คนรักษาการตำแหน่งมัสยิดต้นสน ใช้จ่ายเงินของมัสยิดจำนวนมาก 1 ปี 4 ล้านบาท จ่ายครู-เจ้าหน้าแพงสุดเว่อร์ แต่สุดท้ายอาจต้องคืนเงิน หากตรวจสอบพบ กระทำโดยมิชอบ
วันที่ 4 สิงหาคม ภายหลัง คณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร(กอ.กทม.) เห็นชอบให้นายปรีชา แสงวานิชย์ พ้นจากตำแหน่งรักษาการคอเต็บมัสยิดต้นสน และรายงานผลการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินนั้น นายสุทธิพงษ์ ชื่นภักดี ซึ่งทำหน้สที่รักษาการฝ่ายการเงิน ได้นำรายละเอียดค่าใช้จ่าย ที่ก่อนหน้านี้นายปรีชา บอกว่า เป็นความลับ มาติดที่บอร์ดประชาสัมพันธ์มัสยิดต้นสน หลังสัปบุรุษ เห็นตัสเลขค่าใช้จ่าย ถึงกับอึ้งที่มีการใช้จ่ายเป็นเวินจำนวนมากเดือนละ 2-3 แสน บางเดือน 5 แสนบาท และไม่มีรายบะเอียด มีแต่ตัวเลขกลมๆ อาทิ สมนาคุณเจ้าหน้าที่เดือนละ73,000 บาท สมนาคุณครู ประจำศูนย์จริยธรรม ที่นายปรีชา ตั้งตัวเองเป็น ผู้อำนวยการ นายซุกรี่ บันบา เป็นครูใหญ่ เดือนละประมาณ 3 แสนบาท โดยกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ศูนย์จริยธรรมฯได้ใช้จ่ายสมนาคุณครูหลายล้านบาท
ขั้นตอนการใช้เงินของมัสยิดต้นสน จะมีการเบิกจ่ายเงินของมัสยิดมาทดลองจ่ายครั้งละประมาณ 1 ล้านบาท ลงนามเบิกเงินโดยนายวิบูลย์ มุกตารี รักษาการอิหม่าม ร่วมกับนายปรีชา และบุคคลอื่นรวม 3 คน มีการแต่งตั้งนายสุทธิพงษ์ ดูแลการเบิกจ่าย ที่ถือว่า เป็นไปอย่างหบะหลวมมาก โดยนายปรีชา จะเป็นคนทำเรื่องเบิก นำไปจ่ายให้บุคคลต่างๆ ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดออกมา
นอกจากค่าสมนาคุณครู เจ้าหน้าที่ เดือนละ 2-3 แสนแล้ว ยังมีการชงเรื่อง จัดซื้อ จัดจ้าง หลายโครงการ อาทิ โครงการกุรบ่าน ใช้เงินไปกว่า 500,000 บาท โครงการตัดต้นไม้ โครงการทาสีรั้ว การล้างเก็บกวาดมัสยิด เป็นตัน โดยเฉพาะในช่วงโควิด ที่มีการปิดโรงเรียน กลับมีการใช้เงินสมนาคุณครูมากกว่าในช่วงสถานการณ์ปกติเสียอีก
‘ข้อเท็จจริงตามเอกสารที่เอามาปิดประกาศ
10 เดือน ใช้ไปประมาณ 4 ล้านบาท ลองคิดดู ในช่วงที่โควิท ทั้งภาครัฐบาล และ สำนักจุฬาราชมนตรี สั่งปิดโรงเรียน รวมถึงศูนย์อบรมศาสนาอิสลามและจริยธรรมประจำมัสยิดทั่วประเทศ รวมถึงที่ศูนย์อบรมฯของมัสยิดต้นสนด้วยเช่นกัน แต่มีการไลท์สดกันหลายคน เพราะได้รับเงินกันเยอะ ทั้งๆที่ปิดศูนย์อบรมฯ ไม่มีนักเรียนมาเรียนเลยสักคนเดียว ไม่มีผู้ปกครอง ไม่มีนักศึกษาผู้ใหญ่ จึงมีคำถามเกิดขึ้นในใจของคนต้นสนว่า พวกคุณมาทำอะไรกันทีนี่(อาคารเรียนของมัสยิดต้นสน) ที่ไลท์สดกัน ไม่มีนักเรียนเข้ามาดูเลย คนต้นสนก็ไม่มีใครดู เป็นการกระทำที่น่าเกลียดมากๆ จะหาเงิน(เงินวากัฟของมัสยิด) กันอย่างเดียวเลย’สัปบุรุษมัสยิดต้นสน ให้ข้อมูล
มีรายงานว่า รายละเอียดที่มีการนำมาเปิดเผย เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ยังมีรายละเอียดการใช้เงินอีกจำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้ มัสยิดต้นสนมีรายได้จากการเก็บผลประโยชน์จากที่ดินวากั๊ฟเดือนละหลายแสนบาท คณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพฯ ได้แต่งตั้งรักษาการ 3 คนมาดูแล บริหารมัสยิด หลังการปลดอิหม่ามเฟาซัน หลังปูเต๊ะ ออกจากตำแหน่ง ไม่มีการคัดเลือกคณะกรรมการที่หมดวาระ รวมถึงการเลือกอิหม่ามคนใหม่ แม้เวลาล่วงเลยมาหลายปี ปล่อยให้มีการใช้จ่ายเงินของมัสยิด โดยปราศจากการควบคุม
ทั้งนี้ตามพรบ.บริหารองค์กรศาสนาอิสลาม 2540 กำหนดให้อิหม่าม คอเต็บ บิหล่าน เป็นคำแหน่งทางศาสนา แต่ให้มีคณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิด โดยการเลือกของสัปบุรุษมาทำหน้าที่ฝ่ายต่างๆ รวมถึงฝ่ายการเงิน
การที่นายปรีชา ซึ่งรักษาการคอเต็บ มาทำหน้าที่ดูแลการเงินนั้น กฎหมายไม่อนุญาตไว้ สุ่มเสี่ยงว่า จะขัดต่อกฎหมาย รวมทั้งการแต่งตั้งยุคคลมาดูแลด้านการเงิน ก็ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย สุ่มเสี่ยงว่าจะถูกดำเนินคดีได้ และการใช้จ่ายเงินทั้งหมด อาจเป็นโมฆะ อาจจะต้องชดใช้เงินที่จ่ายไปคืนทั้งหมด เรื่องอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อกฎหมายของทนายความว่า จะเข้าข่ายความผิดข้อหาอะไรบ้าง และความบกพร่องทั้งหมด อาจเกี่ยวโยงไปถึงคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพฯ ที่ไม่กำกับดูแลคนที่แต่งตั้งเข้ามา และดึงเรื่องไม่ให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการมัสยิด เป็นหน่วยงานที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
สำหรับศูนย์จริยธรรม ที่เป็นช่องทางการผ่องถ่ายเงิน อาจปิดเป็นการชั่วคราว รอจนกว่าจะมีการคัดเลือกคณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิดจนแล้วเสร็จ หลังวันที่ 13 กันยายน เพื่อที่จะให้คณะกรรมการชุดใหม่ได้แต่งตั้งกรรมการบริหารศูนย์อบรมฯมัสยิดต้นสนให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะที่ผ่านมา อาศัยลูกมั่ว ไม่มีกฎหมายใด หรือ ระเบียบใดรองรับ การเป็นผอ.ของปรีชา จะต้องให้อิหม่าม และกรรมการมัสยิดแต่งตั้งเท่านั้น
