‘วิทัย รัตนากร’ผู้ว่าแห่งความหวัง เข้ามาแก้ปัญหาประเทศไทย

‘การเข้าสู่ตำแหน่งผู้ว่าฯแบงก์ชาติ จึงเป็นความหวังของสังคมไทยที่ต้องการเห็นธนาคารชาติ เป็นองค์กรที่จะเข้มาแก้ปัญหาให้กับคนไทย โดยเฉพาะช่องว่างของดอกเบี้ยเงินกู้และดอกเบี้ยเงินฝากต่างกันลิบลับ ผู้ว่าฯคนเก่าส่วนใหญ่เป็นเทคโนแครทที่มุ่งสร้างเสถียรภาพทางการเงิน จนไม่สนใจปัญหาด้านอื่น แต่วิทัย เคยอยู่ธนาคารออมสินเคยสัมผัสกับปัญหาของประชาชนผู้เป็นหนี้ ย่อมเข้าใจดีและหวังว่า จะแก้ปัญหาได้ตรงจุด’

วันนั้น ข่าวถูกส่งมารัวๆ มายังกองบรรณาธิการMtoday พร้อมเสียงตอกย้ำจากคนในไอแบงก์ ปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในไอแบงก์ ที่มีปฏิบัติการในเชิงรุกด้านการข่าว

วันนั้น วาระการพิจารณาแก้กฎหมายธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เพื่อปลดล็อคธนาคารให้สามารถเพิ่มทุนได้

ธนาคารอิสลามฯหรือไอแบงก์ อยู่ในภาวะวิกฤติ ประสบปัญหาขาดทุนมาเกือบ 10 ปี ตั้งแต่สมัยที่นักการเมืองเข้ามาปู้ยี้ปู้ยำธนาคาร บีบให้ปล่อยสินเชื่อให้แก่พรรคพวกและเครือข่ายของตัวเอง เพื่อประโยชน์ของตัวเองด้วยหลักทรัพย์ที่ต่ำกว่าเงินกู้มากกวว่า 10,000 ล้านบาท จนธนาคารประสบปัญหาขาดทุนยับเยิน (ย้ำว่า ธนาคารอิสลามขาดทุนเพราะนักการเมือง ไม่ใช่เพราะคนมุสลิมเบี้ยวนี้ ซึ่งก็มีแต่ไม่มาก) เวลานั้น บอกขายให้กับประเทศมุสลิมก็ไม่มีคนสนใจ การจะเพิ่มทุน ตัดหนี้เสียออกไป เป็นทางออกเดียว แต่จะต้องแก้กฎหมาย

วันนั้น คนที่เป็น รักษาการผู้จัดการธนาคารอิสลามฯคือ วิทัย รัตนากร  ที่ก้าวมาจากรองผู้อำนวยการธนาคารออมสินมาเป็น MD ไอแบงก์

ข่าวที่ถูกส่งมายังกองบก.Mtoday เข้าใจว่า เป็นข่าวที่ส่งไปยังสำนักข่าวอื่นๆด้วย เป็นกลยุทธ์หนึ่งเพอสรงกระแสกดดันไปยัง สนช. แม้ว่ากฎหมายที่ถูกเสนอโดยรัฐบาลจะต้องผ่านสภาฯอยู่แล้ว แต่การสร้างกระแสก้ได้ผลประโยชน์หลายด้าน นอกจากสร้างการรับรู้ของสนช. ยังสร้างการรับรู้ไปยังสังคมโดยรวม ให้เข้าใจปัญหาของธนาคารฯอย่างแท้จริง

กฎหมายผ่านสภา ธนาคารอิสลามฯ ที่อาจจะถูกยุบได้เดินหน้าต่อ ด้วยการเพิ่มทุน และการโยกหนี้เสียไปบริหารโดยบริษัทบริหารสินทรัพย์ ด้วยฝีมือของวิทัย รัตนากร ไอแบงก์จึงผ่านวันเวลาแห่งยากลำบากมาได้

แม้หนี้เสียถูกตัดออกไป แต่ธนาคารยังอยู่ในภาวะขาดทุน 3,410 ล้านบาทในปี 2559 และลดลงมาเหลือ 289 ล้านบาทในปี 2560 และกลับมาได้กำไรในปี 2561 จำนวน 671 ล้านบาท

หลังธนาคารฯกลับมาได้กำไร วินัย ไปเป็นเลขาธิการกบข. กลับธนาคารออมสิน เป็นผู้อำนวยการธนาคาร

ตอนเป็นเลขาธิการกบข. วิทัย บริหารจนกองทุนทะลุ 1 ล้านล้านบาท สินทรัพย์โต 18% ในเวลา 2 ปี รายได้จากการลงทุน 23,000 ล้านบาท และรายได้อยู่ในระดับ 1,200-1,400 บาท

ตอนเป็นผอ.ออมสิน มีลูกหนี้ 13 ล้านคนกู้เงินจากออมสิน เม็ดเงิน1.4 ล้านล้านบาท ช่วยลูกหนี้ 6.4 ล้านคนที่มีปัญหา  มีเงินสำรองรวม 130,000 ล้านบาท ส่งกำไรให้รัฐ 96,000 ล้านบาท ในเวลา 5 ปี

ก่อนหน้าทำงานเข้าทำงานที่ธนาคารออมสิน เป็น CEO สายการบินนกแอร์ นำนกแอร์เชข้าตลาดหลักทรัพย์ รายได้เติบโตจาก 4,191 ล้านเป็น 12,312 ล้านบาทในปี 2556 กำไรสูงสุด 1,066 ล้านบาท

เรียกว่า ไม่ว่า ทำงานองค?กรไหนก็ได้สร้างผลกำไรให้กับองค์กรนั้นทุกองค์กร เป็นผู้บริหารมือทองอย่างแท้จริง

วิทัย รัตนากร ถือเป็นนักบริหารด้านการเงินผู้มากประสบการณ์ มีความโดดเด่นในการทำธนาคารออมสินให้กลายเป็น “ธนาคารเพื่อสังคม” ด้วยภารกิจที่ชัดเจนและชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นการดูแลหนี้สินชุมชน ลดภาระดอกเบี้ย และสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก เขาได้รับรางวัลเชิงผลงานและเร่งผลักดันนโยบายการเงินเพื่อสาธารณะ ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ชัดเจนในการพัฒนาไทยด้วยมิติของความยั่งยืนและความเป็นธรรมในระบบเศรษฐกิจ

การเข้าสู่ตำแหน่งผู้ว่าฯแบงก์ชาติ จึงเป็นความหวังของสังคมไทยที่ต้องการเห็นธนาคารชาติ เป็นองค์กรที่จะเข้มาแก้ปัญหาให้กับคนไทย โดยเฉพาะช่องว่างของดอกเบี้ยเงินกู้และดอกเบี้ยเงินฝากต่างกันลิบลับ ผู้ว่าฯคนเก่าส่วนใหญ่เป็นเทคโนแครทที่มุ่งสร้างเสถียรภาพทางการเงิน จนไม่สนใจปัญหาด้านอื่น แต่วิทัย เคยอยู่ธนาคารออมสินเคยสัมผัสกับปัญหาของประชาชนผู้เป็นหนี้ ย่อมเข้าใจดีและหวังว่า จะแก้ปัญหาได้ตรงจุด

บทความโดย พรพญา

วิทัย รัตนากร

ประวัติ

วิทัย รัตนากร เป็นผู้บริหารสายการเงินชั้นแนวหน้าของไทย ปัจจุบันอายุ 54 ปี เตรียมเข้าดำรงตำแหน่ง “ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย” ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 ตามมติ ครม.

การศึกษา

ปริญญาตรี  เศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์

  • ป.โท เศรษฐศาสตร์การเมือง & กฎหมายธุรกิจ จุฬาฯ
  • ป.โท การเงิน Drexel University, สหรัฐอเมริกา

💼 ประวัติการทำงาน

  • 2563–ปัจจุบัน: ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน
  • 2561–2563: เลขาธิการ กบข.
  • 2560–2561: กรรมการและรักษาการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
  • 2558–2561: รองผู้อำนวยการออมสิน ด้านลงทุน & CFO
  • 2554–2557: CFO นกแอร์
  • 2553: รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซี.พี.

🎯 วิสัยทัศน์ “ธนาคารเพื่อสังคม (Social Bank)”

  • ปรับทิศทางออมสินเป็นธนาคารเพื่อสังคม เน้นทั้งภารกิจเชิงพาณิชย์และภารกิจสาธารณะ (CSV)
  • เปิดบริการ non‑bank เช่น สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ลดดอกเบี้ยจาก 28% เหลือ 16–18% ต่อปี
  • โครงการเด่น: “SMEs มีที่ มีเงิน” วงเงิน 10 000 ล้าน, AMC ช่วยลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้, สินเชื่อ ESG & Green Loan รวมกว่า 130 000 ล้าน

🏆 รางวัลและงานอาวุโส

  • นักการธนาคารแห่งปี (2563–2567), นักการเงินแห่งปี 2565, CEO of the Year 2566–2567
  • รางวัลผู้นำองค์กรเพื่อสังคม “Dailynews Top CEO 2024”
  • ดำรงตำแหน่งสำคัญหลายแห่ง เช่น นายกสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, ประธานสมาคมสถาบันการเงินรัฐ (ต่อวาระ 2568–2570) 🔮 ภารกิจในตำแหน่งผู้ว่าการ ธปท.
  • เตรียมผลักดันนโยบายการเงินควบคู่กับนโยบายสาธารณะ เช่น แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน, สนับสนุนโครงการเศรษฐกิจฐานราก และธนาคารดิจิทัล
  • ใช้สถาบันการเงินรัฐและ ธปท. เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเสถียรภาพระบบการเงินอย่างยั่งยืน

AI