ทบ.สั่งซื้อรถหุ้มเกราะสไตรเกอร์จากสหรัฐฯ 3,000 ล้าน เป็นชาติแรกของโลก

735

กองทัพบกจัดซื้อยานเกราะ ล้อยาง “สไตรค์เกอร์” จากสหรัฐเข้าประจำการเป็นแห่งแรกของโลก พร้อมๆ กับการปรับโครงสร้างกองทัพให้กะทัดรัดและจัดหน่วยกองพลทหารราบมาตรฐาน มาเป็นกองพลทหารราบเบา

พ.อ.หญิง ฉัตรรพี พรศรี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทัพบกกำลังปรับปรุงโครงสร้างและเสริมสร้างหน่วยกำลังรบของกองทัพบกเพื่อใช้เป็นหน่วยต้นแบบในอนาคตโดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างหน่วยกำลังรบระดับกรม ให้เป็นหน่วยที่มีความกะทัดรัดทันสมัย และมีประสิทธิภาพ

การจัดกองทัพดังกล่าวจะศึกษารูปแบบจากการจัดหน่วยแบบกองพลน้อยของสหรัฐฯ ออสเตรเลีย (Brigade Combat Team : BCT) โดยนำไปประยุกต์ให้มีความเหมาะสมกับกองทัพบก ซึ่งการจัดการดังกล่าวจะต้องประกอบด้วยกำลังพลและยุทโธปกรณ์ควบคู่กับการพิจารณาจัดหายานเกราะที่เหมาะสม เข้าประจำการ ซึ่งขณะนี้ทางกองทัพบกกำลังจัดหายานเกราะล้อยาง “สไตรค์เกอร์” จากประเทศสหรัฐฯเข้าประจำการ

สำหรับแผนการจัดซื้อยานเกราะล้อยาง “สไตรค์เกอร์”ทางกองทัพบกได้อนุมัติจัดหายานเกราะล้อยาง รุ่น M1126 STRYKER จากที่สหรัฐมีสำรองไว้ 37 คัน คันละประมาณ 80 ล้านบาท เป็นโครงการซื้อความช่วยเหลือทางทหารแบบ FMS โดยตรงกับสหรัฐฯ

สำหรับรถเกราะ “สไตรค์เกอร์” นี้จะมีอาวุธประจำรถและเครื่องมือติดต่อสื่อสาร ในการซื้อครั้งนี้ทางกองทัพบกไทยได้ซื้อ 37 คัน (รวมเป็นเงิน 2,960 ล้านบาท) และทางสหรัฐฯ ช่วยเหลือให้เพิ่มอีก 23 คัน รวมเป็น 60 คัน และยังเป็นโครงการต่อเนื่อง รวมถึงการสร้างโรงเก็บ สนามฝึก ชิ้นส่วนการซ่อมบำรุง เพื่อบรรจุในกองพลทหารราบที่ 11 จังหวัดฉะเชิงเทรา ตามแผนการเสริมสร้างศักยภาพของหน่วยทหารราบ พร้อมยังนำเข้าประจำการในหน่วยทหารหน่วยอื่น

นอกจากนี้ การประจำการของ “สไตรค์เกอร์” จะทำให้จัดหน่วยจากเดิมเป็นแบบกองพลทหารราบมาตรฐาน มาเป็นการจัดหน่วยแบบกองพลทหารราบเบา

มีรายงานว่า นับตั้งแต่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ มาเป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มีการพัฒนาแนวทางการจัดหายุทโธปกรณ์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน และสหรัฐฯ มีรถเกราะรุ่นดังกล่าวสำรองคลังไว้จึงได้เสนอขายให้กับกองทัพบกของไทยในราคามิตรภาพ ทบ.จึงเห็นชอบให้จัดหายานเกราะรุ่นดังกล่าวเขามาประจำการ ซึ่งถือเป็นยานเกราะล้อยางแบบที่ 3 ของกองทัพบกไทยที่เตรียมนำเข้าประจำการ โดยเริ่มในปีงบประมาณ 2562 นี้

สำหรับประวัติของยานรบ“สไตรค์เกอร์” ถือได้ว่าได้จำหน่ายให้ไทยเป็นรายแรก ซึ่งยานรบดังกล่าว กองทัพสหรัฐฯ ยังคงใช้ประจำการไปอีกถึงปี 2030 หรือนานกว่านี้ เป็นยานเกราะล้อยางที่ได้รับว่าระดับ World Class ผลิตโดย บริษัท General Dynamics Land systems ผ่านการรบมาแล้วหลายครั้ง

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 19 ก.ค. เวลา 09.30 น. นายเดวิด อาร์ สตีลเวลล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก คนใหม่ เข้าพบนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล และนายสตีลเวลล์ ให้สัมภาษณ์ว่า ขอขอบคุณรัฐบาลไทยและดีใจที่ได้กลับมาอีกครั้ง ซึ่งตนเคยมาประเทศไทยเมื่อปี 2516 ซึ่งขณะนั้นตนมีอายุ 11 ปี ตอนนี้ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องอาหารซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างมาก

สำหรับปี 2562 ถือเป็นปีที่สำคัญของประเทศไทย นอกเหนือจากการที่ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียนแล้ว ยังถือเป็นปีมหามงคล มีการจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตนจึงขอแสดงความยินดีและความปรารถนาดีต่อประชาชนชาวไทยทุกคน สำหรับการที่ประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียน ตนมั่นใจว่าประเทศไทยจะสามารถทำงานดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายเดวิด อาร์ สตีลเวลล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก คนใหม่

“ผมมีความยินดีที่ประเทศไทยได้กลับมามีการปกครองโดยพลเรือนอีกครั้ง ซึ่งเราได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ และรอคอยที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลไทย” ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว