ไม่เคอร์ฟิว-ไม่ล็อกดาวน์! บิ๊กตู่ รับเจ็บทุกครั้งออกมาตรการคุมโควิดกระทบ ปชช.

48

นายกฯ เผยเจ็บปวดทุกครั้งที่ออกมาตรการคุม covid กระทบประชาชน มุ่งแก้ปัญหาให้ดีที่สุด ระบุฉีดวัคซีนนักการเมืองก่อนเพราะต้องพบปะประชาชน ลั่นประเทศไทยต้องชนะ เมื่อถึงยามคับขัน ปชช.ต้องการผู้กล้าหาญ ขออย่าตื่นตระหนกเกินไป การ์ดอย่าตก

วันที่ 16 เม.ย.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 5/2564 กล่าวว่า ขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนกมากเกินไป รัฐบาลกำลังพยายามแก้ปัญหาสถานการณ์แพร่ระบาด covid ก่อนหน้านี้เคยมีล็อกดาวน์ประเทศไปแล้วในครั้งแรกซึ่งมีผลเสียหายต่อเศรษฐกิจแต่เราก็จำเป็นต้องล็อกดาวน์ จากนั้นมีการแพร่ระบาดในช่วงที่ 2 ที่จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นพื้นที่ค้าขาย วันนี้เข้าสู่ระยะที่ 3 สาเหตุแพร่ระบาดมาจากสถานที่ท่องเที่ยวและบริการ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าสถานการณ์พร้อมที่จะแพร่ระบาดในทุกพื้นที่ ทั้งนี้ ตลอด 7 วันที่ผ่านมาตนได้กำกับดูแลให้แนวทางปฏิบัติทุกๆ เรื่องแนวทางการควบคุมสกัดกั้นการแพร่ระบาด รวมถึงการจัดหาวัคซีน และฉีดวัคซีนมาอย่างต่อเนื่อง

“มาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลออกมาทุกครั้ง ผมรู้สึกเจ็บปวดและหนักใจ เพราะรู้มาตรการจะมีผลกระทบต่อประชาชนทุกระดับ โดยเฉพาะผมห่วงใยผู้มีรายได้น้อย เพราะเป็นแหล่งทำมาหากินเป็นอาชีพของพวกท่านดังนั้นหลายๆอย่างผมไม่สามารถตัดสินไปทางใดทางหนึ่งได้โดยไม่คำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ในฐานะผมเป็นผู้รับผิดชอบก็จะพยายามแก้ปัญหาให้ดีที่สุด”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า การฉีดวัคซีนเป็นการเพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ผู้ที่ฉีด แต่ไม่ได้หมายความว่าฉีดวัคซีนแล้วจะไม่เป็น แต่อย่างน้อยมีภูมิต้านทานที่จะไม่ติดเชื้อได้ง่ายมากขึ้น และไม่สามารถแพร่ระบาดเชื้อให้แก่ผู้อื่น นั่นคือความมุ่งหมายในการฉีดวัคซีน ตนเป็นนายกรัฐมนตรีรักคนไทยทั้งประเทศ ไม่ว่าจะยากดีมีจน วันนี้รัฐบาลได้เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้บรรดานักการเมืองที่จำเป็นต้องไปพบปะพี่น้องประชาชน แต่หากใครไม่อยากฉีดก็บอกมาหรือประกาศมาได้เลย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ตนมีประสบการณ์การแพร่ระบาดมาตั้งแต่ระยะที่ 1 ระยะที่ 2 และมาสู่ระยะที่ 3 ต้องฟังจากกรมควบคุมโรคและอีกหลายๆ ส่วนทุกวันไม่ได้หยุดพัก จนกระทั่งวันนี้นำมาสู่การประชุม ศบค.ชุดใหญ่ วันนี้หากเราการ์ดตกก็รู้อยู่แล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น หลายอย่างก็กังวลโดยเฉพาะเรื่องการเว้นระยะห่าง ไม่ว่าจะเป็นในครอบครัว สังคม หรือชุมชน หลายคนไม่ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว นั่นคืออันตรายทั้งสิ้น ดังนั้นจะการ์ดตกไม่ได้ ที่บ้านตนก็ใช้ช้อนกลาง นั่งกินข้าวในครอบครัวเว้นระยะห่าง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า เมื่อผมออกกติกาไปหากท่านไม่ปฏิบัติ ตนก็ตามท่านไม่ได้ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทั้ง อสม.ฝ่ายความมั่นคง นี่คือสิ่งที่จะทำให้เราปลอดภัยสิ่งใดที่เป็นความเสี่ยงก็อย่าไปทำ อย่าประพฤติตนบนความประมาทเพราะจะทำให้เกิดสถานการณ์ลุกลามบานปลายมากยิ่งขึ้น บางสิ่งที่เสนอมาก็นำมาขับเคลื่อนไม่ใช่ไม่ฟังใครเลยประเทศไทยต้องชนะ เมื่อถึงยามคับขันประชาชนต้องการผู้กล้าหาญ