เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่48/2560 ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ย้าย นายวรานนท์ ปีติวรรณ พ้นจากตําแหน่ง อธิบดีกรมการจัดหางาน และให้ ดํารงตําแหน่ง รองปลัดกระทรวงแรงงาน และให้นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ พ้นจากตําแหน่ง รองปลัดกระทรวงแรงงาน และให้ดํารงตําแหน่ง อธิบดีกรมการจัดหางาน ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวได้ให้เหตุผลอันจะเป็นประโยชน์ในการบริหารราชการกระทรวงแรงงาน และการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อให้มีประสิทธิภาพและความเหมาะสมยิ่งขึ้นโดยมีผลตั้งแต่วันที่1 พ.ย.60 เป็นต้นไป อธิบดีมึนไม่รู้โดนเด้งเพราะอะไร ทางด้าน นายวรานนท์ ปีติวรรณ อดีตอธิบดีกรมการจัดหางานให้สัมภาษณ์ว่าไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงว่าถูกย้ายเพราะสาเหตุใด แต่เข้าใจว่าผู้บังคับบัญชาคงเห็นว่าเหนื่อยจากการทำงาน เกรงว่า จะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ จึงอยากให้พักและไปทำงานดูภาพรวมในตำแหน่งรองปลัดมากกว่า ยืนยัน8เดือนที่ผ่านทำงานเข้าเป้า
ทั้งนี้ ยืนยันว่า การทำงานช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวไม่ล่าช้าเหมือนที่คนวิพากษ์วิจารณ์ แรงงานเมียนมาตัวเลขดำเนินการเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ยอดใบจับคู่ 4 แสนคนดำเนินการไปแล้ว 1.6 แสนคน จึงมั่นใจว่า ยอดที่เหลือจะเสร็จทันเวลาใน 2 เดือน ที่จะครบกำหนด ชะลอโทษ 180 วัน ส่วนแรงงานกัมพูชา ยอดการพิสูจน์สัญชาติเริ่มกระเตื้องขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมวันละไม่เกิน 200 คน ขยับเป็นวันละ 1,400 คน จะเห็นได้ว่าการทำงานกับประเทศเพื่อนบ้านได้รับความร่วมมือ ส่วนบางเรื่องที่อาจล่าช้าเป็นปัญหาของประเทศต้นทาง ไม่ใช่ของไทย ถามทำงานหนักทุกวันยังโดนม.44อีกเหรอ
“คำสั่งมีผลทันทีผมรู้สึกเฉยๆ กับการโยกย้าย มีแต่สื่อที่ตกใจ เป็นเรื่องปกติของราชการ และผมคงไม่ต้องฝากอธิบดีคนใหม่สานต่องานอะไรเป็นพิเศษ เพราะ รมว.แรงงาน เน้นการทำงานเป็นทีมเดียวกันมีเป้าหมายชัดเจน จากนี้ไป ผมคงจะได้พักบ้างเพราะการทำงานในตำแหน่งอธิบดี กกจ. เป็นงานหนัก ทุกวันนี้ต้องกินยาเป็นกำๆไม่ให้ความดันโลหิตสูงกำเริบ นายจึงอาจอยากให้พักผ่อน เพราะเรื่องอื่นผมไม่มีปัญหาอะไรไม่มีเรื่องใต้โต๊ะ ผมตรงไปตรงมาทำงานเหยียบคันเร่งไม่มีปล่อย คุณก็รู้ว่าผมทำงานยังไงจริงๆเรื่องนี้ ผมก็รู้มาบ้าง แต่มันต้องด่วนขนาดใช้ ม.44 เลยหรือ” นายวรานนท์ กล่าว
เวลา 15.30 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ได้เรียก พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้าโดยหารือประมาณ 15 นาที จากนั้นมีรายงานว่า พล.อ.ศิริชัยได้ยื่นหนังสือลาออกกับพล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกฯ ขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนการดำเนินงานด้านเอกสารเพื่อนำเรียนนายกฯอย่างเป็นทางการอีกครั้งแฉปมแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวเหลวข่าวแจ้งว่า เหตุที่มีการลาออกในครั้งเพราะนโยบายการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวเป็นนโยบายแรกที่คสช.ประกาศไว้ว่าจะแก้ไขแต่เวลาผ่านมา 3 ปี งานยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควรในขณะที่นายกฯ ได้ตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวถึงกระแสข่าว รมว.แรงงาน ยื่นใบลาออกซึ่งนายกฯตอบสั้นๆว่าไม่เห็น เมื่อถามต่อว่าถึงเวลาตัดสินใจปรับ ครม.แล้วหรือยัง นายกฯตอบว่ายังไม่มีอะไร
ด้าน พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมในฐานะโฆษกประจำพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหมระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี น่าจะได้หนังสือลาออกของ พล.อ.ศริริชัยแล้วเพราะเป็นผู้กำกับดูแลงานกระทรวงแรงงาน บิ๊กฉัตรพบนายกฯโดยไม่นัดล่วงหน้าต่อมา เวลา17.10 น. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เดินทางเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ ที่ห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลโดยไม่มีกำหนดล่วงหน้าซึ่งใช้เวลาหารือเพียง18 นาที ก่อนที่นายกฯ จะเดินทางกลับออกจากทำเนียบรัฐบาล ในเวลา17.28 น.ส่วน พล.อ.ฉัตรชัย ยังคงหารือต่อกับ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี คาดคุยเรื่องไปเมืองคอน-ปรับครม.โดย พล.อ.ฉัตรชัย หารือกับเลขาธิการนายกฯประมาณ 10 นาที จึงเดินทางกลับออกไปในเวลา 17.35 น.โดยไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใดทั้
งนี้ คาดว่าเป็นการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วม และการเตรียมการลงพื้นที่ภาคใต้ในวันที่ 3 พ.ย.นี้ โดยนายกฯ มีกำหนดเดินทางลงพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช ขณะที่เดียวกันก็เชื่อว่า มีการหารือเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ด้วย
ต่อมา พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน เดินทางกลับมาที่กระทรวงแรงงาน พร้อมกับหารือทีมข้าราชการการเมือง ประกอบด้วย พล.อ.เจริญ นพสุวรรณ ผู้ช่วย รมว.แรงงาน นายอารักษ์ พรหมณี ที่ปรึกษา รมว.แรงงาน พล.ท.ธนิต พิพิธวนิชการ เลขานุการ รมว.แรงงานโดยทั้งหมดได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง เก็บข้าวของ-ใบลาออกปลิวว่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นพล.อ.ศิริชัย และ พล.อ.เจริญ รวม 4 คน ได้สั่งให้ทีมงานเข้ามาขนของใช้ส่วนตัว ลงจากห้องทำงานชั้น 6 มาขึ้นรถตู้ จากการสอบถามทีมงานบอกว่าเข้ามาเก็บของให้ พล.อ.ศิริชัย และ พล.อ.เจริญ นอกจากนี้ ได้มีหนังสือลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ของ พล.อ.เจริญ ออกมาปลิวว่อนในกระทรวงแรงงานอีกด้วย
ทั้งนี้ พล.อ.เจริญ ถือว่า เป็นมือขวาของ พล.อ.ศิริชัยและเป็นเพื่อนนายทหารที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่ครองยศร้อยเอก เข้ามาเป็นผู้ช่วย รมว.แรงงาน เป็นระยะเวลา 2 ปี 2 เดือน
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การลาออกของพล.อ.ศิริชัยครั้งนี้ทำให้มีแนวโน้มว่าจะมีการปรับ รม.ใหญ่”ประยุทธ์5″ 6-7 ตำแหน่งและมีกระแสว่าจะปรับภายในกลางเดือน พ.ย.หรืออย่างช้าไม่เกินต้นเดือนม.ค.ปี 61โดยกระทรวงที่คาดว่าจะถูกปรับน่าจะเป็นกระทรวงที่ถูกกระแสสังคมโจมตีอย่างหนักรวมถึงรัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งมาแล้วสองปีกว่าแต่การทำงานยังไม่เต็มที่ตามแผนการปฎิรูปประเทศ ปรับทัพตั้งพล.อ.รับมือเลือกตั้งปีหน้านอกจากนี้ยังเป็นการถือโอกาสปรับใหญ่เพื่อรับมือโหมดการเลือกตั้งในปีหน้าหลังจากมีการปลดล็อกพรรคการเมืองแล้ว หากไม่มีปรับเปลี่ยนก่อน รัฐบาล คสช.จะกลายเป็นเป้าให้ฝ่ายการเมืองเล่นงานหนักขึ้นจึงต้องปรับทัพใหม่ขับเคลื่อนงานให้รวดเร็วขึ้นโดยเฉพาะกระทรวงที่ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน เช่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรฯกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทยรวมทั้ง รมต.ประจำสำนักนายกฯส่วนผู้ที่จะมาแทนเป็นนายทหารระดับพล.อ.ที่เกษียณราชการ เกษตรฯ-รมช.มหาดไทยเสียวสันหลัง”โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรฯ ถูกโจมตีหนักเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ในนโยบายผันน้ำเข้าทุ่งเจ้าพระยา จากสถานการณ์น้ำเทียบปี 54 ใกล้เคียงกัน แต่ประชาชนที่อยู่ทุ่งบางบาลได้รับความเดือดร้อนมากกว่าปี 54 ที่ท่วมเพียงสองเดือน แต่ในปีนี้น้ำท่วมยาวกว่าปี 54 ท่วมนานถึง 5 เดือน จากเดือนก.ค.ถึงปัจจุบัน ส่วนกระทรวงมหาดไทยที่อาจจะโดนปรับคือรมช.มหาดไทยคงไม่ปลด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เพราะเป็นพี่ที่นายกรัฐมนตรี นับถือมากทำการปฎิวัติมาด้วยกัน” แหล่งข่าวระบุ
