“ธนาธร”เย้ย!! จนท.รัฐหมดต้นทุนต้านม็อบ เตือนใช้ม.112เท่ากับราดน้ำมันเข้ากองไฟ

183

“ธนาธร” เผยม็อบ 25 พ.ย.โกรธ ข้อเสนอถูกเมิน ขยับเส้นชุมนุมเข้าใกล้สำนักงานทรัพย์สินฯ วอนฝ่ายความมั่นคงใช้ “ขันติธรรม” รับฟัง หยันอนุรักษ์นิยมหมดต้นทุนก่อ “รัฐประหาร” ฉะใช้ การนำ“ม.112” หวังไล่จับแกนนำเป็นการราดน้ำมันเข้ากองไฟ ยิ่งจับ ไม่จบ

วันที่ 24 พ.ย.63 ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น.2) สน.ดอนเมือง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีอาญาตามผิดตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 จากกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติดำเนินอาญาคดีถือหุ้นสื่อบริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งเปลี่ยนจาก สน.ทุ่งสองห้อง มาเป็นที่ บก.น.2

หลังการรายงานตัวแล้ว นายธนาธร ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 ที่สำนักงานทรัพย์สินฯ ว่า ขอให้ประชาชน ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคงใช้ขันติธรรม ลองฟังสิ่งที่นักเรียน นิสิตนักศึกษา ประชาชนพูด การที่พวกเขามาที่สำนักงานทรัพย์สินฯ เพราะข้อเสนอไม่ได้รับการรับฟัง อย่าลืมว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์ มีประชาชนร่วมลงชื่อเกือบแสนคน แต่เสียงของเขาไม่ถูกรับฟัง ไม่ถูกนำไปประกอบการพิจารณา “จึงไม่ต้องแปลกใจหรอกว่าทำไมพวกเขาถึงรู้สึกโกรธ ทำไมต้องขยับเส้นในการชุมนุม ในการพูด เพราะเสียงของพวกเขาที่เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออก เรียกร้องร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา ไม่ได้รับการตอบสนอง”

เมื่อถามว่าส่วนตัวมองว่าการชุมนุมจะบานปลาย หรือ เกิดรัฐประหารหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าจะบานปลาย เพราะไม่เชื่อว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะมีต้นทุนทางสังคม ต้นทุนทางการเมืองที่จะทำรัฐประหาร เพราะปี 2557 ได้ใช้ต้นทุนไปหมดแล้ว “เราเห็นชัดว่ารอบ 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีความพยายามปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง ความรุนแรง เพื่อเป็นข้ออ้างทำรัฐประหาร ผมเชื่อว่านักเรียน นักศึกษา ที่เคลื่อนไหวอยู่ด้านนอกนั้น มีวุฒิภาวะพอ และได้แสดงออกทุกครั้งที่ผ่านมาว่าการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงไม่เป็นผล” นายธนาธร กล่าว

เมื่อถามว่ามีการเตรียมนำมาตรา 112 (ม.112) กลับมาใช้ ตนเห็นว่า เป็นการราดน้ำมันเข้ากองไฟ เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะไล่จับผิด ไม่ใช่เวลามาจับแกนนำ ข้างฝ่ายอนุรักษ์นิยม ยังเชื่อว่าตนอยู่เบื้องหลัง ถือเป็นการประเมินและเริ่มต้นผิดที่จะจับแกนนำ จับ ธนาธร ,อานนท์, รุ้ง , เพนกวิน เข้าคุกให้ได้ แล้วทุกอย่างจบ มันไม่ใช่ ดังนั้นเมื่อตั้งต้นผิด คิดว่าจัดการแกนนำ ยัดคดีความได้แล้วจบ มันไม่จบ ไม่มีพวกแกนนำ ไม่มีธนาธร ก็มีคนอื่นขึ้นมา สิ่งที่รัฐควรทำคือเปิดใจให้กว้าง ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมอย่างมีวุฒิภาวะ การไม่ยอมรับความเป็นจริงไม่มีทางนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้ การแก้ไขปัญหาต้องยอมรับกันก่อนว่ามีปัญหาเกิดขึ้น ส่วนถ้าพรุ่งนี้ไม่จบ ทางออกจะเป็นอย่างไรนั้น ต้องไปถามผู้ชุมนุม

ส่วนกรณีที่เสื้อแดงจะมาร่วมเคลื่อนไหวด้วยกับเยาวชน อาจทำให้การควบคุมการชุมนุมเป็นไปอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้นนั้น นายธนาธร กล่าวว่า การชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญของประชาชน ดังนั้นถ้าหากเสื้อแดงจะมาชุมนุมด้วยก็เป็นสิทธิสามารถทำได้ รวมทั้งการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่มีความเห็นต่างหลายกลุ่มตนเองเชื่อว่าเป็นสิทธิ์ที่จะสามารถชุมนุมได้ แต่ตราบใดที่ต่างฝ่ายต่างแสดงออกด้วยเหตุผล ก็จะไม่เกิดการปะทะกัน และส่วนตัวไม่เชื่อว่าการรัฐประหารจะเป็นทางออก เพราะวิกฤตการเมืองครั้งนี้ก็เกิดจากการรัฐประหารเช่นกัน และไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้