รองโฆษก พปชร.จี้ กองสลาก รื้อโควต้าหวย ยกเลิกสิทธิขรก. ให้ชาวบ้านเข้าถึง

167

รองโฆษก พปชร. จี้ บอร์ดกองสลากฯ รื้อโควต้า ผู้ค้าล็อตเตอรี่ใหม่ ตัดสิทธิข้าราชการ ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และ สร้างโอกาสการเข้าถึงให้ชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้าขายสลากตัวจริงอย่างเป็นรูปธรรม

นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะรองโฆษก พปชร.เปิดเผยว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากประชาชน เรื่องการให้สิทธิการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล แก่ข้าราชการ และพนง.รัฐวิสาหกิจ โดยพบว่ากลุ่มที่ได้สิทธิดังกล่าว ไม่ได้เป็นผู้ค้าสลากตัวจริง แต่นำไปขายต่อให้กับผู้ค้าสลากรายย่อย ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้สลากกินแบ่งรัฐบาลมีราคาขายเกินจริงในท้องตลาด

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า โควต้ารายชื่อผู้ค้าสลากรายย่อยที่ขึ้นทะเบียนซื้อจอง กับ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลประมาณ 160,000 ราย มีข้าราชการ และพนง.รัฐวิสาหกิจ ร่วมอยู่ด้วย คาดว่าอาจมีมากถึง 100,000 คน โดยกลุ่มคนมักขายช่วงต่อให้กับผู้ค้าสลากซึ่งเป็นยี่ปั๊ว ก่อนที่จะขายให้กับผู้ค้ารายย่อยที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าล็อตเตอรี่ตัวจริง จึงทำให้ราคาขายปลีก สูงขึ้นจากราคาที่กำหนด 80 บาท ผนวกกับล็อตเตอรี่ถูกคัดมาให้เป็นเลขชุดเดียวกัน หรือ เลขสวยจึงทำให้มูลค่าขายปลีกพุ่งขึ้นเป็นใบละ 100 ถึง 150 บาท

“กลุ่มข้าราชการ ไม่ควรจะมีโควต้าในรายชื่อผู้ค้าสลากรายย่อย เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับเงินเดือนประจำจากรัฐ ซึ่งการทำเช่นนี้เป็นการเอาเปรียบ และตัดโอกาสการเข้าถึงโควต้าของผู้ค้าสลากรายย่อย ที่ทำอาชีพดังกล่าวเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว โดยต้องเพิ่มโอกาสให้กลุ่มผู้ค้ารายย่อยได้จำหน่ายล็อตเตอรี่ในราคาตามกฎหมายคือ 80 บาท จากราคาขายส่งที่พุ่งสูงถึงใบละ 90 บาท ทำให้ต้องขายปลีกในราคาใบละ 100 -150 บาท ที่ผิดกฎหมาย และเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ค้ารายย่อย สุดท้ายแล้วผลกระทบจากเรื่องนี้จึงตกอยู่กับผู้บริโภคซึ่งเป็นชาวบ้านทั่วไป”

รองโฆษก พปชร. กล่าว และ ขอเรียกร้องให้ คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เร่งหาวิธีแก้ไขจัดสรรและตรวจสอบโควต้าผู้ค้าสลากรายย่อยใหม่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นผู้ค้าสลากตัวจริง และผู้บริโภค เป็นการแก้ไขการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ถือเป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมอย่างเป็นรูปธรรม

จึงขอสนับสนุน แนวทางการแก้ไขปัญหาสลากราคาแพงของ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) คุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ด้วยวิธีการหาผู้ค้าตัวจริง โดยให้ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด สั่งการไปยังนายอำเภอ ให้คนที่อยากเป็นผู้ค้าตัวจริง ลงทะเบียนเขียนคำร้องมา แล้วตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เขียนคำร้องนั้น หากมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กำหนด จึงจะพิจารณาแบ่งตามโควต้าการขายให้คนละ 5 เล่ม โดย 1 เล่มจะมี 100 ใบ เฉลี่ยมีต้นทุนที่ 70.40 บาท หรือ 7,040 บาทต่อ 1 เล่ม ซึ่งสามารถนำไปขายตามราคา ที่กฎหมายกำหนดได้คือไม่เกินใบละ 80 บาท ซึ่งจะทำให้มีกำไร 9.60 บาทต่อใบ