ทิ้งไว้ข้ามคืน! นำฮ.ลำเลียง 2 คนร้ายลงจากเขา จากฆ่าพระกลายเป็นมือยิงคนร่อนทอง

512

นำฮ.ลำเลียง 2 คนร้ายลงจากเขาช้างเผือก กลายเป็นคนร้ายฆ่าคนร่อนทอง สั่งคุมเข้มสถานที่ราชการ หวั่นมีการล้างแค้น 

ตามที่เมื่อวันที่ 11 ก.พ.62 เวลา 12.45 น. นปพ.ร่วม จ.นราธิวาส สนธิกำลัง ฉก.ทพ.49 ได้บุกเข้าไปยังเขาช้างเผือก ซึ่งกลุ่มคนร้ายก่อความไม่สงบใช้เป็นฐานที่มั่น และได้ปะทะกับคนร้าย จนเป็นเหตุให้คนร้ายเสียชีวิต 2 นาย โดยมีการระบุว่า เป็นนายอูเซ็ง เจ๊ะมิง อายุ 30 ปี และนายมูฮำหมัดซากีรีน สาแม อายุ 27 ปี  ชาวอ.ระแงะ และอ.จะแนะ จ.นราธิวาส ผู้ต้องสงสัยยิงพระที่อ.สุไหงปาดีนั้น เวลา 08.30 น. วันที่ 12 ก.พ. 62 พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม หน.ชุดปฏิบัติการพิเศษร่วม จ.นราธิวาส พ.ต.ท.ประจวบ นิ่มเรือง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพภาค 4 บริเวณหน้าสนามฟุตบอลที่ว่าการ อ.จะแนะ เพื่อเดินทางไปบนเทือกเขาหลังหมู่บ้านไอร์ลาฆอ ม.5 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่กองกำลังผสมได้ปะทะ โดยการเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์เพื่อเป็นการย่นระยะเวลาการเดินทางด้วยเท้าที่ต้องลัดเลาะไปตามป่าทีรกทึบและสูงชัน แถมต้องเดินข้ามเนินเขาถึง 2 ลูก ที่ต้องใช้เวลานานกว่า 1 ช.ม.ก่อนที่จะถึงจุดหมาย

จากการตรวจสอบที่พักชั่วคราวของกลุ่มคนร้ายทั้ง 8 หลัง ที่ใช้ผ้าใบพลาสติกสีดำมุงเป็นหลังคา โดยมีเชือกผูกปลายทั้ง 4 ด้านโยงไปผูกติดกับกิ่งไม้ ซึ่งแต่ละหลังสูงจากประมาณ 1 เมตร ด้วยการปรับพื้นที่เนินเขาให้เตียนโล่งและมีสมรภูมิที่พักชั่วคราวแต่ละหลัง มีความได้เปรียบหากถูกเจ้าหน้าที่บุกโจมตี โดยเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนของคนร้ายเป็นจำนวนมาก ตกกระจายอยู่ตามพื้นของที่พักชั่วคราวทั้ง 8 หลัง พร้อมด้วยกองเลือดจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งได้ตรวจยึดเสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัวที่ยังชีพอยู่ในป่า ไปทำการตรวจสอบคราบลายนิ้วมือแฝงและ ดี.เอ็น.เอ.ว่าหลักฐานที่ตรวจพบโยงไปถึงผู้ใดและเคยก่อเหตุที่ใดบ้าง

ส่วนกรณีศพคนร้ายที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิต 2 ศพ ในเบื้องต้นเป็นศพของนายอูเซ็ง เจ๊ะมิง และศพของนายมูฮัมหมัดซากีริน สาแม นั้น จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ด้วยการนำหมายจับมาเปรียบเทียบกับใบหน้าและรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย พบว่าไม่ใช่ศพของนายอูเซ็งและนายมูฮัมหมัดซากีริน แต่เป็นศพของนายอายิ ยามา อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 17 ม.3 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เป็นแกนนำระดับปฏิบัติการณ์ มีหมายจับ ป วิ อาญา ในคดี ร่วมกับพวกยิงนายมะยูโซ๊ะ บาโด และครอบครัวเสียชีวิต 4 ศพ ที่บ้านน้ำตก ม.5 ต.สุคิริน อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ขณะที่นายมะยูโซ๊ะ และครอบครัวเดินทางไปร่อนทอง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 61 ที่ผ่านมา และศพของนายสุกรี มามุ อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 272 ม.7 ต.สากอ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เป็นแกนนำระดับปฏิบัติการณ์ มีหมายจับ ป วิ อาญา ในคดี ยิงนายธะพล ชูส่งแสง ครูโรงเรียนบ้านบอเกาะ ม.2 ต.สากอ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 55 ที่ผ่านมา เหตุเกิดบ้านดอเฮะ ม.3 ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส

ด้าน พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม หน.ชุดปฏิบัติการพิเศษร่วม จ.นราธิวาส เปิดเผยถึงอาวุธปืนสงครามที่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดจากคนร้ายได้ จำนวน 2 กระบอก เป็นอาวุธปืน AK 102 และ อาวุธปืน M16 A2 นั้น จากการตรวจสอบพบว่า อาวุธปืน AK 47 เป็นอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ร.2923 ฉก.นราธิวาส 34 ที่คนร้ายได้ขโมยไปหลังจากก่อเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 8 นาย เหตุเกิด ม.4 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 51 ที่ผ่านมา ส่วนอาวุธปืน M16 A2 คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครอง ต.โต๊ะเด็ง ที่คนร้ายได้ขโมยไปหลังจากดักซุ่มยิงเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 61 ที่ผ่านมา บนถนนบ้านโต๊ะเด็ง ม.1 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ที่คนร้ายได้ลบหมายเลขประจำปืนออก และคาดว่าเป็น 1 ในอาวุธปืน 11 กระบอก ที่คนร้ายใช้บุกยิงพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ อดีตเจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดีและเป็นอดีตเจ้าอาวาสรัตนานุภาพ มรณภาพพร้อมพระลูกวัด รวม 2 ศพและได้รับบาดเจ็บอีก 2 รูป เหตุเกิดวัดรัตนานุภาพ ม.2 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 62 ที่ผ่านมา

ต่อมาหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบจุดเกิดเหตุแล้วเสร็จ ได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ทำการลำเลียงศพ นายอายิ ยามา และศพของนายสุกรี มามุ 2 คนร้ายที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิต มายังโรงพยาบาลจะแนะ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยมีนายนพพร หนูเพชร นายอำเภอจะแนะ ได้เดินทางมาทำความเข้าใจกับเครือญาติของผู้เสียชีวิตและชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ที่เดินทางมารอรับศพผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนา

ด้าน พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส หลังคนร้ายถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิต 2 ศพ ได้สั่งการไปยังผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร และสารวัตรสถานีตำรวจภูธร ทั้ง 13 อำเภอ ให้เพิ่มความเข้มในการปฏิบัติ เพื่อป้องกันการตอบโต้ของกลุ่มคนร้าย ต่อเป้าหมายอ่อนแอ พระสงฆ์ ผู้นำศาสนาและชุมชนไทยพุทธ พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์ข่าวสารความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตุว่า การบุกฐานของกลุ่มก่อความไม่สงบ เกิดขึ้นตั้งแต่เวลา เที่ยงกว่าๆของวันที่ 11 แต่มีการลำเลียงศพลงมาในวันถัดมา ทั้งที่น่าจะมีเวลาในลำเลียงลงมาในวันเดียวกัน และน่าสังเกตว่า ผู้เสียชีวิตกลายเป็นคนร้ายที่ครอบครัวร่อนทอง ไม่ใช้คนร้ายที่ยิงพระที่มีการระบุตั้งแต่แรก