“หน่อย-จตุพร” เสนอแนวทางสู้โควิด-19 ป้องนายกฯ ไม่ใช่ “รัฐประหารเงียบ”

ยามบ้านเมือง เกิดวิกฤต! จากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ถ้าแต่ละฝ่าย มัวจ้องจับผิด หาเรื่องโจมตีกันอย่าง เอาเป็นเอาตาย เห็นทีประเทศชาติคงไปไม่รอด  แต่วันนี้บ้านเมืองยังพอมีความหวังเมื่อ ศัตรูคู่อาฆาต ที่เคยจ้องถล่ม รัฐบาล  “ลุงตู่” มาตลอด 5 ปี หลังจากการรัฐประหาร หันมาเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาในเชิงสร้างสรรค์

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ !

“คุณหญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ๋ ประธานยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย(พท.) โพสต์ นเฟซบุ๊กส่วนตัว นอกจากให้กำลังใจหมอ-พยาบาล ตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนแล้ว ยังมีข้อเสนอถึงนายกฯ ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) สู้ COVID-19 ใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เร่งดำเนินการ 5 เรื่อง ให้เร็วที่สุด

1) จัดสรรงบกลางให้โรงพยาบาลให้มากพอที่จะจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ที่ขาดทั้งหมด กระจายอำนาจให้โรงพยาบาลจัดซื้อเอง โดยแก้ระเบียบข้อบังคับต่างๆ ชั่วคราวในภาวะวิกฤต ซึ่งขณะนี้รัฐบาลจัดสรรงบกลางให้สาธารณสุขเพียง 1,500 ล้านบาท จากงบกลาง 4 แสนกว่าล้านบาทนั้น ไม่เพียงพอกับการต่อสู้กับ COVID-19 ขอย้ำว่า ให้ทุ่มงบกลางให้โรงพยาบาลและแพทย์ให้มากที่สุด

2) เร่งแก้ไขปัญหาคอขวด การนำเข้าอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็น ทั้งแก้ระเบียบ และสั่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ เปิดทางในการนำเข้าอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็น เป็นการชั่วคราวในภาวะฉุกเฉิน

3) เพิ่ม “เบี้ยเสี่ยงภัย” ให้นักรบเสื้อกาวน์ ทั้งแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ไม่ต่ำกว่า 2 เท่า รวมทั้งการดึง อสม.มาช่วยในชุมชน พร้อมทั้งจัดเบี้ยเลี้ยงให้ด้วย

4) ออกคำสั่งห้ามส่งออกอุปกรณ์ทุกชนิดที่ผลิตได้ในประเทศ และจำเป็นต้องใช้ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคอย่างเด็ดขาด ทั้งหน้ากากอนามัย และอุปกรณ์การแพทย์อื่นๆ ที่ในประเทศต้องการใช้

5) ระมัดระวังไม่ให้กลุ่มแสวงหาผลประโยชน์ กักตุน และปั่นราคาสินค้า เช่นเดียวกับที่ทำกับ หน้ากากอนามัย, เจลแอลกอฮอล์, ไข่ไก่ ฯลฯ ได้อีกต่อไป

เช่นเดียวกับ  จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แสดงความเห็น การจัดรายการลมหายใจ พีซทีวี เวทีทัศน์ ถึงกรณีรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินว่า การทำสงครามครั้งนี้เป็นเรื่องทางการแพทย์ที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชน

ไม่ใช่สงครามทางการทหาร หลายคนในโลก Social Media ได้แสดงความกังวลว่านี่จะเป็นการ“รัฐประหารเงียบ”หรือไม่นั้น ส่วนตัวบอกได้เลยว่าไม่เชื่อว่าจะเป็นการรัฐประหารเงียบ เพราะในประเทศไทยไม่มีคนบ้าที่จะไปยึดอำนาจจาก โควิด-19

ดังนั้น บางเรื่องอย่าแสดงความวิตกไปจนเกินเหตุ หากใครไปคิดเช่นนั้นเชื่อว่า สติสัมปชัญญะก็แย่เต็มที สิ่งที่ทางการแพทย์ ร้องขอต่อประชาชน คือ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ

“ผมเชื่อมาตั้งแต่ต้นว่า หากแต่ละคนได้แสดงความรับผิดชอบ และรัฐบาลเองจะต้องแสดงความเชื่อมั่นว่า ประชาชนที่เข้าข่ายสงสัยว่าติดเชื้อ ต้องไม่มีภาระเรื่องค่าใช้จ่าย ไม่ว่าการตรวจ หรือการรักษา ซึ่งช่วงเวลานี้ก็เป็นเช่นนั้น เพียงแต่ว่าการสร้างความเชื่อมั่น เพื่อให้เกิดมีความกล้า ส่วนประชาชนที่ไม่เข้าข่ายว่าติดเชื้อก็อย่าวิตกจนเกินไป”

การออกมาเสนอแนวทางสู้โควิด-19 อย่างสร้างสรรค์เช่นนี้ คือสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องการเห็น อย่างยิ่ง!

# สุดารัตน์ เกยุราพันธ์# จตุพร พรหมพันธ์# รัฐประหารเงียบ# โควิด-19# สร้างสรรค์#