นายกรัฐมนตรี โวลั่น โครงการ “คนละครึ่ง” เป็นความคิดของตนเอง ที่จุดประกายขึ้นมาจาก วิธีการดูแลเศรษฐกิจฐานราก ให้ “พ่อค้า แม่ขาย” อยู่ได้ และ ปชช.ได้ด้วย ก่อนโยนหลักการให้ ขรก.ระดับปฏิบัติไปต่อยอด แย้มอาจมีเฟส3-4 หลังปชช.นิยม
วันที่16 ธ.ค.63 เวลา 11.30 น. ที่ห้างไอคอนสยาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการคนละครึ่งเฟส 2 ที่เปิดให้ลงทะเบียนในวันเดียวกันนี้ ซึ่งปรากฏว่า สิทธิ์เต็มภายใน 2 ชั่วโมง โดย เมื่อเข้าโครงการแล้วต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าเข้าคุณสมบัติหรือไม่ ถ้าไม่เข้าคุณสมบัติก็ต้องเอาออก และเปิดให้เข้าโครงการกันใหม่ หาคนเข้ามาเพิ่มเติม และจะพิจารณาดูว่า งบประมาณเพียงพอหรือไม่ จำเป็นต้องทำต่อหรือเปล่า อาจจะมีเฟส 3 เฟส 4 ต่อไปก็ได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 และขึ้นอยู่กับการเงินการคลังของรัฐบาลด้วย ซึ่งทุกคนทราบดีว่ารัฐบาลผ่อนคลายให้ทุกอย่างแล้ว แต่ปัญหาของเราคือรายได้ นี่คือสิ่งที่รัฐบาลจำเป็นต้องทำ จะบอกว่ารัฐบาลไม่ดูแลเศรษฐกิจเลยมันไม่ได้ โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานรากระดับล่าง พ่อค้า แม่ขาย และเป็นสิ่งดีที่ภาคเอกชนได้นำพ่อค้าแม่ค้าเข้ามาหมุนเวียนขายในห้างสรรพสินค้า รวมทุกภาค 76 จังหวัด และจำเป็นต้องขอความร่วมมือภาคเอกชน แต่ตนไม่ได้ไปเอื้อประโยชน์อะไรให้เขาเลย เขาก็ทำของเขาไป นี่คือการนำนโยบายของรัฐบาลมา เราต้องรวมใจไทยสร้างชาติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ใครเป็นคนต้นคิดโครงการคนละครึ่งเปิดเผยได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คนคิดนะหรอ ตนในฐานะระดับนโยบาย แต่ก่อนจะมีโครงการต่างๆเข้ามา โดยจ่ายเงินให้ประชาชน ตนบอกไม่ได้ จ่ายข้างเดียวไม่ได้ มันต้องมีการจ่ายสมทบ ซึ่งขณะทำงานก็ไปคิดมาแล้วกลับมาตอบหลักการของคือต้องจ่ายสมทบ ให้เจ้าหน้าที่ไปคิดรายละเอียด ซึ่งไม่จำเป็นต้องคิดตรงนั้น ยิบยับ เขาต้องไปหารายละเอียดมาให้คุ้มค่า เราต้องการรักษางบประมาณของรัฐให้นานที่สุด การจ่ายเป็นระยะๆ และให้นโยบายว่าทุก 3 เดือน ต้องมีอะไรปล่อยออกมาให้เขา “นี่นายกฯทำงานอย่างนี้ ไม่จำเป็นต้องไปคิดข้างล่างเอง ไม่เช่นนั้นจะมีกระทรวงไว้ทำไม ผมบอกทุกอย่าง 1.จ่ายตรง ได้จ่าย 2. ถ้าจ่ายตรงไม่ได้ ถ้าใช้งบประมาณสูงก็ต้องจ่ายสมทบ นี่คือหลักการของผม แต่จะทำอย่างไรก็ไปทำมา” พลเอกประยุทธ์ กล่าว