ศาลฎีกา พัทยา ยืนคุก4ปี “วรชัย-สำเริง” ปิดฉากคดี ล้มประชุมอาเซียน

405

ศาลพัทยา อ่านคำพิพากษา ศาลฎีกา ยืนจำคุก 4 ปี “วรชัย-สำเริง” แกนนำ เสื้อแดงบ ล้มประชุมอาเซียน แม้จะยื่นคำร้อง ยอมสารภาพ ก็ไม่รอด “พ.ต.ท.ไวพจน์ ” อ้างติดประชุมสภา เจอหมายจับ 

หลังจาก ศาลจังหวัดพัทยา จ.ชลบุรี ได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำกลุ่มคนเสื้อแดงบุกล้มการประชุมอาเซียน เมื่อวันที่ 11 เม.ย.2552 ซึ่งพนักงานอัยการจังหวัดพัทยา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง จำเลยรวม 12 คน นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายนพพร นามเชียงใต้ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ นายสมญศฆ์ พรมภา นายนิสิต สินธุไพร นายสำเริง ประจำเรือ นายศักดา นพสิทธิ์ นายสิงห์ทอง บัวชุม นายธนกฤต หรือวันชนะ ชะเอมน้อย หรือเกิดดี นายวรชัย เหมะ นายพายัพ ปั้นเกตุ นายวัลลภ ยังตรง และนายพิเชฐ สุขจินดาทอง

ทั้งนี้ ได้พักคดี พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ และ นายสุรชัย แซ่ด่าน เนื่องจากหลบหนี ขณะที่นายธรชัย ศักดิ์มังกร และ พ.ต.อ.สมพล รัฐกาญจน์ ศาลชั้นต้นยกฟ้อง ต่อมา ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนให้จำคุกจำเลยทั้ง 12 คน เป็นเวลา 4 ปีโดยไม่รอลงอาญา และยกฟ้อง 1 คน จากนั้น วันที่ 31 ต.ค.2562 จำเลยอีก 3 คน  พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ นายสำเริง ประจำเรือ และ นายวรชัย เหมมะ ได้เดินทางมารับฟังคำพิพากษาของศาล แต่ทนายความได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอถอนคำให้การเดิมจากปฏิเสธเป็นขอรับสารภาพ และยื่นคำร้องประกอบขอให้ศาลลงโทษสถานเบา โดยศาลนัดให้มารับฟังคำพิพากษาใหม่วันที่ 3 ธ.ค.2562

เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (3 ธ.ค.) นายวรชัย เหมมะ ,นายสำเริง ประจำเรือ พร้อมทนายความได้เดินทางมายังศาลจังหวัดพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อรับฟังคำพิพากษา ขณะที่ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ มอบหมายให้เสมียนทนายมาขอเลื่อนการรับฟังคำพิพากษา เนื่องจากติดการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. พร้อมกลุ่มผู้สนับสนุนและญาติของจำเลยรวมกว่า 10 คน เดินทางมาให้กำลังใจ

นายณัฐพล ปัญญาสูง ทนายความจำเลย เปิดเผยว่าในวันนี้จำเลยมาฟังคำพิพากษาเพียง 2 ราย ส่วนกรณีที่จำเลยทั้ง 3 ได้เคยยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อขอถอนคำให้การปฏิเสธเป็นรับสารภาพไปนั้น ปรากฏว่าศาลได้ยกคำร้องด้วยเหตุว่าในการยื่นแก้ไขคำให้การเดิมจะต้องดำเนินการยื่นก่อนที่ศาลชั้นต้นจะตัดสิน จึงไม่มีเหตุให้รับคำร้องหรือยกคำร้องแถลงคำให้การจากปฏิเสธเป็นรับสารภาพด้วย

ส่วนการยื่นคำร้อง เพื่อขอเลื่อนฟังคำพิพากษา โดยอ้างเหตุว่าจำเลยมารับฟังคำพิพากษาไม่ครบทั้ง 3 ราย เพราะอีก 1 รายติดภารกิจสมัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น ศาลชี้ว่าไม่มีเหตุและถึงแม้จะเป็นสมัยการประชุมสภา แต่ไม่ใช่ข้ออ้างในการพิจารณาคดี ก่อนจะอ่านคำพิพากษาให้ รับโทษจำคุก 4 ปี ขณะที่ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ จำเลยอีกรายที่ไม่ได้มานั้นศาลจะได้ออกหมายจับให้มารับฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 15 ม.ค.2563 อีกครั้ง

นายจตุพร พรหมพันธุ์  ประธาน นปช. กล่าวว่าวันนี่้ ถือเป็นข้อยุติ แม้จะขาดจำเลยไปอีก 1 คนที่ไม่ได้มาฟังคำพิพากษา โดยผลคงไม่มีอะไรเป็นอย่างอื่นแล้ว และคาดว่าจากนี้จำเลยที่เหลือก็คงจะทยอยเดินทางเข้ามอบตัวเพื่อเข้าต่อสู่ขั้นตอนตามกระบวนการของกฎหมายจนครบ “และจนถึงขณะนี้คงต้องบอกว่าพวกเราคงน้อมรับชะตากรรมและคำพิพากษาของศาลที่ตัดสินไปแล้ว ขณะที่หลายคนที่ได้รับโทษไปก่อนหน้าประมาณ 4-5 เดือน ก็คงจะทำให้เหลือโทษอีกเพียง 3 ปีเศษๆ เท่านั้น” นายจตุพร กล่าว