ที่สุดแล้ว คดี “ฟอกเงินกรุงไทย” จะจบอย่างไร ?

168

คอการเมือง แฟนพันธุ์แท้ คงติดตามกันมานานว่า “คดีฟอกเงินกรุงไทย” ที่ “โอ๊ค” นายพานทองแท้ ชินวัตร เป็นจำเลย ร่วมกับ นายทักษิณ ชินวัตร ที่สุดแล้วจะจบอย่างไร หลังจาก ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิพากษา ยกฟ้อง และอัยการจะอุทธรณ์ต่อหรือไม่ ?

ล่าสุดก็มีคำตอบเมื่อ ประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แจงว่าคดีนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิพากษายกฟ้อง เมื่อคัดถ่ายคำพิพากษามาแล้ว อัยการสำนักงานคดีพิเศษ ซึ่งฟ้องคดี ก็ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาสำนวนอย่างละเอียด

โดยในที่สุดคณะทำงานสำนักงานอัยการคดีพิเศษพิจารณาแล้วเห็นว่า คำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตฯ “ชอบแล้วที่ยกฟ้อง”

จึงเห็นด้วยกับคำพิพากษา จากนั้นเสนอเห็นควร “ไม่อุทธรณ์”ไปที่ สำนักงานอัยการคดีศาลสูง สำนักงานคดีศาลสูงมี มนต์ชัย บ่อทรัพย์ เป็นอธิบดีอัยการฯ ก็ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 5 คน ร่วมกันพิจารณาสำนวนเช่นกัน

โดยทั้ง 5 คน เห็นเป็น “เอกฉันท์” เห็นพ้องต้องกันว่า คำพิพากษาของศาลที่ยกฟ้อง “พานทองแท้” ว่าไม่ได้กระทำผิดนั้นชอบแล้ว พูดง่ายๆ คือ ทั้ง อัยการคดีพิเศษ และ อัยการคดีศาลสูง เห็นด้วยกับคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตฯ ที่ยกฟ้อง

แต่… คำถามที่ตามมา คือ มันจะจบหรือไม่ ???

ฟังว่า โดยหลักการขณะนี้คดียังอยู่ระหว่างพิจารณา ถือว่าไม่ถึงที่สุด สามารถไปอีกหลายขั้นตอนตามกฎหมาย จากนี้สำนวนจะถูกเสนอไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ

และขึ้นอยู่กับ “ดีเอสไอ” จะพิจารณาเห็นแย้งหรือเห็นด้วย ถ้าเห็นด้วยกับอธิบดีอัยการศาลสูงก็จบ ไม่ต้องเสนอให้อัยการสูงสุดชี้ขาด แต่ถ้าเห็นแย้งก็จะไปที่อัยการสูงสุด

คดีนี้อัยการยื่นฟ้อง “พานทองแท้” เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2561 จากกรณีรับโอนเงินเป็นเช็คจำนวน 10 ล้านบาทเข้าบัญชี ซึ่ง “โอ๊ค” ถูกกล่าวหาว่าเงินนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำจากการทุจริตปล่อยกู้สินเชื่อระหว่างธนาคารกรุงไทยกับเอกชนกลุ่มกฤษดามหานคร ที่มี วิชัย กฤษดาธานนท์ ผู้บริหารกฤษดามหานคร กับ รัชฎา กฤษดาธานนท์ ลูกชายของวิชัย และอดีตคณะผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ตกเป็นจำเลย ซึ่งต่อมาถูกพิพากษาจำคุก

ว่ากันว่า พอรองโฆษกฯ แจกแจง ก็มีคำถามจากสื่อเป็นชุด สงสัยระคนแปลกใจ เช่น ถึงคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตฯ ที่เป็นศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่มีองค์คณะผู้พิพากษาท่านหนึ่งทำความเห็นแย้งท้ายคำพิพากษาให้ลงโทษ “พานทองแท้” ถูกนำมาพิจารณาด้วยหรือไม่

และอีกประเด็นที่น่าสนใจคือ การอนุมัติเงินกู้ครั้งนั้น นายอุตตม สาวนายน เป็น1ใน5ของ ผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ที่ร่วมลงนาม ปล่อยสินเชื่อให้กับ นายพานทองแท้ด้วย

ปกติธรรมดาแล้ว อัยการที่เปรียบเป็นทนายของแผ่นดิน เมื่อคดีนี้อัยการเป็นผู้สั่งฟ้องเอง ทำไมไม่ไปให้สุดทาง?

พอสงสัยกันมาก ท่านก็โยนว่าเป็นเรื่องที่ลงลึกในรายละเอียดไม่ได้… เมื่อถามว่าหากประชาชนมีความข้องใจจะต้องแถลงชี้แจงรายละเอียดหรือไม่ ท่านก็ว่าอีกว่า ที่ศาลยกฟ้องโดยคำพิพากษาของศาล ศาลตัดสินอย่างไร ท่านพิจารณาโดยความบริสุทธิ์ ยุติธรรมอยู่แล้ว

สิ่งที่อัยการเราเห็นก็คือสิ่งเดียวกับที่ศาลท่านยกฟ้อง กระบวนการทั้งหมดมีการตรวจสอบละเอียดรอบคอบ รัดกุมอยู่แล้ว โดยเฉพาะการที่ศาลพิพากษาตัดสินมาอย่างนั้นก็แสดงว่าศาลท่านได้พิจารณาอย่างละเอียดแล้ว

งานนี้ยิ่งตอบยิ่งไม่เคลียร์ คอการเมือง ทั้งหลายก็อดคิดไม่ได้ว่า คล้ายๆ อัยการพยายามจะปัดให้พ้นส่วนที่จะรับผิดชอบในหน้าที่ที่ควรจะเป็นหรือไม่?

สุดท้ายแล้วเป็นปฏิบัติการ โยนกลอง ไปที่ดีเอสไอหรือเปล่า?

พวกที่ชอบจินตนาการก็คงคิดต่อไปกันต่างๆ นานาว่าอัยการไม่อุทธรณ์ เป็นเพราะ “โอ๊ค” นามสกุล “ชินวัตร” เส้นใหญ่ หรือมีการเกี้ยะเซี้ยะ ตั้งธงกันไว้แล้ว?

เอาเป็นว่า รอคอยกันมานาน ก็ขอให้รอกันอีกสักนิด ใกล้ถึง บทสุดท้าย ตอนอวสานแล้ว ให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ.ทำหน้าที่ ไปตามขั้นตอนก็แล้วกัน

ที่สำคัญ รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง สมศักดิ์ เทพสุทิน อย่าเข้าไปยุ่งก็แล้วกัน !

#พานทองแท้ ชินวัตร #คดีฟอกเงินกรุงไทย #ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง # ดีเอสไอ