“ชวน”มึน!! ข้องใจ”วิษณุ”บอกเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ถกร่างประชามติ เร็วเกินไป

128

ประธานรัฐสภา ระบุ ร่าง พรบ.ประชามติ เป็นข้อเสนอของรัฐบาล เพื่อให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญ วันที่ 7-8 เม.ย64 ข้องใจทำไม “วิษณุ เครืองาม” เห็นว่า รัฐสภา กำหนดประชุมเร็วเกินไป

วันที่ 24 มี.ค.64 นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุถึงการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 7-8 เม.ย. เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติเร็วเกินไปว่า เรื่องนี้อยู่ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ พ.ศ. … จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จ ซึ่งเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ได้พูดคุยกับ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว. ในฐานะประธาน กมธ.ทราบว่าจะมีการประชุมในวันที่ 1 เม.ย.ก็จะเสร็จ แต่ถ้ารอให้เสร็จ แล้วทำเรื่องกราบบังคมทูลเพื่อเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญอาจจะไม่ทันในวันที่ 7-8 เม.ย. เพราะต้องมีระยะเวลาในการทำเรื่องทูลเกล้าฯ ซึ่งทางคณะ กมธ.ให้การรับรองแล้วว่าพิจารณาเสร็จทัน

อย่างไรก็ตาม กฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายด่วนของรัฐบาล ไม่ใช่สภาเป็นผู้เสนอ ซึ่งประธาน กมธ.ฯ ผู้นำฝ่ายค้าน และนายวิษณุ ได้พูดคุยกันเบื้องต้นแล้วว่าจังหวะเวลาเปิดประชุมสมัยวิสามัญ มีความเห็นสอดคล้องกันว่าวันที่ 7-8 เม.ย. เหมาะสม เพราะหลังจากนี้จะเป็นวันหยุดยาวของสมาชิกรัฐสภา “ผมไม่เข้าใจว่าเร็วเกินไปหมายถึงอะไร ถ้าไม่เร็วก็ต้องไปพิจารณาในสมัยสามัญเดือนพฤษภาคมเลย ถ้าไม่ใช่เรื่องด่วนก็พิจารณาแบบนั้นได้ แต่ในกรณีนี้ถือเป็นเรื่อด่วนที่รัฐบาลเป็นผู้เสนอ” นายชวน กล่าว

เมื่อถามว่ามีบางฝ่ายเป็นห่วงร่างกฎหมายดังกล่าวอาจจะขัดรัฐธรรมนูญ นายชวน กล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์เรื่องนี้ เพราะเราทำหน้าที่ต่อฝ่ายที่เสนอกฎหมายมาให้ได้รับการพิจารณาตามวาระที่สภาดำเนินการ เพื่อไม่ให้กฎหมายค้างพิจารณา แต่การเปิดประชุมสภาวิสามัญที่ผ่านมาก็เปิดมาเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ให้จบ แต่บังเอิญเกิดปัญหาขึ้นมาก็ต้องมาพิจารณาอีกรอบ

เมื่อถามอีกว่าถ้ามีคนไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญจะทำให้กระบวนการพิจารณาสะดุดหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า คนละเรื่องกัน การไปร้องก็แล้วแต่สมาชิก หรือใครก็ตามที่จะไปร้อง แต่สภามีหน้าที่กำหนดระยะเวลาโดยหารือกับทุกฝ่าย เพราะสภากำหนดเองไม่ได้ ถ้าเกิดรัฐบาลหรือฝ่ายอื่นไม่พร้อม หรือไม่ประสงค์จะเปิดประชุมก็เป็นสิทธิ์ เพราะผู้เสนอเปิดประชุมวิสามัญคือฝ่ายบริหาร ไม่ใช่ฝ่ายนิติบัญญัติ

ดังนั้น จึงอยู่ที่รัฐบาลว่าต้องการให้กฎหมายฉบับนี้เป็นอย่างไร หากรัฐบาลเปลี่ยนใจไม่เร่งเสนอกฎหมายก็เป็นสิทธิ์ของรัฐบาล เราไม่มีปัญหาอะไร สภามีหน้าที่ดูแลนัดวันประชุมและกำหนดวาระให้ เพื่อให้เสร็จภารกิจเท่านั้น ทั้งนี้ ทางรัฐบาลได้แจ้งมายังสภาให้ยืนยันว่าติดปัญหาอย่างไร ซึ่งตนตอบไปแล้วว่าเป็นเรื่องของรัฐบาล เพราะเป็นกฎหมายของรัฐบาลที่เป็นเรื่องด่วน