จับแล้ว 1 คนร้าย! กำลังนับร้อยบุกค้นโรงเรียนในปัตตานี เชื่อมโยงคนร้ายอีก 6 คน ปล้นเต้นท์รถนาทวี

949

วันที่ 20 ส.ค. 2560 เวลา 18:21 น.วันที่ 20 ส.ค.60 เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พร้อม เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมืองปัตตานี หลังได้รับข้อมูลจากการตรวจค้นบ้านเช่าของกลุ่มผู้ต้องสงสัยคดีปล้นรถพ่อค้าขายปลาในพื้นที่อ.ยะรัง จ.ปัตตานี แล้วนำรถไปก่อเหตุปล้นเต้นท์รถวังโต้ คาร์เซ็นเตอร์ อ.นาทวี จ.สงขลา คนร้ายได้รถกระบะไป จำนวน 6 คัน เหตุเกิดเมื่อ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งผลการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบบุคคลเป้าหมาย จึงเชิญตัวมาทำการซักถาม ทราบชื่อ นายมะ จากข้อมูลพบว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าอาจมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการวางแผนในการก่อเหตุครั้งนี้ อีกทั้งยังมีความเชื่อมโยงกับ นายนูร์ฮาซัน อาแว อายุ 23 ปี หนึ่งในคนร้ายที่ปล้นรถเต้นท์ใน อ.นาทวีและถูกวิสามัญในวันเกิดเหตุ โดยหลักฐานหลายอย่างในตัวผู้เสียชีวิต ยังนำไปสู่การเชื่อมโยงถึงบุคคลหลายกลุ่ม ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามอยู่ในขณะนี้ประมาณ 6 คน ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นที่บ้านของทั้ง 6 คนแล้วแต่ไม่พบตัว จึงฝากญาติช่วยเป็นผู้ประสานติดต่อให้มาแสดงตัว เพื่อความบริสุทธิ์ใจ หากพ้นกำหนดเวลาจะถือว่ามีเจตนาหลบเลี่ยงและจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

สำหรับการติดตามและเชิญตัว นายมะ หนึ่งในผู้ต้องสงสัยครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน ได้เข้าตรวจสอบที่พักอาศัยของนายนูร์ฮาซัน คนร้ายที่ถูกวิสามัญ ซึ่งเป็นบ้านเช้า โดยสามารถตรวจยึดหลักฐานเอกสารบางอย่างที่มีความเชื่อมโยง นำไปสู่การติดตามตัวนายมะ มาให้ข้อมูลซักถามขยายผล โดยขั้นต้นนายมะยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มีความสนิทสนม หรือรู้จักมักคุ้นกับผู้เสียชีวิต เพียงแต่พูดคุยกันเวลาไปเล่นฟุตบอลที่สนามเท่านั้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังคงไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากคำถามหลายอย่างนั้น นายมะให้ข้อมูลที่ไม่สอดคล้องกันกับหลักฐานที่สามารถยึดมาได้ โดยเฉพาะการติดต่อทางโทรศัพท์มือถือนั้น ตรวจสอบแล้วพบว่ามีการใช้ติดต่อสื่อสารกันมานานและบ่อยครั้ง

ด้าน พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี เปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้ถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์และยังไม่ได้ควบคุมตัวหรือจับกุม อีกทั้งผู้ต้องสงสัยยังคงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่เนื่องจากข้อมูลจากหลักฐานที่มีความเชื่อมโยงนั้น เจ้าหน้าที่จึงต้องทำการสอบปากอย่างละเอียดและได้ใช้กฎอัยการศึกเชิญตัวเข้าไปยังหน่วยซักถาม ค่ายอิงคยุทธบริหารปัตตานี ส่วนกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุปล้นรถทั้งของพ่อค้าขายปลา ที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี และปล้นรถจากเต้นท์ใน อ.นาทวี จ.สงขลา นั้นยอมรับว่ารู้ตัวแล้วหลายคนซึ่งหลายคนนั้นมีในข้อมูลระบบคดีความมั่นคงและมีหมายจับติดตัวหลายคดี ซึ่งการติดตามจับกุมขณะนี้ชุดปฏิบัติการณ์ร่วมยังคงเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อกดดันให้กลุ่มคนร้ายไม่สามารถรวมตัวหรือออกมาก่อเหตุได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งเป็นแหล่งประกอบระเบิดเราจะต้องเข้าไปทลายและจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องให้เร็วที่สุดเพราะเชื่อว่าแผนการของกลุ่มคนร้ายน่าจะมีการก่อเหตุอีก ฉะนั้นการปฏิบัติการณ์ยังคงเข้มข้นต่อไป