“ศุภชัย”ชูธงค้าน!! นายกฯ ตั้ง”พลเอก”เป็นผอ.ศูนย์แก้โควิด จชต. ชี้ ต้องให้ “หมอ”นำ

45

“ศุภชัย” โต้ลั่น! ไม่เห็นด้วยนายกฯ ตั้ง “พลเอก” เป็น ผอ.ศูนย์บูรณาการ แก้โควิด-19 พื้นที่จชต. ชี้ควรเป็น แพทย์ ที่มีความรู้โดยตรง เผยที่ผ่านมา มีบทเรียนในอดีตที่สร้างปัญหามาแล้ว ในศบค. ขออย่าอ้างเรื่องความมั่นคง จี้ ต้องคืนอำนาจให้”หมอ”

นายศุภชัย ใจสมุทร แกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และนายทะเบียนพรรค ได้โพสต์เฟสบุ๊ค แสดงความไม่เห็นด้วยกรณี นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งแต่งตั้งนายทหารยศพลเอกดำรงตำแหน่ง ผอ.ศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเห็นว่า ตำแหน่งดังกล่าวควรเป็นบุคคลากรทางการแพทย์ โดยระบุว่า …เรื่องโควิด ต้องให้หมอนำ

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสร่วมคณะไปสี่จังหวัดภาคใต้คือสงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณาสุข โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงร่วมด้วย เนื่องจากสถานการณ์โควิดค่อนข้างตึงเครียด ซึ่งรอบนี้สาธารณสุขได้นำวัคซีนไฟเซอร์จำนวนหนึ่งล้านโดสไปเพื่อฉีดได้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมครบถ้วน และจากการติดตามการร่วมกันทำงานของหน่วยงานในพื้นที่พบว่าเป็นไปอย่างดียิ่ง พูดได้ว่าเอาอยู่อย่างแน่นอนในไม่ช้า

แต่พอกลับมาแค่สองวัน ล่าสุด ท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมีคำสั่งจัดตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด – 19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์) เป็นผู้อำนวยการศูนย์ เพื่อแก้ไขการระบาดของโรคในพื้นที่ปลายด้ามขวาน แล้วให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รวมไปถึงปลัดกระทรวงอื่นๆ ไปจนถึงผู้ว่าราชการในจังหวัดที่เกี่ยวข้องไปเป็น “ลูกมือ” ของท่าน

แต่หัวโต๊ะ ผู้มีอำนาจสูงสุดคือ “นายทหาร” ยศพลเอก ต้องขอบคุณกับเจตนาดี ในการกระชับอำนาจ เพื่อให้ท่านมีความคล่องตัวในการบริหารงาน ประเด็นคือ นี่ท่านกำลังเอาโมเดล “ความมั่นคงต้องมาก่อน” มาใช้กับเรื่องสาธารณสุข ซึ่งผมเห็นว่ามันไม่เหมาะสม เป็นการนำเอา”การทหารนำการสาธารณสุข”สอดรับกับแนวทาง”การทหารนำการเมือง”ที่ท่านนำมาใช้ในการแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

ผมไม่ได้มีปัญหากับตัวบุคคล แต่ผมมีปัญหากับหลักคิด ที่ใช้ทหารมานำในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่มีรายละเอียดมาก เกี่ยวกับชีวิต เกี่ยวกับสุขภาพของประชาชน ก็สมควรจะให้หน่วยงาน ที่มีความถนัดเฉพาะทางนั้นขึ้นมานำการทำงาน หรือถ้าท่านไม่เชื่อมือใครแล้ว ท่านก็ไม่ต้องตั้งหน่วยงานอื่นๆ มานั่งกับท่าน ท่านใส่ชื่อแพทย์ทหารไปได้เลย ท่านจะได้คุมแบบเบ็ดเสร็จ

ตอนนี้ สังคมกำลังมองว่านี่คือการ ขยายอำนาจให้ตัวเองของท่าน อย่าลืมว่า ประเทศไทย มีกฎหมายสำหรับการควบคุมโรค หลายต่อหลายตัว สามารถปรับใช้ได้เลย โดยไม่ต้องตั้งใหม่ แล้วเอาทหารมาคุมเหมือนที่กำลังทำอยู่ ผมจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัด คือ เรื่องของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ท่านยังตั้งหน้าตั้งตาใช้อยู่นั้น เอาเข้าจริง สามารถแทนที่ได้ด้วย พ.ร.ก.โรคติดต่อ ซึ่งล่าสุด มีการปรับให้เข้ากับสถานการณ์โรคระบาด แต่ท่านก็ไม่ใช้ ยังจะดึงดันรวบอำนาจไว้ที่ตัวเอง

แล้วที่ผ่านมา การเอาทหารไปนำหมอ เราเคยเรียนรู้ มีประสบการณ์มาแล้ว เดือนพฤษภาคม 2564 เรามี ศูนย์อำนวยการแก้ไขโควิด-19 พื้นที่ กทม.และปริมณฑล ท่านพลเอกประยุทธ์ นั่งเป็น ผอ.ศูนย์ แล้วผลออกมาเป็นอย่างไร ? จากเรื่องการตั้ง ศบค.กรุงเทพฯ เท่ากับว่า ท่านพร้อมจะให้ทหารนำหมอในทุกพื้นที่ ดังนั้น อย่ามาอ้างว่า ที่ต้องตั้ง ศบค.ชายแดนใต้เพราะท่านกังวลเรื่องความมั่นคง

ผมไม่อยากฟื้นฝอย ไปจนถึงหาเรื่อง แต่การเมืองในระบอบประชาธิปไตย ควรกระจายอำนาจให้แต่ละคน แต่ละฝ่าย แต่ละหน่วย ได้ทำงานที่ถนัดมิใช่หรือ เพราะจะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ผมเคยแสดงความเห็นมาหลายครั้ง และบางครั้งก็อาจไม่สบอารมณ์ท่านนายกฯ ที่ไปติติงการทำงานของรัฐบาล แต่ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร เป็นนักการเมือง ผมต้องยืนหยัดบนจุดยืนของผม เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน ผมจึงไม่เห็นด้วยกับกรณีนี้ #คืนอำนาจให้หมอ