จับแล้วพี่นักเรียนทำร้ายเพื่อนในห้องเรียน โรงเรียนระบุ ไม่มีประวัติเด็กมีโรคประจำตัว ถูกทำร้ายจนช็อค
แถลงการณ์โรงเรียนมุสลิมสันติธรรมมูลนิธิ เหตุการณ์นักเรียนถูกทำร้ายในโรงเรียน
.
ตามที่เป็นกระแสข่าวนักเรียนถูกทำร้ายร่างกายในโรงเรียนมุสลิมสันติธรรมมูลนิธิในวันที่ 11 พฤจิกายน พ.ศ.2568 เวลา โดยประมาณ 11.30 น.ได้แพร่สะพัดไปนั้น ทางโรงเรียนต้องขอแสดงความเสียใจที่เกิดเหตุสุดวิสัยในครั้งนี้ ซึ่งทางโรงเรียนได้ตรวจสอบและประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว ขอชี้แจง ดังนี้
.
1. นักเรียนชั้น ม.๒/๑ ได้ทำการหยอกล้อกันจนทำให้เพื่อนได้รับบาดเจ็บปากแตก และทางโรงเรียนได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้เรียบร้อยแล้ว
.
2.งานวินัยนักเรียนได้ดำเนินการไกล่เกลี่ยนักเรียนคู่กรณีเป็นการเรียบร้อยแล้ว นักเรียนได้ให้
อภัยกันแล้ว และทางงานวินัยได้ประสานให้ผู้ปกตรองของนักเรียนได้รับทราบแล้ว
.
3. หลังจากนั้นนักเรียนที่โดนกลั่นแกล้งได้โทรศัพท์แจ้งให้พี่ชายมารับกลับบ้าน ในขณะที่พี่ชาย
เข้ามารับนักเรียนยามที่รักษาความปลอดภัยได้สอบถามว่าเข้ามาธุระอะไร พี่ชายบอกว่าขอ
อนุญาตมารับน้องกลับบ้าน ประกอบกับก่อนหน้านี้พี่ชายคนนี้ได้นำน้องชายมาสอบแก้ตัวที่
โรงเรียนระยะหนึ่งแล้ว จึงไม่เป็นที่สงสัยของทางโรงเรียน
.
เมื่อพี่ชายเข้ามารับน้องโรงเรียนแล้ว จึงให้น้องไปขี้ตัวเพื่อนที่กลั่นแกล้งที่ห้องเรียน หลังจากนั้นพี่ชายได้ลงมือทำร้ายร่างกายนักเรียนตามข่าว
.
4.ในช่วงที่เกิดเหตุเป็นช่วงเวลาที่นักเรียนต้องทำการเปลี่ยนห้องเรียนจากห้องเรียนภาคศาสนา
ไปห้องเรียนภาคสามัญ จึงทำให้ไม่มีครูอยู่ในห้องเรียน
.
5. หลังเกิดเหตุการณ์มีผู้ใหญ่บ้านและหน่วยรักษาความปลอดภัยในชุมชนได้เข้ามาดูแลความ
เรียบร้อย และได้พูดคุยกับผู้ปกครองของนักเรียนที่ถูกทำร้ายและผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุ ได้
ความว่าพ่อซึ่งเป็นผู้ปกครองที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีสัญชาติเมียนมายังไม่ได้มอบอำนาจ
ให้พี่ชายมาดำเนินการ แต่พี่ชายได้เข้ามาก่อการอย่างอุกอาจในโรงเรียนโดยที่พ่อไม่รับทราบ ในขณะเดียวกันได้มีร้อยเวรเข้ามาบันทึกเหตุการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
.
6. ทางฝ่ายพี่ชายผู้ก่อเหตุได้ปล่อยข่าวว่าน้องชายโดนเพื่อนที่โรงเรียนกลั่นแกล้งเป็นประจำ
ประกอบกับน้องชายเป็นโรคประจำตัว คือโรคหอบหืด และโลหิตจางและเลือดน้อย และปล่อยข่าวว่าเคยโดนเพื่อนคนเดิมกลั่นแกล้งจนหมดสติ โดยที่ไม่ได้รับการดูแลจากทางโรงเรียน
.
ทางโรงเรียนได้ตรวจสอบเรื่องนี้ไปยังงานวินัยนักเรียนและงานพยาบาล งานวินัย
นักเรียนให้ข้อมูลว่าไม่เคยได้รับเรื่องว่า นักเรียนคนนี้ถูกกลั่นแกลังเป็นประจำ และจะหวันจังวังจังวังวังาาาา
ไม่เคยพบว่านักเรือนคนนี้มีโรคประจำตัว อีกทั้งผู้ปกครองยังไม่เคยแจ้งว่าลูกเป็นโรคประจำตัว
.
7. ตอนนี้ผู้ปกครองของนักเรียนที่ถูกทำร้ายร่างกายไปเจ้งความดำเนินคดีที่เป็นที่เรียบร้ยยแล้ว
และทางโรงเรียนได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุร้ายครั้งนี้ด้วย
ทางเรียนขอยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุในครั้งนี้อย่างถึงที่สุด
.
ในระหว่างที่ร่างแถลงการณ์นี้ทางโรงเรียนได้รับข่าวว่าตำรวจได้จับกุมผู้ร้ายที่ก่อเหตุอุกอาจ
ในครั้งนี้แล้ว ทางโรงเรียบขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับกุมผู้ร้ายได้อย่างรวดเร็ว
.
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้ ทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจความปลอดภัยของนักเรียนทางโรงเรียนขอชี้แจ้งว่าโรงเรียนมีมาตรการในรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเพื่อทำให้โรงเรียนต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัยของนักเรียนทุกคน โดยมีมาตรการ ดังนี้
.
๑. โรงเรียนมึนโยบายสันติวิธีไม่ใช้ความรุนแรงมาแก้ปัญหาในสถานศึกษา
๒. ทางเข้า-ออกของโรงเรียนมี ๒ ทาง คือประตูหน้าและประตูหลัง โรงเรียนเปิดใช้ประตูทั้ง ๒
ประตูเฉพาะเวลาเช้าและเวลาเย็น ส่วนในเวลาเรียนตั้งแต่ ๑๘.๐๐ น.- ๑๖.๐๐ น. โรงเรียน
ปิดประตูเข้าออกทั้งสองทาง และจะเปิดประตูหน้าให้ผู้มาติดต่อกับทางโรงเรียนโดยมี
เจ้าหน้าที่ยามรักษาความปลอดภัยคอยตรวจสอบตลอดระยะเวลาทำการ
๓. ทางโรงเรียนได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดในห้องเรียนเกือบทุกอาคารเรียน และปีการศึกษาหน้าจะ
ติดตั้งกล้อเวงจรปิดให้ครบทุกท้องเรียน นอกจากนั้นทางโรงเรียนได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเสี่ยงทั่วบริเวณโรงเรียน
๔. โรงเรียนมีรั้วกำแพงที่มั่นคงรอบโรงเรียน
ทางโรเรียนขอแจ้งว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้แล้วทางโรงเรียนขอน้อมทุกคำแนะนำมาปรับปรุงเพื่อสร้างความปลอดภัยให้นักเรียนให้มากยิ่งขึ้น และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ปกครองได้เชื่อมันว่า
ทางโรงเรียนจะดูแลบุตรหลานของท่านอย่างดี ดังนี้
.
๑. ทางโรงเรียนจะเยียวยาจิตใจของนักเรียนที่ได้รับผลกระทบทั้งสองคน ขณะนี้ทางผู้บริหาร
โรงเรียนได้ส่งตัวแทนไปเยี่ยมนักเรียนที่รับการรักษาตัวที่พยาบาล และให้กำลังใจผู้ปกครอง
เพื่อให้ผู้ปกครองสบายใจและเกิดความเชื่อมั่นต่อทางโรงเรียน ทางโรงเรียนจะแจ้งความเพื่อ
ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุในครั้งนี้อย่างถึงที่สุด โดยแจ้งความเอาผิดในข้อหา ดังนี้
๒.๑ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น (มาตรา ๒๙๕, ๒๙๗ และ๒๙๘)
มาตรา ๒๙๕ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โทษจำคุก ไม่เกิน ๒ ปี หรือปรับ ไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๒๙๗ ถ้าทำร้ายร่างกายจน “สาหัส” เช่น ศีรษะแตก, มีกระดูกหัก, หรือบาดแผลรุนแรง โทษจำคุก ตั้งแต่ ๖ เดือน ถึง ๑๐ ปี และปรับ ไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท ในกรณีนี้ใช้ปืนฟาดหัวและกระทืบช้ำ ถือเป็น “การทำร้ายร่างกายสาหัส” มีสิทธิเข้าข่ายมาตรา
๒๙๗
๒.๒ พกพาอาวุธไปในที่สาธารณะ (มาตรา ๓๗๑)
พกพาอาวุธ (โดยเฉพาะปืน) ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร โทษจำคุก ไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับ ไม่เกิน 10,000 บาพ หรือทั้งปรับ
๒.๓ ทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธ (มาตรา ๒๙๖)
ถ้าการทำร้ายร่างกายมี “อาวุธ” เช่น ป็นหรือของแข็ง ใช้เป็นเครื่องมือ โทษจำคุก
ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับ ไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ถ้า “สาหัส” ตามมาตรา๒๙๗ จะรับโทษเพิ่มตามนั้น (ไม่ใช่แยกนับ)
๒.๔ บุกรุกสถานศึกษา (มาตรา ๓๖๒ , ๓๖๔)
หากเข้าไปในโรงเรียนโดยไม่มีสิทธิ์ เพื่อทำร้ายร่างกายผู้อื่นโทษจำคุก ไม่เกิน ๑ ปี
หรือปรับ ไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.5ข่มขู่คุกคามหรือทำให้บุคคลอื่นตกใจกลัว
2.6 ความผิดเกี่ยวกับอาวุธ
2.7ทำร้ายเด็กต่ำกว่า 15 ปี เพิ่มโทษอีกเท่าตัว
.
ทางโรงเรียนขอขอบคุณศึกษาธิการจังหวัดที่ได้ติดตามและให้คำแนะนำ และทางโรงเรียนขอขอบคุณผู้ปกครองและประชาชนทุกท่านที่ส่งความปรารถนาดี กำลังใจและความห่วงใยมายังโรงเรียนอย่างมากมาย ทางโรงเรียนขอดุอาอ์ ให้อัลลอฮ์ประทานความรักและความเมตตาทุกท่าน
