กลุ่มพุทธเพื่อสันติแถลงเตือนอย่าทำให้เป็นศาสนาแห่งความรุนแรง-แนะพุทธแท้ทำอย่างไร

1730

กลุ่มชาวพุทธผู้รักสันติ ออกแถลงการณ์เตือนสติ กลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านอิสลาม ระบุ อย่าทำให้พุทธเป็นศาสนาแห่งความรุนแรง ต้องช่วยกันสร้างความปรองดิงสามัคคี ให้ตั้งมั่นอยู่กับอารมย์ฝ่ายดี รู้จักอดกลั้นอดทน รู้จักให้อภัยไม่เบียดเบียนกัน รู้จักเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ต่อเพื่อนร่วมโลกทั้งที่เป็นมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย จึงจะได้ชื่อว่าเป็นพุทธแท้

กลุ่มชาวพุทธผู้รักสันติ  ได้ออกแถลงการณ์หลังจากที่มีกลุ่มปกป้องชาวพุทธออกมาเคลื่อนไหวใส่ร้ายโจมตีอิสลามโดยระบุว่า จากกลุ่มชาวพุทธผู้รักสันติ ถึงพี่น้องชาวพุทธที่รักทุกๆท่าน ผมในนามสมาชิกของกลุ่มชาวพุทธผู้รักสันติขอขอบคุณพี่น้องในการสร้างความปรองดองรู้รักษามัคคีใช้เหตุใช้ผลใช้ปัญญาในการเสพข้อมูลข่าวสารต่างๆที่มีมากมายในแต่ละวัน…

พี่น้องครับผมก็เป็นพุทธโดยการเกิด เคยบวชเรียนมาและศึกษาพระธรรมวินัยใช้เวลา 7 ปีบวชพรรษาแรกพระอุปัชฌาย์ก็ให้เรียนบทสวดพระปาติโมกข์ เรียน อยู่สองเดือนก็สวดได้ หลังจากนั้นก็ออกเดินทางไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในภาคปฏิบัติจากสำนักต่างๆ จนพอจะมีความรู้ นำมาปฏิบัติเองและเทศนาอบรมให้ความรู้แก่พุทธศาสนิกชนปฏิบัติตาม จนครบ 7 ปีจึงลาสิกขาออกมาใช้ชีวิตเป็นฆราวาส แต่ก็ปฏิบัติธรรมไม่เคยขาด

ตอนที่บวชเป็นพระภิกษุพระอาจารย์ท่านสอนความรู้ให้ทั้งทางปริยัติธรรม , ปฏิบัติธรรม,และปฏิเวชธรรม พระอาจารย์ท่านเคร่งในพระธรรมวินัยมาก ท่านจะไม่รับเงินรับทอง(กรรมการวัดจะจัดการเองหมด) ตอนนั้นผมข้องใจเลยถามว่าทำมั้ยพระอาจารย์ไม่รับ…ท่านจึงตอบว่าพระธรรมวินัยห้ามไว้ไม่ให้ภิกษุรับเงินรับทอง ถ้าภิกษุรับไว้ย่อมต้องถูกปรับอาบัติ และเงินทองนั้นย่อมนำมาซึ่งบ่อเกิดของกิเลส พอมีเงินมากความอยากก็จะเกิดขึ้นเป็นเงาตามตัว อยากได้ อยากมี อยากเป็น อยากในสิ่งที่อำนาจเงินบันดาลได้จึงทำให้ห่างไกลจาก มรรค ผล นิพพาน เพราะอำนาจฝ่ายต่ำจากเงินอาจเข้าครอบงำจิตได้…(ทางกรรมการวัดเขาจัดการของเขาเอง) พอลาสิกขาบทออกมาก็ได้ติดตามข้อมูลข่าวสารอันเกี่ยวเนื่องกับศาสนาพุทธมาตลอด บางครั้งก็หดหูใจกับสมณะบางรูป (ไม่ใช้คำว่าพระเพราะคำว่าพระเป็นของสูง) สมณะบางรูปโดนอำนาจเงินเล่นงานจนจนต้องคดีความในโทษฐานความผิดต่างๆมากมาย บางรูปก็ถูกจับสึก บางรูปก็หนีไปต่างประเทศ บางรูปก็หลบๆซ้อนๆ และต้องคดีความหลายคดี…

จะเห็นได้ว่าพระแท้ไม่ค่อยมีปัญหา มักน้อย สันโดด ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยของพระศาสดา…แต่สมณะที่มีปัญหาคือสมณะที่ไปยุ่งกับเงินตราและอามิจมากกว่าปฏิบัติธรรมโดยเนื้อแท้…ผมจะไม่เอ่ยนามเพราะท่านก็คงทราบ…สมณะบางรูปก็โฆษณาชวนเชื่อตั้งตนเป็นผู้วิเศษเพื่อให้ลาภอามิตและผู้คนหลังใหลเข้ามากราบไหว้บูชาเงินจะได้เข้ามามากๆชื่อเสียงก็โดงดังมีลูกศิษย์ลูกหามากมายโดยไม่สนใจในการปฏิบัติธรรม พยายามฝ่าฝืนพระธรรมวินัยโดยการอวดอุตริ…เพื่อลาภอามิตที่จะได้รับ…พระพุทธองค์ออกจากพระราชวังมาสู่ป่าเพื่อหาความวิเวกในการปฏิบัติธรรม..แต่สมณะบางรูปกลับไม่เป็นเช่นนั้นกลับมาสร้างอาคารสถานที่ที่ยิ่งใหญ่ให้กับตัวเองและพวกพ้อง….จะไปโทษศาสนาอื่นว่ามาทำลายก็ไม่ได้ต้องดูตัวเองว่า มีส่วนร่วมในการทำลายด้วยหรือไม่ ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยที่เป็นแก่นของศาสนาหรือไม่หรือเป็นแค่เปลือกนอก..ที่ยังมีกิเลสและตัญหา อุปาทาน ยึดถืออยู่ พุทธศาสนิกชนที่ดีต้องสอนตัวเองก่อน ต้องทำตัวเองให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่คนอื่นแล้วศรัทธาคือ ความเชื่อของผู้อื่นจะตามมา

ดูพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านสอนตัวเองก่อนโดยการตรัสรู้ด้วยพระองค์เองแล้วสอนให้คนอื่นรู้ตามดังพุทธภาษิตที่ว่า อัตนาโจทะยัตตานัง หมายความว่าจงเตือนตนด้วยตนเองการที่พวกเราชาวพุทธบางคนกระทำตัวเพื่อปลุกระดมภ์ให้เกิดความแตกแยกในหมู่พี่น้องเพื่อนร่วมชาติไม่ว่าจะมีเจตนาแอบแฝงหรือมีผลประโยชน์หรือสูญเสียผลประโยชน์ใดก็ตามแล้วยุยงปลุกปั้นให้พี่น้องต่างศาสนิกเข้าใจผิดในพุทธศาสนาหรือมองว่าชาวพุทธนิยมความรุนแรงเท่ากับท่านทำลายพุทธศาสนาโดยอ้อมโดยจับชาวพุทธเป็นตัวประกัน

อยากถามท่านว่า ท่านเป็นผู้ปฏิบัติเข้าถึงที่สุดแห่งธรรมหรือยังถ้าท่านเป็นพุทธแท้ท่านจะไม่ปลุกระดมภ์ให้พี่น้องเพื่อนร่วมชาติทะเลาะกัน พระพุทธองค์สอนให้ควบคุมตาหูจมูกลิ้นกายใจไม่ยินดียินร้ายกับอารมย์ที่มากระทบ ฝึกจิตให้ตั้งมั่นอยู่กับอารมย์ฝ่ายดี รู้จักอดกลั้นอดทน รู้จักให้อภัยไม่เบียดเบียนกัน รู้จักเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ต่อเพื่อนร่วมโลกทั้งที่เป็นมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย จึงจะได้ชื่อว่าเป็นพุทธแท้

ด้วยความเคารพอย่างสูง
กลุ่มชาวพุทธผู้รักสันติ