รฟท.แจง”โฮปเวลล์”ตั้งทีมงานป้องผลประโยชน์รัฐ ชี้ยังไม่จ่ายค่าเสียหาย อายุความยังไม่เริ่ม

112

กระทรวงคมนาคม ควง ภูมิใจไทย แจงยิบ คดีโฮปเวลล์ ยังไม่เริ่มนับอายุความ ยังไม่ได้จ่ายค่าเสียหายแม้แต่บาทเดียว ลั่น ยึดหลักประโยชน์สูงสุดแก่รัฐและปชช.

วันที่ 16 ก.พ. ที่รัฐสภา นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย พร้อมผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ชี้แจงหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถึงอายุความคดีโฮปเวลล์ โดย นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แถลงว่า หลังศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาเมื่อเดือน เม.ย.ปี 62 ให้กระทรวงคมนาคม ชดใช้ค่าเสียหายคดีโฮปเวลล์ตามคำพิพากษาอนุญาโตตุลาการ กระทรวงคมนาคม ไม่ได้นิ่งนอนใจ ดำเนินการ 3 ส่วน ยึดหลักประโยชน์สูงสุดแก่รัฐและประชาชน คือ การต่อสู้คดีที่ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อให้วินิจฉัยว่า มติที่ประชุมใหญ่ของศาลปกครองสูงสุดเป็นการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ หรือไม่ ส่วนดำเนินคดีอาญา โดยทาง รฟท.มอบอำนาจให้ทนายความร้องทุกกล่าวโทษ ถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำความผิดอาญา แต่ดีเอสไอแจ้งว่า อยู่นอกขอบเขตอำนาจ จึงส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการต่อ

ขณะที่การหาคนผิดทางละเมิดนั้น กระทรวงคมนาคม ทำหนังสือเสนอนายกฯ เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2563 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ความรับผิดทางละเมิดจากเรื่องดังกล่าวแล้ว ที่ฝ่ายค้านระบุว่า คดีความใกล้หมดอายุความนั้น ยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่เจอผู้กระทำผิด อายุความจึงยังไม่ได้นับตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ศ.2539 เราจึงยังไม่ได้จ่ายค่าเสียหายแม้แต่บาทเดียว

“ต้องเรียนว่าถ้าเรามองว่าคำพิพากษา ของศาลปกครองสูงสุดในเดือนเมษา 2562 เป็นคำพิพากษาที่ถึงที่สุดในทางทฤษฎี ก็จะเห็นว่ามีเหตุละเมิดเกิดขึ้น ส่วนใครจะต้องรับผิดในการละเมิดนั้นต้องไปค้นหาข้อเท็จจริงกันอีก ว่าจริงๆ แล้วเหตุละเมิด เกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ หรือจริงๆ เกิดจากเหตุใดเหตุอื่น หากเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องไปดูว่าใครเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเหตุละเมิด และมีข้อกฎหมายตามพระราชบัญญัติปี 2539 ทางกระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการในส่วนนี้ครบถ้วนตามขั้นตอนและความรอบคอบอย่างถึงที่สุดแล้ว” นายนิรุฒิ กล่าว

ขณะที่นายศุภชัย กล่าวสรุปว่า ดังนั้นที่บอกว่าคดีจะหมดอายุความในอีกไม่กี่วัน จึงไม่เป็นความจริง