เมื่อเวลา 11.50 น.วันนี้(5 ส.ค.2561) ศูนย์วิทยุกู้ภัยตาดาน อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนตกระบะชนกันกับรถบรรทุกพ่วงมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลาย ที่ บริเวณยูเทิร์นโรงงานสับไม้เฉลิมพล ถนนเส้น 24 โชคชัย-เดชอุดม เส้นขาเข้า จ.นครราชสีมา หลังจากได้รับแจ้งเหตุ ได้ประสานร้อยเวร สภ.สังขะ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ศูนย์แพทย์ฉุกเฉิน 1669 โรงพยาบาลสังขะ พร้อมด้วย กู้ชีพบ้านชบ รีบรุดไปยังบริเวณจุดที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณยูเทิร์นโรงงานสับไม้เฉลิมพล ถนนเส้น 24 โชคชัย-เดชอุดม พบรถยนต์กระบะ MITSUBISHI STARDA สีแดงบรอน แผ่นป้ายทะเบียน บน9985 อุบล ชนประสานงานกับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อขนหินยางมะตอย แผ่นป้ายทะเบียน 81-9321 บุรีรัมย จอดกีดขวางการจราจรถนนฝั่งขาเข้า จ.นครราชสีมา ทั้ง 2 ช่องทาง ห่างกันไม่มากนักพบผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 7 ราย ร้องระงม อาสากู้ภัยตาดาน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรให้มาดำเนินการอำนวยการจราจรในที่เกิดเหตุ พร้อมกับนำผู้ได้รับบาดเจ็บบางส่วนส่งโรงพยาบาลสังขะ และโรงพยาบาลประจำจังหวัดสุรินทร์
ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บต่อมาชื่อ 1.ด.ช.รุ่งตะวัน ทองงอก อายุ12ปี /รักษารพ.สังขะ มีบ้านพักเลขที่ 264 ม.12 ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลฯ จ.อุบลฯ, 2.นาย ประดิษฐ์ เกษมคุณ อายุ39ปี /รักษารพ.สังขะ มีบ้านเลขที่ 135 ม.3 ต.หนองบก อ.กิ่งอำเภอเหล่าเสือโก๊ก จ.อุบลฯ, 3.นาง ปราณี หอมจันทร์ อายุ57ปี /ส่งต่อรพ.สุรินทร์ มีบ้านพักเลขที่ 264 ม.12 ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลฯ จ.อุบลฯ, 4.นาง กัญญา จำปาสุข อายุ39ปี /รักษา รพ.สังขะ มีบ้านพักเลขที่ 264 ม.12 ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลฯ จ.อุบลฯ, 5.ด.ญ.สุวนันท์ ทองงอก อายุ13ปี /รักษา รพ.สังขะ มีบ้านพักเลขที่ 264 ม.12 ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลฯ จ.อุบลฯ, 6.นาย แดง หินอ่อน อายุ61ปี /ส่งต่อรพ.สุรินทร์ มีบ้านพักเลขที่ 115 ม.12 ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลฯ จ.อุบลฯ, และ 7.นายถาวร หินอ่อน อายุ32ปี /รักษารพ.สังขะ มีบ้านพักเลขที่ 115 ม.12 ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลฯ จ.อุบลฯ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถ่ายภาพที่เกิดเหตุ ด้านคนขับรถบรรทุกพ่วงขนหินยามะตอย ได้ที่วิ่งมาถึงบริเวณยูเทิร์นโรงงานสับไม้เฉลิมพลเพื่อที่จะกลับรถ จู่ๆ รถยนตกระบะก็วิ่งเข้ามาก็ได้ชนเข้ากับด้ายข้างหัวรถบรรทุกพ่วงขนหินยามะตอย จึงทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 7 รายดังกล่าว
แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกคนขับทั้ง 2 คันมาสอบสวบอีกครั้งก่อน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
