ศึกภายใน ปชป. ระอุ “วัชระ” จี้ “สุธรรม” อย่าแค่พูดผ่านสื่อ ถามหาความกล้าพิสูจน์ต่อ กกต.
13 กรกฎาคม 2568 นายวัชระ เพชรทอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่าน TikTok ส่วนตัว แสดงความเห็นถึงกรณีที่นาวาตรีสุธรรม ระหงษ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตผู้อำนวยการพรรค ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนโดยกล่าวว่ามติของคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์อาจไม่เป็นไปโดยชอบด้วยข้อบังคับพรรค
นายวัชระ ระบุว่า ตนรู้สึกแปลกใจที่คณะกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดมีมติเห็นชอบแต่กลับมีเพียงนาวาตรีสุธรรมคนเดียวที่แสดงความเห็นคัดค้าน และเลือกใช้การแถลงผ่านสื่อมวลชนเป็นช่องทางในการแสดงออก ทั้งที่ตนเองก็ยังดำรงตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรค และเคยดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองมาแล้วหลายตำแหน่ง เช่น เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
“หากท่านสุธรรมมั่นใจว่าสิ่งที่พูดนั้นถูกต้อง ก็ขอให้กล้าไปให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด ไม่ใช่แค่แถลงผ่านสื่อ เพราะมติของคณะกรรมการบริหารพรรค ที่ให้อำนาจหัวหน้าพรรคในการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ผ่านการประชุมและมีมติตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับของพรรค และเป็นแนวปฏิบัติตามคู่มือที่ กกต. แนะนำให้ทุกพรรคการเมืองถือปฏิบัติ” นายวัชระกล่าว
นอกจากนี้ วัชระยังยืนยันว่า ฝ่ายกฎหมายของพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค ได้ร่วมกันพิจารณาและยืนยันความถูกต้องของกระบวนการดังกล่าวแล้ว
“ผมเป็นเพียงสมาชิกธรรมดาของพรรคประชาธิปัตย์คนหนึ่ง แต่ก็มีความห่วงใย อยากให้เราร่วมกันประคับประคองพรรคให้เดินหน้ารับใช้พี่น้องประชาชนต่อไป และก็ยังหวังว่า สมัยหน้า ท่านสุธรรมจะลงสมัคร สส. ร่วมกับผมในนามพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อร่วมกันทำงานรับใช้ประชาชน” นายวัชระทิ้งท้ายในคลิป
ก่อนหน้านี้ นาวาตรีสุธรรม ระหงษ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว กรณีข้อร้องเรียนที่มีผู้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีเสนอชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีโดยไม่ผ่านกระบวนการตามข้อบังคับพรรค
‘เป็นเรื่องภายในพรรค ไม่ถึงขั้นต้องนำไปสู่การยุบพรรคตามที่มีการร้องเรียน ไม่มีมติ ไม่มีบันทึกประชุม ไม่มีการหารืออย่างเป็นทางการ แต่กลับมีชื่อปรากฏในโผรัฐมนตรีหลังโปรดเกล้าฯ ไปแล้ว ซึ่งสะท้อนว่า กระบวนการของพรรคไม่ชอบด้วยข้อบังคับ”
นาวาตรีสุธรรมเปิดเผยว่า ตนได้ทำหนังสือแสดงความเห็นแย้งต่อหัวหน้าพรรคแล้ว แม้ไม่มีความขัดแย้งส่วนตัวกับใครในพรรค แต่ต้องยืนยันหลักการตามกฎหมายและข้อบังคับโดยเฉพาะ พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่กำหนดให้พรรคต้องดำเนินกิจการด้วยความโปร่งใสและชอบด้วยข้อบังคับ
นาวาตรีสุธรรมยังตั้งข้อสังเกตต่อกรณีที่กรรมการบริหารพรรคและ สส. ได้จัดประชุมร่วมหลังการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรี เพื่อให้ “สัตยาบันย้อนหลัง” ต่อมติที่ไม่เคยเกิดขึ้นว่า อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่มีบัญญัติไว้ในข้อบังคับพรรค และตนเป็นเพียงคนเดียวในที่ประชุมที่ไม่เห็นชอบกับการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว