เปิดอก!!แจงเหตุทิ้ง Nation “สนธิญาณ”ชี้ อุดมการณ์ไม่ตรงกัน ลั่นเปิดตัวTOP TVลุยข่าวมค.64

129

“สนธิญาณ” เปิดอก แจงเหตุผล ยกทีมผู้ประกาศลาออกจาก “เนชั่นทีวี” ลั่นที่ผ่านมา ไม่ได้พูดอะไร เพราะถือคติ “เสือไม่เห่า” เผยทำงานสื่อมาค่อนชีวิต และ จะทำต่อไป พร้อมเชิญชวน แฟนรายการ ติดตามผลงาน ในนาม TOP TV ม.ค.ปี64

วันที่ 16 ธ.ค.63 สถาบันทิศทางไทย-Thai Move Institute ได้เผยแพร่การแถลงข่าวของ นายสนธิญาณ ชื่นหฤทัยในธรรม ถึงสาเหตุของประกาศลาออกจากช่องเนชั่นทีวีช่อง 22 และการเปิดช่องใหม่ร่วมกับทีมข่าวอีก 7 ชีวิต คือ 1.น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก 2.นายสันติสุข มะโรงศรี 3.นายสถาพร เกื้อสกุล 4.น.ส.อุบลรัตน์ เถาว์น้อย 5.นายวรเทพ สุวัฒนพิมพ์ 6.นายกนก รัตน์วงศ์สกุล และ 7.นายธีระ ธัญไพบูลย์

ทั้งนี้ นายสนธิญาณ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนไม่พูด ไม่ใช่ว่ากลัว หรือไม่มีทางไป แต่ถือคติเสือไม่เห่า เพราะเกิดมาเป็นเสือ ส่วนที่เข้าไปร่วมงานที่เนชั่นทีวี เพราะถูกกราบกราน ขอร้องให้เข้าไปช่วยบริหาร ไปช่วยแก้วิกฤต และไม่ได้เข้าไปเฉยๆ เอาเงินที่ตัวเองขายกิจการไปลงทุนด้วย 30 ล้าน วันนี้ยังค้างคาอยู่ 15 ล้าน เพื่อไปเริ่มทำในบริษัทที่ขาดทุนสะสมเป็นพันล้าน ซึ่งก่อนหน้าที่จะเข้าไปขาดทุนอยู่ 200 กว่าล้านบาท จนสามารถกลับมามีกำไรปริ่มน้ำได้ ขณะที่ทีวีช่องอื่นขาดทุน​ ต้องเอาพนักงานออก หรือ เลิกกิจการไป แต่ที่เนชั่นแจกโบนัส

ชีวิตตนทำข่าวมาประสบความสำเร็จ เป็นคนคิดค้นเริ่มต้นกระบวนการพัฒนาข่าวสารในประเทศนี้ นับตั้งแต่เปิดคลื่นข่าววิทยุ 24 ชั่วโมงเป็นเจ้าแรก ทำข่าวชุมชนร่วมด้วยช่วยกันเป็นเจ้าแรก จนต่างชาติ นานาชาติมาดูงาน ทำข่าว SMS ร่วมกับบริษัท AIS เป็นคนแรกของโลก จนบริษัทที่สังกัดอยู่มีรายได้เป็นพันล้าน ทำทีวีดาวเทียมทีนิวส์ทีวีเรตติ้งเป็นอันดับหนึ่ง มีกำไรเงินทองไหลมาเทมา จนสามารถสร้างตึกของตัวเองได้ 20 – 30 ล้าน โดยใช้เงินกำไรเพียงปี 2 ปีเท่านั้น

ดังนั้นความสำเร็จในการทำเนชั่นทีวี จึงไม่ใช่ความฟลุ๊ค แต่เป็นการสร้างเสริมประสบการณ์ จากการทำงานข่าวมาอย่างยาวนาน แต่การที่ก้าวออกมาเพราะอุดมการณ์ไม่ตรงกัน ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่ตนบอกทำถูก หรือสิ่งที่กำลังอยู่ผิด เพราะไม่ว่าตนจะพูดอะไรออกไปความจริงก็จะเป็นความจริง ซึ่งจะปรากฏขึ้นในอนาคตข้างหน้า และจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ให้คนข้างหลังจดจำ ดังนั้นอนาคตข้างหน้า ที่มีข่าวว่าตนจะแถลงข่าววันที่ 16 ธันวาคม และ จะออนแอร์วันที่ 21 ธันวาคม ตนไม่เคยพูดสักคำ เพื่อนฝูงคนรู้จัก ผู้ที่ห่วงใยมากมาย ถามมาตนก็บอกว่าดูให้ดี ตนยังไม่ได้พูด ไปเอาที่ไหนมารายงานข่าวกัน

“แต่ในวันนี้ผมพูดเองตัวจริงเสียงจริง ความพยายามใดๆ ในการที่ออกข่าวทั้งในเชิงบวกจากผู้ปรารถนาดี และในเชิงลบเพื่อที่จะบั่นทอนหรือทำลายความน่าเชื่อถือของทีมงานทั้งหมด ผมขอเรียนว่าเป็นความพยายามที่สูญเปล่า เพราะคนที่จะตัดสินใจคือผู้ชมและประชาชน ที่ปล่อยข่าวเรื่องผมไปเอาเงินมาจากรัฐบาล เอาเงินมาจากผู้มีอำนาจ ก็มีสิทธิ์จะพูดได้ เพราะที่ผ่านมาดูเหมือนว่าการรายงานข่าวของเนชั่นในยุคผมเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ แต่เป็นข่าวสารข้อเท็จจริงเราต่อสู้กับคนที่ต้องการจะเข้ามาทำลายธรรมชาติบ้านเมือง เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง เพื่อตอบสนองอำนาจที่ตัวเองอยากจะได้กลับมา ต่อสู้กับคนที่คนจะล้มล้างสถาบัน นั่นคือเหตุผลที่ต้องเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ ในการต่อสู้กับคนชั่วที่คิดจะทำลายลายบ้านเมือง” นายสนธิญาณ กล่าว

นายสนธิญาณ กล่าวว่า​รวมทั้งเนชั่นทีวี ยังตรวจสอบโครงการทุจริตต่างๆ มากมายอย่างชัดเจน ท่านที่ติดตามดู ย่อมเห็นได้อย่างประจักษ์ชัด รายได้ที่เข้ามาที่เนชั่นทีวี จึงเป็นรายได้ที่มาจากการขายโฆษณาปกติ ยอดขาย 40 ล้าน มาจากราชการแค่ 1 – 2 ล้าน ชีวิตตนรู้จักนักการเมืองมากมาย ปะทะกับนักการเมือง กับผู้มีอำนาจมาแล้วทุกคน แต่ไม่เคยไปขอเงินแม้แต่โฆษณา เพราะตนมั่นใจในสิ่งที่ทำ มั่นใจในความสำเร็จที่ประชาชนยอมรับ และธุรกิจโฆษณาต้องเข้ามาสนับสนุน

“เงินที่จะจัดตั้งดำเนินการธุรกิจทีวีต่อไปในอนาคตข้างหน้า อย่าลืมว่าผมเคยเป็นเจ้าของเจ้าของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม สร้างตึกของตัวเองได้จากกำไรในการทำธุรกิจข่าวสาร มีเครดิตพอที่จะกู้แบงค์หรือกองทุนที่จะทำงานต่อไปได้ เดือนมกราคมนี้พบกันแน่นอน ทีมงานทุกคนในนาม TOP TV แล้วจะมีรายละเอียดติดตามมา” นายสนธิญาณ กล่าวทิ้งท้าย

ขอขอบคุณข้อมูล สถาบันทิศทางไทย-Thai Move Institute