‘เทพไท’ ยึดเวทีประชาพิจารณ์’กระท่อม’ ซัดหนัก’บิ๊กตู่’ทั่วนครฯ ขอกม.ผ่านก่อนยุบสภา

533

อนุกรรมาธิการปลดล็อกกระท่อม เปิดเวทีประชาพิจารณ์นครศรีฯ 8 เวที ชาวบ้านเห็นด้วยยกเลิกเป็นยาเสพติด ‘เทพไท’ อาศัยเวที ซัดหนัก ‘พล.อ.ประยุทธ์’ หนุนนักศึกษาชุมนุม ดันแก้รัฐบาลธรรมนูญไม่ให้ ‘บิ๊กตู่’เอาเปรียบ

คณะอนุกรรมาธิการศึกษาแนวทางแก้ปัญหาการใช้พิชกระท่อมอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช เป็นประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้จัดเวทีประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านผู้บริโภคใบกระท่อม ระหว่างวันที่ 8-10 สิงหาคม กำหนดวันละ 3 เวที อาทิ วันที่ 8 สิงหาคม เวลา 10.00น. อ.พระพรหม ที่ ร.ร.พระพรหมพิทยานุส รณ์ เวลา 13.00น. อ.เฉลิมพระเกียรติ ที่วัดสระไคร และเวลา 15.00น. อ.เชียรใหญ่ ที่ศาลาหมู่บ้านช่องขาด ต.ไสหมาก วันที่ 9 สิงหาคม
เวลา 10.00น. อ.ร่อนพิบูลย์ ที่วัดทุ่งค้อ ต.ควนพัง เวลา13.00น. อ.จุฬาภรณ์ ที่ วัดสำนักขัน เวลา 15.00น. อ.ชะอวด ที่ ร.ร.ชะอวด และในวันที่ 10 สิงหาคม เวลา 10.00น. อ.หัวไทร อบต.ทรายขาว เวลา 13.00น. อ.ปากพนัง ที่วัดบางบูชา ต.เกาะทวด แต่ละแห่งมีชาวบ้าน ร่วมรับฟัง และร่วมออกความเห็นประมาณ 300 คน

นายเทพไท กล่าวว่า การปลดล็อกกระท่อมจากบัญชียาเสพติด มีการต่อสู้กันมานาน ในสภาฯ นายภิญญา ช่วยปลอด อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พยายามผลักดันไม่ให้เป็นยาเสพติด เพราะการบริโภคกระท่อมเป็นวิถีชีวิตของคนไทย โดยเฉพาะคนภาคใต้ ที่ปลูกกันตามชายคา ช่วยให้ขยันทำงาน ไม่ปวดเมื่อย แต่เมื่อขึ้นเป็นบัญชียาเสพติด จึงถูกเจ้าหน้าที่จับกุม

‘ช่วงนี้เป็นกระแสที่มีโอกาสจะทำได้สำเร็จ เพราะพรรคภูมิใจไทย เสนอปลดล็อคกัญชา ผมจึงเสนอกระท่อมเข้าไปด้วย เข้าสภาฯวันแรก ผมก็อภิปรายเรื่องนี้ เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านมาก จากการถูกตำรวจจับกุม ต้องเสียค่าปรับจำนวนมาก ในฐานะส.ส.ต้องไปช่วยชาวบ้าน จึงต้องเสนอให้ปลดล็อก และสภาฯได้ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาทั้งเรื่องกัญชา กัญชง และพืชกระท่อม และได้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการขึ้นมาศึกษา พืชแต่ละชนิด ในส่วนของกระท่อม ให้ผมเป็นประธานอนุกรรมาธิการฯ ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการฯ ได้เชิญฝ่ายต่างมาให้ข้อมูลโดยเฉพาะสถาบันการศึกษา ที่ทำวิจัย พบว่า ไม่มีโทษต่อร่างกายและสมอง แต่จะช่วยให้มีความขยันทำงาน ช่วยแก้โรคเบาหวาน ความดัน รวมทั้ง สามารถลดน้ำหนักได้ด้วย ซึ่งจะเป็นพืชเศรษฐกิจในอนาคต’ นายเทพไท กล่าว

ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า คณะอนุกรรมาธิการฯ ได้เปิดเวทีประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้บริโภคใบกระท่อม นครศรีธรรมราช เป็นพื้นที่ๆชาวบ้านใช้พืชใบกระท่อมมาตั้งแต่โบราณ เป็นวิถีชีวิต เพื่อนำไปบัญญัติในร่างกฎหมาย

‘การปลดล็อกกระท่อมเดินมาถึงครึ่งทางแล้ว รัฐบาลถอดออกจากบัญชียาเสพติด แต่ยังติดที่กฎหมาย ซึ่งล่าสุดครม.ได้เห็นชอบกฎหมายให้ใบกระท่อม ไม่เป็นยาเสพติด แต่กฎหมายร่างมา 2-3 บรรทัด ไม่ครอบคลุม ผมจึงให้ฝ่ายกฎหมายร่างกฎหมายขึ้นมา เกี่ยวกับพืชใบกระท่อมเพียงอย่างใด กำหนดชัดเจนทุกขึ้นตอนว่า ถ้าปลูกเพื่อบริโภคเป็นอย่างไร ปลูกเพื่อการค้าอย่างไร ปลูกเพื่อทำยา เป็นอาหารเสริม เป็นเครื่องดื่มชูกำลัง แต่กำหนดชัดเจนว่า ถ้านำไปผสมเป็น4×100จะมีความผิดต้องดำเนินคดี’ ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวกับชาวบ้านบนเวทีประชาพิจารณ์

นายเทพไท กล่าวว่า ต้องการผลักดันให้กฎหมายพืชกระท่อมให้สำเร็จในรัฐสภาสมัยนี้ แต่ก็หวั่นๆว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะยุบสภาเสียก่อน เพราะตอนนี้มีนักศึกษาชุมนุม ก็ฝากถึงพล.อ.ประยุทธ์ให้กฎหมายพืชกระท่อมผ่านก่อน ค่อยยุบสภา

‘อีก 2 เรื่องที่ต้องการทำให้สำเร็จ คือการเพิ่มค่าตอบแทนให้อสม.เดือนละ 1,500 บาท สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ ได้กำหนดให้ 600 บาท ก็จะเสนอให้เป็น 1,500 บาท เพราะตอนหาเสียงกำหนดไว้ 1,200 บาท แต่พล.อ.ประยุทธ์ โอนให้ 1,000 บาทตกเบิก 3 เดือน 3 วันก่อนเลือกตั้ง และพรรคพลังประชารัฐหาเสียงไว้ว่าจะให้เดือนละ 5,000 บาท ภูมิใจไทย หาเสียงไว้ 2,500 บาท ก็ทำไม่ได้ หลอกชาวบ้าน การเสนอขึ้นเป็น 1,500 บาท จึงอยู่วิสัยที่ทำได้’ นายเทพไท กล่าว

ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า สนับสนุนการชุมนุมของนักศึกษา ในฐานะที่เป็นอดีตผู้นำนักศึกษา โดยเฉพาะประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็น ส.ว.เลือกนายกฯ เพราะเป็นเรื่องต่างตอบแทน พล.อ.ประยุทธ์ ตั้ง ส.ว. 250คน ให้ส.ว.เลือกตัวเองเป็นนายกฯ ถือเป็นการเอาเปรียบกันในทางการเมือง

นายเทพไท ให้สัมภาษณ์ว่า มั่นใจว่ากฎหมายใบกระท่อมจะผ่านสภา เพราะได้รับการสนับสนุนจากทุกพรรคการเมือง และในการมารับฟังความเห็นของชาวบ้านก็เพื่อต้องการทราบว่า ต้องการปลูกจำนวนกี่ต้น เด็กอายุเท่าไหร่ให้กินได้ เป็นต้น

‘ยืนยันจากผลการวิจัยของมหาวทยาลัยหลายแห่งที่มาให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการว่า พืชใบกระท่อม เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์หลายอย่าง ช่วยให้ขยันทำงาน แก้เบาหวาน ความดัน ตลอดจนลดน้ำหนักได้ เป็นพืชเศรษฐกิจในอนาคตที่จะสร้างรายได้ให้กับเกษตรและประเทศไทย’ นายเทพไท กล่าวในที่สุด