มัสยิดนูรุ้ลเอี๊ยะห์ซาน ชุมพร จัดงานขับเคลื่อนกองทุนวะกัฟ อ.ประสาน ศรีเจริญ ระบุ การวะกัฟได้ผลบุญตลอดไป ขณะที่ประธานกอจ.สุราษฎร์ฯ ดันนโยบายกองทุนวะกัฟเป็นมัสยิดมือบน
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2568 มัสยิดนูรุ้ลเอี๊ยะห์ซาน อ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้จัดงานงานรวมน้ำใจสู่กองทุนวะกัฟ เพื่อหารายได้เข้ากองทุนเพื่อการบริหารมัสยิดและการศึกษาศาสนอิสลาม โดยมีนายประสาน ศรีเจริญ ประธานที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ จุฬาราชมนตรี เป็นประธานในพิธี
มีผูัมีเกียรติเข้าร่วมงาน อาทิ นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้พบปะมุสลิมชุมพร และเล่าเรื่องชุมพร นายวิทยา สุวรรณสิทธิ์ นายอำเภอปะทิว นางพณณกร ชูกิตติวิบูลย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชุมพร นายกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร ดร.ธงชัย ปิติเศรษฐ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายยูซุบ โต๊ะวัง ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสวาป เผ่าปาทาน กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย, รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปะทิว นายกเทศมนตรีตำบลชุมโค กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และมุสลิมจากหลายจังหวัดเข้าร่วม
นายพิษณุ ศรีสอาด ประธานคณะกรรมการจัดงาน กล่าวว่า กองทุนวะกัฟ จัดตั้งตามการผลักดัน ของวิสุทธิ์ บินลาเต๊ะ อดีตกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นกองทุนที่ถาวรในการบริหารจัดการมัสยิดและการศึกษาอิสลามของเยาวชน
นายประสาน ศรีเจริญ ประธานในพิธี กล่าวว่า การจัดตั้งกองทุนวะกัฟ เป็นแนวทางหนึ่งในการขับเคลื่อนพัฒนาสังคมมุสลิม การวะกัฟ คือ การบริจาคทรัพย์สินที่ถาวร อสังหาริมทรัพย์ให้กับสาธารณะประโยชน์ ซึ่งไม่สามารถแจกจ่ายถ่ายโอนได้ ให้เป็นมรดกไม้ได้ แต่ดอกผลจากทรัพย์ที่บริจาคนั้น สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ อย่างที่มัสยิดนูรุ้ลเอี๊ยะซานทำ นำประโยชน์จากทรัพย์บริจาค มาใช้จ่ายเพื่อการทำงานศาสนา เพื่อการศึกษาด้านศาสนาของเยาวชน
‘คนที่บริจาค จะได้ผลบุญจากการบริจาคทรัพย์ จำนวน 700 เท่า ตามที่อัลเลาะฮ์สัญญาไว้ในอัลกุรอ่าน เหมือนข้าว 1 เมล็ดจะได้รับผลตอบแทน 7 รวง 1 รวง มี 100 เมล็ด จากดอกผลจากทรัพย์ที่บริจาค จะได้รับผลบุญตลอดไป แม้จะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม’ อ.ประสาน กล่าว
ประธานที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี กล่าวว่า ผลตอบแทนจากการวะกัฟ การให้วิชาความรู้ และความรู้ถูกนำไปใช้ต่อ ทั้งความด้านศาสนา และความรู้ด้านวิชาชีพต่างๆ คนบริจาค คนวะกัฟก็จะได้ผลบุญตลอดไป ตราบที่ความรู้นั้นถูกนำไปใช้ประโยชน์
ด้านนายธงชัย ปิติเศรษฐ์ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำขังหวัดสุราษฎร์ธานี เปืดเผยว่า กอจ.สุราษฎร์ฯ มีนโยบายให้มัสยิดมือบน โดยการจัดตั้งกองทุนวะกัฟประจำมัสยิด ได้ดำเนินการไป 2-3 แห่งที่มีความพร้อมและมีความตั้งใจ โดยการจีดซื้อที่ดินที่เป็นสวนปาล์มวะกัฟให้กับมัสยืด อย่างมัสยิดมูฮัมมาดียะห์ บ้านดอนมะม่วง อ.ท่าชนะ ได้มีการจัดซื้อที่ดินสวนปาล์มจำนวน 20 ไร่ ด้วยการสนับสนุนทางการเงินจากสถาบันการเงินอิสลามสุราษฎร์ธานี บ้านพุมเรียง เมื่อมัสยิดมีรายได้ก็นำเงินมาคืนสถาบันฯ ซึ่งจัดงานไม่กี่ครั้งก็สามารถคืนเงินได้หมด มัสยิดจะมีรายได้ประจำเดือน 40,000-50,000 บาท พึ่งพาตัวเองได้ เป็นมัสยิดมือบนที่สามารถช่วยเหลือสังคมได้ ซึ่งจะพยายามทำให้ไดัมากที่สุด ถ้าครบ 52 มัสยิดก็จะเป็นเรื่องดี
