สถาบันวะสะฏียะฮ์ฯ ผนึก กอ.กทม. และภาคีเครือข่าย เปิดตัว “ชุมชนต้นแบบพหุวัฒนธรรม ย่านวังเดิม-กะดีจีน” ชูโมเดลการอยู่ร่วมกันอย่างสันติบนความหลากหลาย
สถาบันวะสะฏียะฮ์เพื่อสันติภาพและการพัฒนา สำนักจุฬาราชมนตรี ร่วมกับ ฝ่ายส่งเสริมพหุวัฒนธรรมและศาสนสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร เดินหน้าขับเคลื่อนสังคมสันติสุข จัดโครงการสัมมนาและพิธีเปิดป้าย “ชุมชนต้นแบบพหุวัฒนธรรม ย่านวังเดิม-กะดีจีน” มุ่งเน้นสร้างความเข้าใจและอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมท้องถิ่น ท่ามกลางความหลากหลายทางเชื้อชาติและศาสนา ณ มัสยิดต้นสน เขตบางกอกใหญ่
โครงการดังกล่าวได้รับเกียรติจาก นายเกียรติ วิสุทธิ ผู้อำนวยการเขตบางกอกใหญ่ เป็นประธานในพิธีเปิด โดยมี ฮัจยีวิบูลย์ มุคตารี ที่ปรึกษามัสยิดต้นสนและกรรมการ กอ.กทม. กล่าวต้อนรับ และ ผศ.ดร.อับดุลเลาะ หนุ่มสุข ประธานโครงการฯ เป็นผู้กล่าวรายงานถึงเจตนารมณ์สำคัญในการยกระดับชุมชนย่านวังเดิมและกะดีจีน ให้เป็นพื้นที่ต้นแบบแห่งการเรียนรู้ด้านพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง
วัตถุประสงค์หลักของการจัดงาน คือการสร้างความตระหนักรู้ถึงคุณค่าของความแตกต่าง ทั้งทางศาสนา เชื้อชาติ และวัฒนธรรม เพื่อให้ชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติและยั่งยืน พร้อมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ฟื้นฟูมรดกทางวัฒนธรรม และสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม
ภายในงานมีผู้เข้าร่วมกว่า 100 คน ประกอบด้วยผู้นำศาสนา แกนนำชุมชน และประชาชนจากทั้งศาสนาพุทธ อิสลาม และคริสต์ กิจกรรมสำคัญประกอบด้วย:
การบรรยายพิเศษ: โดย พระธรรมวชิรเมธี เจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร พร้อมการกล่าวแสดงความยินดีจากผู้แทนศาสนาคริสต์และศาสนาซิกข์
การเล่าเกร็ดประวัติศาสตร์: โดย อิหม่ามศราวุธ ศรีวรรณยศ อิหม่ามประจำมัสยิดต้นสน
เวทีเสวนา “เรื่องเล่าภูมิหลังย่านวังเดิม-กะดีจีน”: โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ ผศ.ดร.พลับพลึง คงชนะ จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และ คุณปิ่นทอง วงษ์สกุล ประธานชุมชนกุฎีจีน ดำเนินรายการโดย คุณสรยุทธ ชื่นภักดี คอเต็บประจำมัสยิดต้นสน
ในช่วงท้าย อิหม่ามธนารัช วัชรพิสุทธิ์ กรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร และอนุกรรมการฝ่ายส่งเสริมพหุวัฒนธรรมฯ ได้กล่าวสรุปผลการสัมมนา ก่อนนำคณะผู้เข้าร่วมงานทำพิธีเปิดป้าย “ชุมชนต้นแบบพหุวัฒนธรรม” อย่างเป็นทางการ จำนวน 2 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 บริเวณย่านวังเดิม (ใกล้มัสยิดต้นสน) และ จุดที่ 2 บริเวณย่านกะดีจีน (ใกล้โบสถ์ซางตาครู้ส ริมแม่น้ำเจ้าพระยา) เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความสมานฉันท์
ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของภาคีเครือข่าย อาทิ สำนักงานเขตบางกอกใหญ่, สำนักงานเขตธนบุรี, กต.ตร.บางกอกใหญ่, ศาสนสถานสำคัญในพื้นที่ (วัดหงส์รัตนารามฯ, วัดประยุรวงศาวาสฯ, วัดบุปผาราม, วัดกัลยาณมิตรฯ, ศาลเจ้าเกียนอันเกง, มัสยิดบางหลวง, โบสถ์ซางตาครู้ส) และชุมชนต่างๆ ในย่านวังเดิมและกะดีจีน
