ลุ้น! คดีประวัติศาสตร์ “อิลลูมิเนติ” ยุบพรรค อนาคตใหม่ “EU-อังกฤษ”ขอร่วมฟังคดี

102

ลุ้นระทึก!! ติดตามคดี “ยุบพรรค” อนาคตใหม่ ที่ ศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดอ่านคำพิพากษา พฤติกรรม “ธนาธร-ปิยบุตร” ตลอดจนโลโก้ “อิลลูมิเนติ” จะทำให้ “อนาคตใหม่” ตายยกรัง หรือไม่ รู้ผลวันนี้

ตามกำหนดการสำคัญ 11.30 น. วันที่ 21 ม.ค.63 ศาลรัฐธรรมนูญ จะออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำวินิจฉัยในคดี ที่ “ณฐพร โตประยูร” ยื่นคำร้องขอให้ วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค และ คณะกรรมการบริหารพรรค เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือไม่

โดยไปยื่นคำร้องอย่างเงียบๆ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.62 จึงไม่ปรากฏเป็นข่าวในช่วงแรก และต่อมา ได้มอบฉันทะให้ “ว่าที่ร.ต.หญิง ปรารถนา บุตรน้ำเพชร” ยื่นคำร้องเพิ่มเติมศาลฯ เมื่อ18 มิ.ย.62

19 ก.ค.62 ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 5 ต่อ 4 เสียง ให้รับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณาวินิจฉัย จากนั้นส่งหนังสือให้พรรคอนาคตใหม่ ยื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน เรื่องนี้จึงเริ่มเข้ามาอยู่ในความสนใจของสังคม

ขณะเดียวกันตัวแทนสถานทูตต่างประเทศ ได้มีการประสานที่จะส่งตัวแทนเข้าร่วมฟังคำวินิจฉัยเช่นเดิม ทั้ง สหภาพยุโรป หรืออียู และสถานทูตอังกฤษ

พรรคอนาคตใหม่ ยื่นเอกสาร หลักฐาน พร้อมคำชี้แจงโต้ข้อกล่าวหา และได้ขอให้ศาลฯ เปิดการไต่สวนพยานบุคคลด้วย หวังยืดเวลาออกไปให้นานที่สุด

แต่ปรากฏว่า ศาลฯ เพียงมีหนังสือแจ้งกลับไป เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.62 ไม่รับคำร้องให้ไต่สวนพยานเพิ่มเติม เพราะเห็นว่า คดีมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้แล้ว จากนั้นก็นัดพิจารณาวินิจฉัย วันที่ 21 ม.ค. 63

ทำให้ทั้ง ธนาธร และ ปิยบุตร ต่างออกมา ฟ้องสังคมว่า เป็นการรวบรัดการพิจารณา

ย้อนกลับมามาดูคำร้อง คดีประวัติศาสตร์ ระบุพฤติการณ์ ของพรรคอนาคตใหม่กับพวก ว่า เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง เริ่มจาก ข้อบังคับพรรคอนาคตใหม่ ไม่มีถ้อยคำที่ปรากฏถึงการยอมรับว่า ประเทศไทยต้องมี “การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”

แต่กลับใช้คำว่า “หลักประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ” แทน

การที่ปรากฏข่าวว่า “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นนายทุนเว็บไซต์และนิตยสาร “ฟ้าเดียวกัน” ที่เนื้อหาเน้นไปในทางลดความน่าเชื่อถือสถาบันพระมหากษัตริย์

กรณี”ธนาธร” พูดเชิญชวนคนไทยมาร่วมกันทำการสานต่อภารกิจ เมื่อพ.ศ. 2475 เนื่องจาก 86 ปีแล้วยังทำไม่สำเร็จ

“ธนาธร” ประกาศว่าหากได้เป็นนายกรัฐมนตรี พระมหากษัตริย์ไม่ควรมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง จะยกเลิกให้หมดทุกอย่างที่เป็นรัฐบาลทหาร และยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2560

“ธนาธร” ชูแนวคิดเลิกกราบไหว้ เคารพครู อาจารย์ ตามประเพณี เลิกการยิ้มสยาม ที่มองว่ายิ้มอย่างไม่มีจุดยืน ไม่มีเหตุผล ล้มเลิกการอุปถัมภ์ทุกศาสนาในประเทศไทย

นอกจากนี้ ยังมีกรณี “ปิยบุตร” แสดงทัศนคติ ขณะที่ยังเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยว่า สถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นอยู่ปัจจุบัน มีอำนาจเกินควรจะเป็นในระบอบประชาธิปไตย

สถาบันพระมหากษัตริย์ จำเป็นต้องปรับตัวให้อยู่ได้กับประชาธิปไตย โดยแยกการใช้อำนาจจากรัฐ ให้เป็นหน่วยงานทางการเมืองหน่วยหนึ่ง

ทำให้พระมหากษัตริย์ ไม่สามารถใช้อำนาจใดๆผ่านรัฐได้อีกต่อไป ในทางรูปธรรม หมายถึง การไม่อนุญาตให้พระมหากษัตริย์สามารถทำอะไรเองได้

การแถลงนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 61 ที่ประกาศจะลงนามสัตยาบันธรรมนูญกรุงโรม ว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งมีเนื้อหาประมุขของรัฐไม่ได้รับการยกเว้นจากการรับผิดทางอาญา

ขณะเดียวกัน “โลโก้พรรค” ที่เป็นสัญลักษณ์ สามเหลี่ยมด้านเท่าหัวกลับ คล้ายกับสัญลักษณ์ “สมาคมอิลลูมิเนติ” ที่อยู่เบื้องหลังการล้มล้างการปกครองระบอบกษัตริย์หลายประเทศในยุโรป ก็ถูกบรรจุอยู่ในคำร้องด้วย

จนทำให้มีการเรียกขานคดีนี้ว่าคดี “อิลลูมิเนติ”

สำหรับ “โทษ” ที่ ร้องต่อศาลฯ หากศาลฯพิจารณาเห็นว่าเป็นความผิดนั้น มี 2 กรณี คือ “ให้หยุดการกระทำนั้นเสีย” หรือให้สั่ง”ยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรค”

ดังนั้นต้องมาติดตามกันว่า วันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งให้… “ยก” หรือ “หยุด” หรือ “ยุบ” !!

หากศาลฯสั่งให้ “ยกคำร้อง” ก็แสดงว่าพรรคอนาคตใหม่ รอดพ้นจากข้อหานี้

แต่ถ้าศาลฯสั่งให้ “ยุบพรรค” และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งโทษเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งนั้น กฎหมายไม่ได้ระบุว่าเป็นกี่ปี ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ

แต่ถ้าเทียบเคียงกรณียุบพรรค “ไทยรักษาชาติ” ที่เป็นคดีความผิดคล้ายคลึงกัน จะต้องจำคุก 10ปี !