“จุรินทร์” ระบุ พรรคปชป. พร้อมให้ความร่วมมือ จัดตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ ตามแนวคิดของ ประธานรัฐสภา ส่ง”เทอดพงษ์ ไชยนันท์” ร่วมเป็น กรรมการ เรียกร้องทุกฝ่ายใช้เวทีนี้ หาทางออกประเทศร่วมกัน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหน.พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงการแก้รัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้ได้ผ่านการพิจารณาขั้นรับหลักการวาระที่ 1 แล้ว และเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการในวาระที่ 2 ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 45 วัน หากผ่านการพิจารณาวาระที่ 2 แล้ว จึงจะนำกลับเข้าสู่ที่ประชุมร่วมรัฐสภาอีกครั้งเพื่อพิจารณาในวาระที่ 3 ซึ่งหากเป็นไปตามเงื่อนเวลาที่กำหนดไว้เดิม ก็คาดว่าคณะกรรมาธิการจะพิจารณาแล้วเสร็จในช่วงปลายเดือนมกราคม และเดือนกุมภาพันธ์ก็น่าจะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 3 ได้
และหลังจากนั้นจะต้องนำไปทำประชามติตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 256 ได้กำหนดไว้ ซึ่งจะต้องเกี่ยวพันกับกฎหมายประชามติด้วย ซึ่งนายจุรินทร์ระบุว่า มาถึงนาทีนี้กฎหมายประชามติยังไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะกฎหมายดังกล่าวได้ผ่านขั้นรับหลักการในวาระที่ 1 ของสภาไปแล้ว ซึ่งจะได้เข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 หากกฎหมายประชามติสามารถดำเนินการได้เร็ว ควบคู่ไปกับการแก้รัฐธรรมนูญ โดยจะสามารถมาบรรจบการบังคับใช้ได้ในเวลาที่ใกล้เคียงกัน เมื่อรัฐธรรมนูญผ่านวาระที่ 3 แล้วจำเป็นต้องทำประชามติ กฎหมายประชามติก็สามารถบังคับใช้ได้ การทำประชามติก็จะสามารถเกิดขึ้นได้
“สำหรับพรรคประชาธิปัตย์นั้น พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ และพร้อมผลักดันที่จะให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเกิดผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นได้จริง อะไรก็ตามที่เป็นปัญหาอุปสรรค และทำให้ต้องล่าช้าออกไปโดยไม่จำเป็น ประชาธิปัตย์ไม่สนับสนุนและไม่ประสงค์จะให้เกิดเหตุนี้ขึ้น เราถือว่าการแก้รัฐธรรมนูญเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาและผูกมัดคนทั้งประเทศ”
ส่วนการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ ที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ขอให้ฝ่ายต่างๆ ส่งรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องที่จะเป็นตัวแทนของทั้ง 7 ฝ่าย ไปยังสภาฯ โดยในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลได้เตรียมรายชื่อไว้แล้ว 2 คน สำหรับพรรคประชาธิปัตย์นั้น ได้ส่ง นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในการเข้าร่วมกับคณะกรรมการสมานฉันท์ จึงอยากเรียกร้องทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใช้เวทีคณะกรรมการชุดนี้ เป็นเวทีในการที่จะแลกเปลี่ยน และเสนอความคิดเห็น เพื่อนำไปสู่ความร่วมมือร่วมใจในการหาทางออกให้กับประเทศ ซึ่งก็ยังหวังว่า สำหรับบางฝ่ายที่ยังไม่ประสงค์ที่จะเข้าร่วม ก็อยากให้เข้าร่วม เพราะว่าตรงนี้ถือว่าเป็นเวทีกลางที่เปิดโอกาสให้ทุกฝ่าย แสดงความเห็นและหาทางออกประเทศร่วมกัน ถ้าไปปฏิเสธเวทีนี้ก็ยังนึกไม่ออกจนถึงขณะนี้ว่าเราจะไปใช้เวทีไหน พร้อมกันนี้ ยังได้ย้ำว่า ได้มอบหมายให้ผู้แทนของพรรคฯ ไปเสนอที่ประชุมถึงวิธีการหาข้อตกลงร่วมกันโดยให้ใช้วิธีการหาฉันทามติ หรือ การให้ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์เท่านั้น คือจะต้องไม่ใช้เสียงข้างมากไปบังคับเสียงข้างน้อย ทั้งนี้เพื่อให้เป็นการประชุมที่จะทำให้ความสมานฉันท์เกิดขึ้นได้จริง