จี้ “บิ๊กตู่”ขอปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์ ค้านให้สิทธิบัตรบริษัทต่างชาติ

30

กลุ่มผู้นิยมกัญชา ยื่นหนังสือ ถึง นายกรัฐมนตรี เรียกร้องขอให้ปลูกเสรีกัญชาเพื่อทางการแพทย์บนผลประโยชน์ของประชาชน และคัดค้านให้สิทธิบัตรแก่บริษัทต่างชาติ

นายอัครเดช ฉากจินดา ที่ปรึกษายุทธศาสตร์การรณรงค์ขับเคลื่อนกัญชาเสรีประเทศไทย พร้อมภาคีเครือข่ายกลุ่มผู้นิยมพืชกัญชา ราว 30 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ ศูนย์บริการประชาชน เพื่อขอให้รัฐบาลให้ปลูกเสรีกัญชาเพื่อทางการแพทย์บนผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งและเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงคัดค้านการให้สิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับพืชกัญชาแก่บริษัทต่างชาติ

นายอัครเดช กล่าวว่า ปัจจุบันมีงานวิจัยจำนวนมากในโลกให้การรับรองว่าพืชกัญชามีสรรพคุณรักษาได้หลายโรค และมีหลายประเทศในโลกที่มีกฎหมายเปิดให้ใช้พืชกัญชาในทางการแพทย์ บางประเทศยังมีการอนุญาตให้ใช้ทางสันทนาการ แต่สถานการณ์ในประเทศไทย พืชกัญชากำลังถูกปล้นจากบริษัทต่างชาติที่แอบมาจดสิทธิบัตรในประโยชน์ของพืชกัญชาในช่วงเวลาที่พืชกัญชายังเป็นพืชที่ผิดกฎหมายของไทยอยู่ ตนจึงเห็นว่าก่อนที่เสรีกัญชาจะเกิดขึ้น จำเป็นต้องมีกระบวนการรณรงค์ให้ประชาชนได้รับรู้ว่าพืชกัญชามีประโยชน์ต่อประเทศอย่างไร ในแง่เป็นยารักษาโรคนั้น ทั่วโลกให้การยอมรับแล้ว แต่ประเทศไทยโดนกดทับบิดเบือน จนทำให้การใช้ประโยชน์สูงสุดจากพืชกัญชาเพื่อรักษาผู้ป่วยกลายเป็นเรื่องของกลุ่มผลประโยชน์ หรืออาจถูกแทรกแซงกลายเป็นข้ออ้างทางการเมือง ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้น

“การปลดล็อกกัญชาต้องทำด้วยความรู้ และด้วยขั้นตอนที่ถูกต้อง เพื่อให้สังคมรับทราบก่อนว่าประเทศไทยพร้อมแค่ไหนที่ไปสู่สังคมเสรีกัญชา โดยวันนี้เครือข่ายฯจะมีการทำแบบสอบถาม รวมถึงจะรอฟังผลการพิจารณาเรื่องนี้ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และแถลงข่าวในเวลา 15.00 น. ของวันนี้ต่อไป” นายอัครเดชกล่าว

นายอัครเดช กล่าวต่อว่า ด้วยเหตุนี้ เครือข่ายฯจึงมีข้อเสนอ 4 ประการ ได้แก่ 1. ขอให้ยกเลิกสิทธิบัตรที่ออกโดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ที่มีความเกี่ยวข้องกับพืชกัญชาทั้งหมด โดยเฉพาะในสิทธิบัตรที่เกี่ยวกับพืชกัญชาเพื่อทางการแพทย์ 2. ขอให้ส่งเสริมงานวิจัยกัญชาทางการแพทย์โดยครอบคลุมถึงแพทย์พื้นบ้าน 3. เปิดเสรีกัญชาแบบมีขอบเขตโดยเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งอย่างยั่งยืน รวมถึงมีมาตรการป้องกันไม่ให้มีการผูกขาดในพืชกัญชา ที่กำลังจะมีแนวคิดและแผนการให้องค์การเภสัชกรรมหรือโรงงานยาสูบ และบริษัทเอกชนมาแอบแฝงการผูกขาด และ 4. ส่งเสริมให้พืชกัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อให้เกษตรกรมีทางเลือกในการสร้างรายได้มากขึ้น ทั้งนี้ เครือข่ายฯหวังว่า ทั้ง 4 ข้อจะได้รับการปฏิบัติจริงจากรัฐบาล อีกทั้งเชื่อว่า พืชกัญชาจะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทย