เมื่อร.พ.ปัตตานี ถูกเรียกโรงฆ่าสัตว์ รักษาคนไข้จนตาย จนอาการหนักเพิ่ม

289
Tavan Benjapuwadol ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ หากข้อความนี้ สร้างความไม่ชอบใจใครบ้าง

โรงพยาบาลแห่งรัฐบาล ร.พ.ปัตตานี
คุณภาพชีวิตคนอย่างตาสีตาสา ดอเลาะสาและ ได้แค่นี้หรือ จนต้องหนีไป ร.พ. เอกชน ยอมเสียเงินสองแสนห้า เพื่อรักษาชีวิตเพราะหมอ ร.พ. เอกชนบอกว่าโชคดีที่เชื้อยังไม่แพร่กระจายจุดสำคัญ แต่ไปในสภาพที่คนป่วยขาดเลือด ระบบข้างในที่ รพ.รัฐ ล้วง คนสายยางยังกะคนกาแฟเย็น ระบบจนอักเสบ ไม่อยากบอกว่าเกือบแตก เพราะมองไม่เห็น

“ เรื่องมีอยุ่ว่า น้องชายขับมอเตอร์ไซต์ล้ม เข้าไป ร.พ.ปัตตานี ได้เจอแค่หมอเวร เอกซเรย์ กระดูกขา เท้า ไม่แตก ไม่หัก แต่มีแผลจากการลื่นล้มมอไซต์ หมอสั่งเข้าเฝือก กลับมาอยู่บ้าน คนป่วย เจ็บระบม บวม ไปหาหมอ เอาเฝือกออก จากแผลที่เป็นรอยล้ม กลายเป้นแผลเน่า มีหนอง ระบม จนหมอต้องผ่าตัด ในภาพคือแผลที่จากผ่าตัด แต่คนไข้ยังเจ็บ พยาบาลพูดจาไม่เพราะ คนไข้บอกว่าเจ็บ หายใจไม่ออก หมอ บอก ข้างในท้องต้องมีอะไรแน่ ให้พยาบาล ส่องกล้อง ล้วง คนสายยางยังกะชวกกาแฟ คนป่วยถึงกับช็อค”

การดูแลจากพยาบาล 3,000 คน ของกระทรวงสาธารณสุข ส่งให้เรียนฟรี คงไม่พูดอะไรมากทั้งทักษะวิชาชีพ จรรยาบรรณ ดูจากภาพน่าจะเดาออก

สุดท้ายญาติๆ เมียคนป่วยเห็นความทุกข์ทรมานคนป่วยไม่ได้ ยอมเสียเงินเพื่อรักษาชีวิตคนป่วย ไปรักษาที่ ร.พ. เอกชน ใน อ. หาดใหญ่ วินาทีแรกที่หมอได้เห็นแผล ถามว่ามาจาก ร,พ. ไหน. ทำไมถึงปล่อยเป็นแบบนี้ สิ่งที่น่ากลัวคือ ถ้ามาช้า เชื้อลามไปสู่ระบบสำคัญ โชคดีที่ยังไม่ต้องตัดขา หมอยังบอกอีกว่า ที่คนป่วยช็อคเนื่องจากคนป่วยขาดเลือด (และอะไรสักอย่างจำไม่ได้) คนป่วยอยู่รักษาที่ ร.พ. เอกชนแห่งนั้น เกือบ 10 วัน ผ่าตัด รักษาแผล จนแผลดีวันดีคืน ไม่มีเชื้อ หายใจได้ต่อไป ในค่าใช้ 250,000 บาท ไม่ใช่ว่ามีเงินมากมายหรอก แต่เพราะจะรักษาชีวิตตัวเองจากที่เค้าเรียก ร.พ. ปัตตานีว่า โรงฆ่าสัตว์ จนตอนนี้ กลับมาพักรักษาตัวรักษาแผล ในภาพแผลสีแดงคือแผลจากการรักษา รพ เอกชน ที่รอรับการเอาเนื้อส่วนอื่นมาปะติดศัลยกรรม”

“ที่ออกมาสาธยายดิฉันเจอแบบนี้กับคนใกล้ชิด 2 คน อีกคนเสียขีวิตแล้ว อันเนื่องจากการวินิจฉัย หรือไม่ต้องขออภัย เพราะฉีดน้ำเกลื แขนที่ฉีดเหมือนไหม้ พอง เป็นหนอง คงไม่ต้องพูดถึงเค้าเสียชีวิตอาจจะมาจากรักษาที่นี้ ทำให้มีโรคแทรกซ้อนขึ้นมา เค้าเสียชีวิตคนตายย่อมพูดอะไรไม่ได้ จนมาเจอกับน้องชาย และคิดว่าคงมีนาย/นางตาสีตาสา หรือนาย/นางดอเลาะสาและเจอแบบเดียวกันที่ ร.พ. ปัตตานี”

คงไม่ได้ลุกมาเรียกร้อง หรือฟ้องร้องอะไร ถึงแม้ว่า กม. มีก็ตาม แต่คำว่า กม. มันดิ้นได้ เป็นอุทาหรณ์ ให้คิดว่า ระบบสวัสดิการขั้นพื้นฐานของประชาชน ยังด้อยพัฒนา คงไม่ใช่ความรู้ความสามารถ หรืออุปกรณ์เครื่องแพทย์ทันสมัยหรอก

“หากแต่เป็น ขาดจรรยาบรรณในวิชาชีพ เห็นอำนาจเงินมีค่ามากกว่าชีวิตคน”