75 ชั่วโมง ยังไร้ไม่รู้ชะตากรรม 13 ชีวิตในถ้ำหลวง

132

เด็กทีมฟุตบอลหมูป่า อคาเดมี่ อายุ 11-16 ปี และผู้ฝึกสอนอายุ 25 ปี รวม 13 ชีวิต
ประกอบด้วย 1. นายเอกพล จันทร์วงค์ อายุ 25 ปี (โค้ชทีมฟุตบอล)
2. ด.ช.อดุลย์ สามออน อายุ 14 ปี ร.ร.เวียงพาน
3. ด.ช.ประจักษ์ สุธรรม อายุ 14 ปี ร.ร.แม่สายประสิทธิ์ศาสตร์
4. ด.ช.ณัฐวุฒิ ทาคำทรง อายุ 14 ปี ร.ร.แม่สายประสิทธิ์ศาสตร์
5. ด.ช.พิพัฒน์ โพธิ อายุ 15 ปี ร.ร.บ้านสันทราย
6. ด.ช.ภาณุมาศ แสงดี อายุ 13 ปี ร.ร.แม่สายประสิทธิ์ศาสตร์
7. ด.ช.ดวงเพชร พรมเทพ อายุ 13 ปี ร.ร.แม่สายประสิทธิ์ศาสตร์
8. ด.ช.ชนินทร์ วิบูลย์รุ่งเรือง อายุ 11 ปี ร.ร.อนุบาลแม่สาย
9. ด.ช.เอกรัตน์ วงค์สุขจันทร์ อายุ 14 ปี ร.ร.ดรุณราษฎร์วิทยา
10. ด.ช.สมพงศ์ ใจวงศ์ อายุ 13 ปี ร.ร.แม่สายประสิทธิ์ศาสตร์
11. นายพีรภัทร สมเพียงใจ อายุ 16 ปี ร.ร.แม่สายประสิทธิ์ศาสตร์
12. นายพรชัย คำหลวง อายุ 16 ปี ร.ร.บ้านป่ายาง
13. ด.ช.มงคล บุญเปี่ยม ร.ร.ป่าเหมือด

ได้เข้าไปในถ้ำหลวง เขาน้ำนางนอน เมื่อเย็นวันเสาร์ หลังจากนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่วนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง เขาน้ำนางนอน ได้พบเห็บจักรยาน และรองเท้าหน้าปากถ้ำ จึงได้ตรวจสอบพบว่า เป็นเด็กหมูป่า ได้เข้าไปในถ้ำ

ตลอดทั้งวันอาทิตย์ที่ 24 มิ.ย. หน่วยกู้ภัยพยายามหาทางเข้าไปช่วยเหลือเด็กและผู้ฝึกสอนในติดอยู่ภายในถ้ำ แต่สภาพถ้ำไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากปากถ้ำมีน้ำขัง และมีบางช่วงปริมาณน้ำถึงเพดานถ้ำ คาดว่า บรรดาเด็กจะติดอยู่ในห้องโถงใหญ่ของถ้ำที่อยู่ไกลออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร ในขณะที่พื้นที่ท้ายถ้ำอยู่ไกลออกไปประมาณ 7 กิโลเมตร

ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน นักธรณีวิทยาได้จัดลำดับให้ถ้ำหลวงเป็นถ้ำที่ยาวเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย ด้วยความยาวทั้งหมด 10,316 เมตร ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยนางนอน ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ภายในมีความสลับซับซ้อน มีเส้นทางเดินประมาณ 7 กิโลเมตร โดยมีความลุ่มต่ำที่แตกต่างกัน

สภาพภายในถ้ำ ในมีความสูงต่ำไม่เท่ากัน มีบางจุดต่ำจนน้ำท่วมเพดานถ้ำ

จากภาพวาดของผู้เชี่ยวชาญและกราฟฟิกด้านล่าง จะเห็นว่า บริเวณด้านหน้าถ้ำ จะมีความลุ่มต่ำสูงกว่าพื้นที่ภายใน เมื่อเด็กเข้าไปขณะที่น้ำไหลเข้ามาท่วมบริเวณภายในถ้ำ เด็กจึงไม่สามารถเดินย้อนออกมาได้ ต้องเดินฝ่าความมืดและความตะปุ่มตะป่ำของหินไปเรื่อยๆ เพื่อไปออกด้านหลัง เด็กไม่รอคนมาช่วย แต่ได้เดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ และบางช่วงอาจมีการอุดตัน

การช่วยเหลือในวันอาทิตย์ จึงไม่เป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่ จีงได้รองขอความช่วยเหลือจากหน่วยซีล หรือ ชุดปฏิบัติการพิเศษดำน้ำกู้ภัย หรือหน่วยซีล จากหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ มาช่วยเหลือเด็ก 13 คน เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 25 มิ.ย. หน่วยซีลได้เดินทางถึงที่เกิดเหตุ โดยได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ๆเกี่ยวข้อง จนเวลา 05.45 น. หน่วยซีลได้ขนอุปกรณ์ช่วยเหลือเข้าไปภายในถ้ำ แต่ยังมีอุปสรรคที่มีระดับน้ำสูง โดยหน่วยซีลได้แบ่งออกเป็น 4 ทีม แยกย้ายกันค้นหา มีนายภาสกร บุญลักษม์ รองผู้ว่าราชการจ.เชียงราย เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์

เพจ ThainavySEAL รายงานเวลา เวลา 09.19 น. ชุดช่วยเหลือเจาะทางลอดที่อุดตันได้สำเร็จและมุดลอดผ่านข้ามไปอีกฝั่งได้ แต่ยังไม่พบกลุ่มเด็กๆ จึงลอดกลับมาเพื่อรับเสบียง

เวลา 09.49 น. เสบียงไปถึงจุดดำน้ำ ชุดช่วยเหลือ 4 นาย ดำน้ำลอดข้ามไปอีกฝั่ง พร้อมกับเสบียงอาหาร เพื่อค้นหา และ ช่วยเหลือ กลุ่มเด็ก โดยจากจุดดำน้ำ มีทางเดินยาวประมาณ 7 กม. จนถึงทางตัน แต่จากจุดดำน้ำที่ลอดข้ามไปอีกฝั่ง จะมีจุดห้องโถงกว้าง ห่างจากจุดดำ ประมาณ 1 กม. คาดว่า กลุ่มเด็กๆน่าจะพักแถวนั้น

เวลา 10.30 น. หน่วยซีล ดำน้ำเข้าในถ้ำหลวง ตามผนังถ้ำมุมแยกแรกแต่ยังไม่พบบรรดาเยาวชนจึงดำน้ำถอยออกมาวางแผน แล้วลุยใหม่หาในผนังถ้ำมุมแยกใหม่ต่อไป ขณะที่ด้านนอกถ้ำเจ้าหน้าที่ได้เสริมกำลังสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกำลังพลด้านในตลอดเวลา

เวลา 10.45 น. มีรายงานว่า หน่วยซีลเจอร่องรอยของเด็กภายในโถงกลางของถ้ำแล้ว แต่ยังไม่พบตัว หลังเจาะอุโมงค์ทรายเข้าไปได้ พร้อมนำสเบียงเพื่อช่วยชีวิต

พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ ( SEAL) กล่าวว่า เมื่อเวลา 13.00 น. ว่า เด็กทิ้งร่องรอยเป็นสัญลักษณ์ ระหว่างทางแต่ยังไม่เจอตัวเด็ก ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยซีล ที่เข้าไป กำลังสำรวจพื้นที่ วางเชือก วางแท่นเรืองแสงทีละจุดเข้าไปข้างในตามรอยสัญลักษณ์ที่ทิ้งไว้ จากจุดที่ดำน้ำผ่านเข้าไปห้องโถงใหญ่ ไปได้แล้วประมาณ 1 กิโลเมตร จากระยะรวมประมาณ 7 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม เส้นทางเดินเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะมีหินงอก หินย้อยตลอด

เวลา 13.30 น. หน่วยซีล ของกองทัพเรือได้แพร่ภาพ ชุดนักดำน้ำ ดำน้ำลงไปลึก 5 เมตร พบทางลอดเข้าถึงห้องโถงใหญ่หลังม่านน้ำ เดินสำรวจภายในบริเวณนั้น ที่มีความลึก 7 เมตร พบร่องรอยเด็กๆ แต่ยังไม่พบตัว

เวลา 14.20 น. ผบ.หน่วยซีล เปิดเผยว่า ชุดปฏิบัติการสามารถเจาะดินโคลนที่ปิดทางเข้าถ้ำ และเข้าไปได้ พบข้างในมืดสนิท ใช้เดมไลท์วางเป็นระยะเพื่อให้แสงสว่าง และใช้เชือกผูกต่อระยะค้นหาเข้าไป สำหรับอากาศสามารถหายใจได้ปกติ

เวลา 15: 50 น เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า บริเวณเหนือถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน มีปล่องที่ทะลุออกมานอกถ้ำได้ เจ้าหน้าที่จึงใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจบริเวณเหนือถ้ำ ก่อนเจอปล่องตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน โดยปล่องดังกล่าวมีระยะห่างจากโถงจุดแรกภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ประมาณ 800 เมตร แต่ภายในถ้ำจะมีเส้นทางที่คดเคี้ยวและระยะทางที่ยาวกว่า ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงโยนอาหารและขนมลงไปในปล่องดังกล่าว พร้อมกระดาษที่เขียนขอความว่า…ถ้าเจอขนมให้หยุดรอหน่วยซีล กำลังเดินไปตามหาทาง 7 ก.ม.

หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ชุดโรยตัวจากเฮลิคอปเตอร์ เตรียมเข้าพื้นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือจากปล่องบนถ้ำหลวง

เวลา 16.00 น. เพจ Thai NavySEAL รายงานว่า ฝนตกปรอยๆ ระดับน้ำในถ้ำสูงขึ้น พบร่องรอยฝ่ามือตามผนังถ้ำ แต่ยังไม่พบเด็กๆ ทีมฯกำลังค้นหาต่อไป

เวลา 16.10 น. หน่วย SEAL สามารถเจาะดินโคลนที่ปิดทางเข้าถ้ำเข้าไปได้แล้ว แต่ข้างในมืดสนิท แต่ใช้เดมไลท์วางเป็นระยะเพื่อให้แสงสว่าง และใช้เชือกผูกต่อระยะค้นหาเข้าไป อากาศในถ้ำสามารถหายใจได้ปกติ

ตลอดทั้งวัน สภาพอากาศที่อำเภอแม่สายครึ้มตลอดวัน และตอนเย็นมีฝนตกลงมา ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องช่่วยกันทำเขื่อนกั้นไม่ให้น้ำ ไหลเข้าไปในถ้ำอีก

หลังจากนั้น หน่วยซีลได้กลับออกมา และเห็นว่า เด็กยังมีชีวิตอยู่ แต่อาจจะไม่อยู่เป็นกลุ่ม อาจจะกระจายอยู่จุดละ 2-3 คน เนื่องจากภายในถ้ำมีจุดแยกหลายจุด และจากจุดที่เป็นโถงใหญ่ มีระยะทาง 7 กิโลเมตร

เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่หน่วยซีลได้ยุติการค้นหาชั่วคราว เพื่อประชุมและประเมินการค้นหากันใหม่ เนื่องจากเป็นเวลาค่ำ และเจ้าหน้าที่เหนื่อยล้า และการเข้าไปแต่ละครั้ง ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ทีมกู้ภัยจากสวีเดน ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการกู้ภัยในถ้ำ ได้เดินทางถึงอำเภอแม่สาย เพื่อร่วมให้การค้นหาเด็ก 13 คน