ติดคุกไปก่อน!’บังเหร๊าะ’เอเย่นต์ยาบ้าหาดใหญ่ สุดเลว ทิ้งเมียรับเคราะห์

302

ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ ตรวจค้นบ้าน “บังเหร๊าะ” เอเยนต์ค้ายาเสพติด ซึ่งเป็นลูกจ้างเก็บขยะของเทศบาลเมืองคลองแห แต่พบแค่เมียพร้อมยาบ้า 1,250 เม็ด และยาไอซ์ 250 กรัม ส่วน “บังเหร๊าะ” ไหวตัวทันทิ้งเมียให้รับเคราะห์แทน

เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (9 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นำโดย พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณโก ผกก.สภ.หาดใหญ่ พ.ต.ท.ธนวัต เส้งสุย รอง ผกก.สส. เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 45 หมู่ 9 ชุมชนทุ่งน้ำ ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นบ้านของเอเยนต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในชุมชนทุ่งน้ำ จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบ น.ส.ไวด๊ะ หรือยู้ บิลเหล็ม อายุ 36 ปี อยู่ภายในบ้าน จึงควบคุมตัวเอาไว้ ส่วนนายอับป๊ะเหราะ หรือบังเหร๊าะ ปลัดสิ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นสามี และทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาลเมืองคลองแห ตำแหน่งพนักงานเก็บขยะ ไม่ได้อยู่ในบ้าน ซึ่งคาดว่าน่าจะไหวตัวทันหลบหนีไปก่อนแล้ว


จากการตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 1,250 เม็ด และยาไอซ์ 250 กรัม อาวุธปืนยาวอัดลม 1 กระบอก และเครื่องชั่งดิจิทัล จึงยึดไว้เป็นของกลาง แต่จากการสอบสวน น.ส.ไวด๊ะ ปฏิเสธว่าทั้งยาบ้า และยาไอซ์เป็นของสามีที่นำมาเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า เพื่อเอาไว้เสพและขาย โดยลูกค้าเป็นกลุ่มลูกจ้างเก็บขยะของเทศบาลเมืองคลองแห ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด พร้อมกับร้องไห้ตลอดเวลา และบอกว่าอยู่กินกับสามีมา 6 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นหญิง 1 คน และชาย 1 คน และเริ่มค้ายาเสพติดมาได้ 1 ปี เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว


แต่อย่างไรก็ตาม จากการตรวจข้อมูลเอกสารการซื้อการขาย เจ้าหน้าที่พบว่า น.ส.ไวด๊ะ มีส่วนร่วมกับการขายยาบ้า และยาไอซ์กับสามีด้วย เพราะเป็นคนทำบัญชีซื้อขายยาเสพติดด้วยตัวเอง จึงแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

โดยหลังการจับกุมตำรวจได้ให้ น.ส.ไวด๊ะ โทรศัพท์ไปหาบังเหร๊าะ สามี ซึ่งบันทึกชื่อในมือถือว่าบังดิ๊ก ซึ่งก็ยอมรับสาย พร้อมกับร่ำไห้อ้อนวอนให้สามีกลับมามอบตัวกับตำรวจ และรับผิดชอบกับยาบ้า และยาไอซ์ที่เก็บเอาไว้ เพื่อที่ตัวเองจะได้ออกไปดูแลลูก แต่สามีกลับปฏิเสธ และเงียบไป อ้างแค่ว่ามีคนเอามาฝากไว้ ก่อนจะตัดสายไป และเมื่อให้โทร.กลับไปอีกครั้ง แต่ทีนี้ตำรวจได้สอบถามเอง ซึ่งบังเหร๊าะก็บอกเหมือนเดิมว่ามีคนเอามาฝากไว้ และบอกว่ารักภรรยาแล้วก็เงียบไป

ทั้งนี้ แม้จะไม่เข้ามามอบตัว และปล่อยให้ภรรยารับเคราะห์แทน แต่ตำรวจก็จะขออนุมัติศาลจังหวัดสงขลา เพื่อออกหมายจับ และจะเร่งติดตามจับกุมตัว ซึ่งเชื่อว่ายังคงกบดานอยู่ในพื้นที่