ถกเครียด! 2 ปมใหญ่ กรณีคัดเลือก กอจ. กทม.
เมื่อวันจันทร์ ที่ 29 ต.ค.2560 คณะทำงานประชุมเตรียมจัดงานเสวนา บทบาท กอจ. ความคาดหวังในการพัฒนาสังคมมุสลิม ซึ่งจะจัดขึ้นก่อนวันคัดเลือก กรรมการอิสลามประจำจังหวัด(กอจ.) และ กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย(กอท.) ทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่ากรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จะกำหนดให้มีการคัดสรรในวันที่ 27 พ.ย.2560 ตามรายงานล่าสุด
โดยในคณะทำงานครั้งนี้ ประกอบไปด้วย นักกฏหมาย อดีต ส.ส. สื่อมวลชน นักธุรกิจ นักกิจกรรม และผู้ทรงคุณวุฒิ ได้เข้าร่วมปรึกษาหารืออย่างพร้อมเพรียงกันเกือบ 30 ท่าน วัตถุประสงค์เพื่อ กำหนดการจัดงานเสวนา สถานที่ กลุ่มเป้าหมาย และ ตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์ ของการจัดเสวนา ซึ่งจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้ที่ประชุมก็ได้เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความคาดหวังของสังคมในการได้มาซึ่งตัวแทนของสังคมมุสลิม ดังเช่น กรรมการมัสยิด อีหม่าม กอจ และ กอท.
สรุปในภาพรวมว่า มุสลิมทุกคนอย่าสิ้นหวังกับปัญหาความไม่ถูกใจกรณีบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งดังกล่าว “ที่ไม่มีคนดี ที่ถูกใจ แต่เราจะทำอย่างไร ให้คนที่เลวน้อยที่สุด มีความเหมาะสมมากที่สุดได้เข้ามานั่งในตำแหน่งดังกล่าวนี้”
ปัญหาที่ถูกหยิบยกมาในที่ประชุม หนึ่งในนั้น คือ
– กรณี กอจ กทม. มีการประกาศตัวแทนที่เข้าสู่กระบวนการคัดเลือก แต่ปรากฏว่า มีบุคคลจำนวนหนึ่งที่ถูกชูให้มีรายชื่อทั้ง 2 ฝ่าย
ที่ประชุมแจงว่า “ถือเป็นการไม่เหมาะสม ที่บุคคลดังกล่าวนี้มีชื่อทั้ง 2 ฝ่าย” โดยเฉพาะคาดว่าอยู่ในตำแหน่งระดับสูง หากได้รับการคัดเลือก
ทั้งนี้เห็นว่า เป็นแบบอย่างที่ไม่สง่างาม หากจะวางตัวเป็นกลาง ก็สมควรที่จะแจ้งทั้งสองฝ่าย ให้เอาชื่อออกจากโปสเตอร์ เพื่อความยุติธรรม และเป็นการสร้างแบบอย่างอันดีต่อไป มิใช่แสดงตัว “เจ้ามือ กินรวบนั้นเอง
และอยากให้ดำเนินการมีหนังสือออกสู่สาธารณะว่า “ประสงค์จะเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่หรือสังกัดทีมใดๆทั้งสิ้น” อีกทั้งจะไม่ตกเป็นเครื่องมือและคำนินทาจากสังคมอีกด้วย
– กรณีถูกนำรูปภาพไปใช้กับฝ่ายตรงข้าม
มี 2-3 ท่านที่ปรากฏรูป ไม่ตรงกับความตั้งใจของว่าที่ผู้ถูกเสนอชื่อ ซึ่งความเป็นจริงคือ มีใจให้กับอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายกลับนำรูปภาพไปออกสื่อ สร้างความลำบากใจอย่างยิ่ง ทั้งนี้ เพราะเกรงใจ กรณีดังกล่าวที่ประชุมแจ้งว่า เป็นปัญหาที่แก้ยากก็จริง แต่สามารถแก้ไขได้โดยการพูดคุย เจรจาความ
การคัดเลือก กอจ. ที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้กำลังเป็นที่จับตามองของสังคมมุสลิม ทุกฝ่ายอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง “อยากให้คนดี มีศาสนา มีความสามารถได้เข้ามามีบทบาทกำกับดูแลกิจกรรมต่างๆขององค์กรศาสนา” แต่ว่า ประชาชนทั่วไปไม่มีสิทธิ์เลือก ผู้ที่สามารถเลือกคือโต๊ะอีหม่ามทั่วประเทศกว่า 3,500คน เท่านั้น
ทั้งนี้ปัจจุบันองค์กรศาสนาจะมีผู้บริหารที่มีองค์ความรู้เฉพาะศาสนาเท่านั้น มิได้แล้ว จำเป็นต้องมีความรู้ในด้านอื่นๆ ผสมผสานอีกด้วย
โดย กอจ จังหวัดที่ถูกสังคมจับตามองเป็นพิเศษ ประกอบด้วย กรุงเทพฯ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ปทุมธานี นครศรีธรรมราช และนราธิวาส คาดว่าจะมีความเข้มข้นสูงกว่าจังหวัดอื่นๆ
Cr- มุสลิมไทยโพสต์
