ว่าด้วยพฤติกรรมนายส. กรรมการองค์กรศาสนาคนดัง
ปัญหาขององค์กรอิสลาม มาจากการคนทีขาดจิตสำนึก ไม่การปฏิบัติหน้าที่ตามหลักศาสนา ขาดความรู้ด้านศาสนา และกระเหี้ยนกระหือรือที่จะมีอำนาจ ดังตัวอย่างนาย ส. กรรมการองค์กรศาสนาแห่งหนึ่ง
นายส. เป็นอดีตคนทำงานสนามม้านางเลิ้ง เคยลงสมัคร ส.อบต. 2 ครั้ง ชาวบ้านไม่ยอมรับ สุดท้าย จึงไปเข้าร่วมกับกาเฟร แข่งกับมุสลิม ตัวเองได้เป็น รองนายกฯ แต่ปากบอกว่า ทำงานเพื่อศาสนา
เมื่อครั้งยังมี อิหม่ามผู้กว้างขวาง นาย ส.เป็นกรรมการระดับจังหวัด อยากมีชื่ออยู่ในศูนย์กลาง จึงให้ไปพูดกับอิหม่ามให้อิหม่ามไปขอโควต้าจากผู้นำสูงสุด ตัวเองขอเป็นตัวแทนจากจังหวัด อิหม่ามผู้กว้างขวาง ผู้ไม่เคนให้ร้ายใคร พูดได้แค่คำว่า ฮึ!
จนเมื่ออิหม่ามผู้กว้างขวางเสียชีวิต นาย ส.จึงตีปีกพับๆ ฝังวันนี้ พรุ่งนี้ เรียกประชุมด่วน ให้กรรมการเลือกตัวเอง เข้าไปอยู่ส่วนกลาง
อาศัยเป็นคนพูดจาดี หว่านล้อมเก่ง ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่จึงหลงเชื่อ หรือผลประโยชน์ลงตัวก็ไม่รู้ จึงได้รับความเป็นดู พูดอะไรก็ฟัง แต่ก็มี ผู้ใหญ่บางคนที่รู้เช่นเห็นชาติ เมื่อถูกล็อบบี้ขอเข้าเป็นกรรมการในองค์กรการศึกษามุสลิมระดับประเทศ จึงได้ปฏิเสธ
“คนแบบนี้ ไม่รับมาให้มันฟอกตัวหรอก” เหตุผลของผู้ใหญ่ท่านนั้น
นายส. อาศัยที่เข้าหาผู้ใหญ่เก่ง ผู้ใหญ่ให้ท้าย จึงสามารถควบคุมจังหวัดได้หมด แม้ตำแหน่งไม่สูงสุด แต่ควบคุมได้หมด เพราะแบ่งปันผลประโยชน์ให้ทั่วถึง ในกลุ่มพรรคพวก 10 กว่าคน จัดสรรตำแหน่งไขว้ไปไขว้มา รับเบี้ยประชุม เบี้ยตรวจ กินพุงปลิ้น จึงไม่มีใครกล้าขัดขวาง แต่มีคนที่รักความเป็นธรรม รู้หลักการศาสนา คอยขัดขวาง คอยโต้แย้งในสิ่งที่ขัดต่อหลักการศาสนา กลับถูกเล่นงานหนัก
เชื่อหรือไม่ คนแบบนี่ยังมีผู้ใหญ่ คอยให้ท้าย ไม่รู้ว่า ผลประโยชน์ลงตัวหรืออะไร ถึงให้ท้ายคนที่บริหารโดยไม่ยึดหลักการศาสนา ยึดความเป็นพรรคเป็นพวก มากกว่าหลักการศาสนา คนที่ทุจริตโกงกิน!
นี่หละพฤติกรรมของคนทำงานศาสนา สมควรจะ เซ็ตซีโร่ หรือไม่!
