
ด้วยเหตุดังกล่าว สมศ. จึงต้องปรับตัวและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี่ เพื่อให้การประเมินคุณภาพภายนอกมีความทันสมัย ยืดหยุ่น เป็นธรรม และตรวจสอบได้ ภายใต้วิสัยทัศน์ ONESCA 5.0 ที่เน้นเทคโนโลยีเพื่อคุณภาพที่ยั่งยืน ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
โดยในกระบวนการประเมินคุณภาพภายนอกนั้น สมศ. ได้กำหนดแนวทางอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมตั้งแต่ตันน้ำจนถึงปลายน้ำ ซึ่งสอดรับกับนโยบาย “การพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาแบบคู่พัฒนา” ของ กระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี่ดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (Al) เป็นเครื่องมือหลักในการบริหารจัดการศึกษา
ขณะนี้ สมศ. ได้เริ่มดำเนินการตามนโยบายของรัฐบนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยพัฒนาและเริ่มใช้ Machine Learning ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ AI มาใช้ใน “ระบบวิเคราะห์ข้อมูล” เพื่อชี้เป้า (Targeted Identification) กลุ่มโรงเรียนที่มีศักยภาพในการพัฒนา โดยพิจารณาจากคุณภาพบริบทเฉพาะของแต่ละสถานศึกษา เช่น โรงเรียนในพื้นที่ชายขอบ ในเมือง หรือ พื้นที่พิเศษ
ซึ่งโมเดลการวิเคราะห์นี้ สามารถจำแนกกลุ่มเป้าหมายได้แม่แยำกว่าการใช้วิธีการแบบเดิม สามารถสะท้อนศักยภาพของสถานศึกษาแต่ละแห่งตามจริง ผลักดันให้เกิดนโยบายที่ลงไปช่วยพัฒนาโรงเรียนอย่างเป็นรูปรรรม อีกทั้งโมเดลยังสามารถพัฒนาต่อยอดไปเป็น AI ที่วิเคราะห์ข้อมูลการประเมินคุณภาพภายนอกโดยอัตโนมัติ
บอกจากนี้ สมศ. ยังมีเป้าหมายในการพัฒนาแพลตฟอร์มการประเมินอัจฉริยะที่เชื่อมโยงข้อมูลจากรายงานผลการประเมินตนเอง (SAR) ของสถานศึกษา ไปจนถึงรายงานของผู้ประเมินภายนอก เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึก แสดงผลข้อมูลแบบสรุปข้อมูลทุกอย่างให้อยู่ในหน้าจอเดียว (แดชบอร์ด) ที่เข้าใจง่าย ช่วยให้ทั้งผู้บริหารสถานศึกษาและผู้ประเมินภายนอกสามารถใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนาคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับ การพัฒนาโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ (Al) เฉพาะทาง
ทั้งนี้ สำหรับการวิเคราะห์ข้อความด้วยเทคโนโลยี Natural Language Processing (NLP) ที่มีความโดดเด่น สามารถประมวลผลรายงานการประเมินกว่า 2,000 ฉบับ โดยแยกเนื้อหาตามตัวบ่งชี้ด้านคุณภาพ เช่น การบริหารจัดการ การจัดการเรียบรู้ หรือ ผลลัพธ์ด้านผู้เรียน พร้อมตรวจสอบความสอดดคล้องของข้อมูล และแจ้งเตือนข้อผิดพลาดได้แบบอัตโนมัติ
ในยุคที่ AI ไม่ใช่เครื่องมือทดแทนคน แต่ คือคู่คิด ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างยั่งยืน สมศ. ได้กำหนดให้ AI เป็นผู้ช่วยมืออาชีพของผู้ประเมินภายนอก โดย AI จะเข้ามาสนับสนุนการสรุปรายงานการจัดกลุ่มสถานศึกษา และสร้างแดชบอร์ด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน โดยที่ผู้ประเมินภายนอกยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการประเมินคุณภาพการศึกษา จนถึงการให้ข้อเสนอแนะเชิงคุณภาพและสร้างความไว้วางใจให้กับสถานศึกษาและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน
นี่คือ แนวทางของ สมศ. ในการยกระดับคุณภาพการศึกษา ภายใต้วิสัยทัศน์ ONESQA 5.0 เพื่อการพัฒนางางานประกันคุณภาพการศึกษาให้เกิดความก้าวหน้าเท่าทันในระดับสากล โดย สมศ. จะเดินหน้าพัฒนาระบบ AI ควบคู่กับการเสริมสร้างความรู้และทักษะให้กับบุคลากร ทั้งในองค์กรและผู้ประเมินภายนอก
ทั้งนี้เพื่อให้สามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ บนพื้นฐานของความโปร่งใส ความยุติธรรม และเป้าหมายสำคัญ คือ การยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยอย่างยั่งยืน