พุทธ-มุสลิมร่วมงาน’วัดเทพนิมิต’คึกคัก ระบุเคยเป็นวัดร้าง แต่มุสลิมร่วมฟื้น

1379

วันมาฆบูชา มุสลิมเข้าร่วมกิจกรรม วันมาฆบูชา ของวัดเทพนิมิตคึกคัก ระบุ ไม่ได้เข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาแต่อย่างใด

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 ที่วัดเทพนิมิตร อ.ปะนาเระ จ. ปัตตานี ได้มีการจัดงานวันมาฆบูชา ซึ่งมีไทย-พุทธและมุสลิม เข้าร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก โดยมุสลิมได้เข้าร่วม กิจกรรมที่ไม่ใช่พิธีกรรมตามศาสนาพุทธ แต่เข้าร่วมงานช่วยเหลือเกื้อกูลดังวิถีดั้งเดิมของคนมลายูพุทธและมุสลิมในอดีตที่อยู่ร่วมกันแบบสังคมพหุวัฒนธรรม

วัดเทพนิมิต หรือ วัดบ้านกลาง ตั้งอยู่ที่ อ.ปานาเระ จ.ปัตตานี สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น เป็นวัดที่มีความเก่าแก่หลายร้อย แต่ได้เป็นหนึ่งในวัดร้างของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยหลังเกิดเหตุความรุนแรงในพื้นที่ ชาวไทยพุทธได้อพยพออกจากพื้นที่ เหลือแต่วัดตั้งอยู่กลางชุมชนมุสลิมแต่เดิมมีพระจำวัดอยู่ 2 รูป คือ พระยาน และเจ้าอาวาสซึ่งอยู่ในวัยชรา และเมื่อเดือนมกราคม 2557 พระยาน วัย 75 ปี ได้ออกไปบิณฑบาตร ในชุมนุมชาวพุทธที่อยู่ห่างออกไป โดยมีหน่วยทหารพราน ร้อย ทพ.ที่ 4405 จำนวน 2 นาย ได้ขับรถยนต์เพื่อพาพระยานออกไปบิณฑบาตร แต่ระหว่างทางคนร้ายได้ประกบยิงด้านหลังรถจักรยานยนต์ และยิงถล่มใส่รถยนต์ เป็นเหตุให้ทหารพรานเสียชีวิต 1 นาย พระยานได้รับบาดเจ็บ แต่ได้มรณภาพในเวลาต่อมา จึงเหลือเจ้าอาวาสเพียงคนเดียว ด้วยอยู่ในวัยชราและมีความเศร้าโศก จึงได้มรณภาพในที่สุด วัดเทพนิมิต จึงกลายเป็นวัดร้างตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา

มุสลิมส่วนหนึ่ง นำโดยซูลกิฟลี ดอเลาะ ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.ปิยามุมัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ร่วมสร้างกุฎิพระ

แม้จะมีทหาร บวชเป็นพระ มาประจำพรรษา 6 รูป แต่เมื่อพ้นพรรษา ก็ลาสิกขาบท ไปทำหน้าที่ทหาร

สภาพวัด จึงมีสภาพทรุดโทรม หลายจุดจะต้องได้รับการซ่อมแซม และวัดเทพนิมิตได้ขึ้นทะเบียนกับทางกรมศิลปากร เนื่องจากเป็นวัดที่มีความเก่าแก่ ความสวยงาม

ต่อมา พระอาจารย์เรวัต ถิรสัทโธ หรือท่านแว ซึ่งเป็นพระที่บวชมานานกว่า 30 พรรษาและได้เดินธุดงค์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดเทพนิมิต ได้มีการปฏิสังขรณ์วัด โดยพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ ร่วมกับชาวพุทธช่วยกันก่อสร้างกุฎิให้ท่านแว ได้จำวัด วัดเทพนิมิตจึงกลับมาเป็นวัดอีกครั้ง