กระแสแรง! ปรับครม. นายกฯ เรียก “บิ๊กป้อม-อนุทิน” ถกลับ ยันปรับแน่

221

“บิ๊กตู่” เคลื่อนไหว ปรับ ครม. เรียก “ลุงป้อม-อนุทิน” หารือลับ แต่ยังไม่บอกเมื่อไร “เสี่ยหนู” ลั่นห้ามแตะโควต้า ภท. “สุวิทย์” รับสภาพ โดยเขี่ยพ้น ครม.แน่ ครวญ เป็น รมต.ขาลอย ไร้ สส.หนุน ฉะลั่น “วงจรอุบาทว์” 

ความเคลื่อนไหว ทางการเมือง หลังเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ต่อการ “ปรับครม.” ส่อเค้าเป็นจริง หลังเกิดกระแสข่าว สะพัดว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ.63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลไปหารือที่ห้องรับรอง รัฐสภา อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร่วมหารือ โดย พล.อ.ประยุทธ์ แจ้งว่าจะมีการปรับ ครม.เพื่อปรับปรุงการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพ แต่จะเป็นเมื่อไหร่ ยังบอกไม่ได้

ทั้งนี้ นายอนุทินแจ้งว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยขอรักษาโควตาเดิม ไม่ขอขยับเปลี่ยนแปลง แม้ขณะนี้ พรรคจะได้ ส.ส.เพิ่มขึ้นมา จากการย้ายมาของ สส.พรรคอนาคตใหม่ กว่า 20 เสียง แต่ไม่ขอเรียกร้องเพิ่มตำแหน่ง และขอให้เป็นเรื่องที่นายกฯพิจารณา

ส่วนรมต.ที่จะโดนปรับครม. ต่างออกมา ปกป้องเก้าอี้ โดย นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า “เล่นการเมืองแบบเดิมๆจะเป็นตัวอย่างให้คนรุ่นใหม่ได้อย่างไร? ที่ผ่านมาผมพูดแต่เรื่องงานที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯ หลีกเลี่ยงไม่พูดการเมือง แต่มีข่าวออกมาเป็นระยะว่าจะมีการปรับ ครม.หลังอภิปราย และมีชื่อผมติดอยู่ในโผถูกปรับออกด้วยเหตุผล  อยู่ 3 ข้อ คือ

1.ผมขาลอยในพรรค ไม่ได้เป็น ส.ส. และไม่ได้จ่ายเงินให้พรรค 2.ผมไม่มีฐานเสียงส.ส.ในมือ และ 3.ผมไม่เข้าพรรค และไม่มีพวกในพรรค วันนี้ขอแสดงความเห็นส่วนตัวในฐานะที่ถูกทั้งคนในพรรคและสื่อพาดพิงอยู่เสมอครับ” …”คิดว่าหากมีปรับ ครม. และคัดเลือกรัฐมนตรีด้วย 3 เหตุผลนี้ ประเทศไทยคงไม่มีทางหลุดจากวงจรอุบาทว์ทางการเมือง ที่สร้างปัญหาซ้ำซากแบบเดิมที่ยังปรากฏอยู่ทุกวันนี้ได้”

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปรับ ครม.ว่า แม้นายกฯ และ 5 รัฐมนตรีจะได้รับความไว้วางใจจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรสอบผ่าน แต่ยังมีคะแนนเสียง จากกระแสสังคมว่า จะให้ความไว้วางใจกับรัฐมนตรีที่ถูก อภิปรายทั้งหมดหรือไม่ ถ้ากระแสสังคมไม่ยอมรับย่อมมีผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล อยากให้นายกฯรับฟังกระแสสังคมด้วย และต้องนำข้อมูลจากการอภิปรายมาพิจารณาแก้ไข และปรับปรุงการทำงานของรัฐบาล