นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แถลงข่าวประจำวันที่ 2 ก.ค. 61 โดยกล่าวว่า เมื่อคืนหน่วยซีลได้เข้าไปถึงสามแยกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนแผนงานในวันนี้เจ้าหน้าที่จะไม่ถอนตัว ขณะนี้มีหน่วยซีลอยู่จำนวน 60 นาย พร้อมทีมสนับสนุนจำนวนหนึ่งทั้งภาครัฐเอกชน โดยงานเมื่อคืนที่ผ่านมาขนขวดออกซิเจน กว่า 200 ขวด รวมแล้วกว่า 600 ขวด วันนี้ โถง 3 ซึ่งห่างจากปากถ้ำประมาณ 1,500 เมตรจะเป็นจุดบัญชาการ ในวันนี้ถ้าไม่จำเป็นหน่วยซีลจะไม่เดินทางออกมา ยกเว้นการสับเปลี่ยนกำลัง ในจุดโถง 3 มีโทรศัพท์ อุปกรณ์สื่อสาร ไฟฟ้าครบ เมื่อคืนเช็กแล้วยืนยันว่าจากโถง 3 ยังอยู่ที่สามแยก วันนี้จะบุกต่อ สำหรับแผนในการบุกแผนแรกไปทางซ้ายจากสามแยก ถ้าหากมีกำลังพอถึงจะไปทางขวา จุดวิกฤตคือจุด 3 แยกเลี้ยวซ้าย เพราะมีหลุมลึกและรูรอดผ่านเล็กมาก ต่างชาติเข้าไปไม่ได้ และมีเพียงช่องเดียว ต้องรักษาให้ช่องนั้นให้เปิดอยู่ อาจต้องขยายให้ใหญ่ แต่ถ้าเปิดได้จะแจ้งให้ทราบทันที นอกจากนี้หากมีกำลังพลเหลือ เราจะนำกำลังพลที่เหลือไปทางขวาด้วย เหตุผลที่ให้ความสำคัญกับฝั่งนี้น้อยเพราะโดยภูมิประเทศและธรรมชาติฝั่งนี้จะอยู่ลำบากมาก ส่วนหน้าที่การสูบน้ำก็จะดำเนินการต่อไป
ส่วนแผนรองเข้าทางช่องทางใดที่เปิดเข้าไปได้ โอกาสที่เป็นไปได้มี 11 จุด สำรวจลึกจริงมี 6 หลุม หลุมที่ลึกสุด 200 เมตร ถ้าทะลุได้จากช่องนี้จะดีมาก หลุมที่ 2 ขนาด 600 เมตร นอกจากนี้ระบบการพร่องน้ำดีมาก ต้องขอบคุณประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือ สำหรับแผนที่ 4 ที่เป็นทฤษฎีสแกนนั้นเป็นไปได้ยากกับสภาพอากาศแบบนี้ วันนี้แผนที่ 4 ทำไม่ได้
รายละเอียดปฏิบัติการ
วันที่ 2 ก.ค.เข้าสู่วันที่ 9 ที่ 13 ชีวิตจาก”ทีมหมูป่า อคาเดมี” ติดอยู่ใน”ถ้ำหลวง” ท่ามกลางปฏิบัติการ”กู้ภัย” ที่ระดมทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร และชุดกู้ภัยจากนานาชาติ
แม้จะยังไม่พบ 13 ชีวิต แต่มีสัญญาณที่ดีอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเฉพาะ “การดำน้ำค้นหา”ในถ้ำและการลำเลียง”เครื่องจักรหนัก”เพื่อเตรียม”ขุดเจาะถ้ำ”
21.20 เพจ Thai NavySeal รายงานว่า กำลัง “เร่งอัดอากาศ” เพราะ มีขวดอากาศมาเพิ่ม 351 ขวด รวมกับขวดเดิมที่มีอยู่เป็น 415 ขวด เจ้าหน้าที่ทั้ง”มนุษย์กบ” และทีมงานสมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทย เร่งทำงานเต็มที่ คาดว่าต้องใช้เวลา 12 ชั่วโมง อัดอากาศให้ขวดเต็ม แล้วทยอยนำเข้าสู่ห้องโถง 3 ภายในคืนนี้
นั่นก็หมายความว่า 12 ชั่วโมงจากนี้ คือราว 9 โมงเช้าวันนี้ ( 2 กค.) อาจจะได้ลุ้น”ข่าวดี”
22.30 น.มีรายงานว่า “หน่วยซีล” ดำน้ำเลย” 3 แยก”ไป “ผูกเชือก”-วางถังอากาศ ได้แล้วกว่า. 1 กม. อีกราวไม่ถึง 2 กม. ก็จะถึง “หาดพัทยา”
ตั้งแต่กลางดึกเมื่อคืน “หน่วยซีล” ยึด “โถง 3” เป็น “เป็น”ศูนย์บัญชาการส่วนหน้า” มีการติดตั้งระบบสื่อสาร ,ระบบสูบน้ำ , ระบบไฟ , การลำเลียงถังอากาศ , การเตรียมอาหาร ถือว่าเป็น”กองบัญชาการทีสมบูรณ์ เพราะจากจุด”โถง 3″ ห่างจาก “หาดพัทยา”ราว 3 กม.
“จุดเปลี่ยน” ที่”น่าจะทำให้”หน่วยซีล” และชุดปฏิบัติการร่วม”ดำน้ำ”ได้เร็วขึ้น เพราะ”ระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว. โดยมีการเร่งระบายน้ำ 3 ทางหลัก คือ การสูบน้ำด้วยเครื่องสูบขนาดใหญ่จากในถ้ำ , การขุดเจาะสูบน้ำบาดาล 3 จุด , การเปลี่ยนเส้นทางน้ำจาก”ถ้ำทรายทอง” ไม่ให้ไหลลง”ถ้ำหลวง
ข้อมูลจากทางการช่วงเช้า เมื่อลองคำนวณเวลาที่”หน่วยซีล” และชุดปฏิบัติการร่วม “ดำน้ำ”จาก”โถง 3″ ในเวลา 03.58 น. ถึงเวลา 13.20 น. ไปได้เพียง 400 เมตร เพราะกระแสน้ำแรง ช่องทางแคบ และมืด จนกระทั่งเวลา 16.50 น. ดำน้ำไปได้อีก 200 เมตร
นั่นก็หมายความว่า นับจาก 04.00-17.00 น. หรือ 13 ชม.”หน่วยซีล”ดำน้ำ”จากโถง 3″ไปได้รวม 600 เมตร โดยมีการ”วางเชือกทำสัญลักษณ์” และ “ผูกถังอากาศ”ไว้ทุก 25 เมตร โดยต้องใช้ถังอากาศทั้งหมด 120 ถัง ยังเหลือ 2.4 กม.จะถึง “หาดพัทยา”
การดำน้ำ-ลดระดับน้ำเพื่อเขาไป”ค้นหา 13 ชีวิต” จากปากถ้ำ เป็น”หนทางที่ดีที่สุด” ในการเข้าไปลำเลียง 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ตามสมมติฐานว่า “ทั้ง 13 คน” น่าจะอยู่ที่”หาดพัทยา” เพราะเป็น”โถงใหญ่” “สูง” “น้ำท่วมไม่ถึง” และ”มีอากาศหายใจ”
การสำรวจ”โพรงถ้ำดอยผาหมี” ลำเลียงเครื่องจักรหนักแล้ว
พิกัด”โพรงถ้ำ” ที่เป็นความหวังมากที่สุดจุดหนึ่ง คือ โพรงถ้ำดอยผาหมี”ทางเหนือของ”ถ้ำหลวง ชุดสำรวจ รอง ผบ.ตร. และตชด.พลร่ม , ชุดกู้ภัย อุทยานฯ สำรวจต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ตลอด 24 ชม.เพราะ”โพรงนี้” ลงไปได้กว่า 50 เมตร เป็นรูปตัว L มี “โถงเล็กๆขนาดประมาณ 6 เมตร” 2 โถง มีการสำรวจด้วย”กล้อง” และ GPS ชี้ว่าลงไปได้อีก 30 เมตร จึงยังต้องพยายามเจาะขยายโพรงหินให้สามารถโรยตัวลงไปสำรวจต่อได้
“เตรียมขุดเจาะถ้ำ” คาดพิกัดใกล้”หาดพัทยา”
ตั้งแต่ช่วงเช้าชุดปฏิบัติการรบพิเศษค้นหา-กู้ภัย กองทัพบกได้สำรวจพื้นที่ขุดเจาะ ร่วมกับวิศวกร และ”ทีมรบพิเศษสหรัฐ” จำนวน 2 จุด มีจุดหนึ่งน่าจะลงไปได้ถึง 300 เมตร กำลังรอผลตรวจสอบยืนยันจากทีมวิศวกร เมื่อได้ข้อสรุปจะนำเครื่องขุดเจาะมาลงยังพื้นที่เป้าหมายวางแผนขุดเจาะ ทำสนามจอด”เฮลิคอปเตอร์” และเตรียมหาตำแหน่งวางอุปกรณ์แท่นขุดเจาะ
สาเหตุที่ต้องให้ความสำคัญกับ “ทีมรบพิเศษสหรัฐ” เพราะมีอุปกรณ์”โดรน”บินสแกนถ้ำหลวงพร้อมเครื่องมือประมวลผล. และยังมีดาวเทียมสำรวจภาคพื้นธรณี แสดงผลในระบบ”อินฟาเรด 3 มิติ หากพบ”สัญญาณความร้อน” 13 ชีวิต ก็จะแสดงเป็นรูปคน ขณะนี้รอดาวเทียมเข้าสู่วงืโคจรในตำแหน่งที่ต้องการ
9 วันที่ 13 ชีวิตติดอยู่ใน”ถ้ำหลวง” ปฏิบัติการกู้ภัยที่ระดมกันทุกภาคส่วน วันนี้มีสัญญาณบวกอย่างต่อเนื่อง จนอาจได้ลุ้น”ข่าวดี” ในเร็วๆนี้
ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ผู้เสียสละทุกหน่วยทุกนาย
